บทที่ 1 หลงมนต์ พ่อหมอ
บทที่ 1
ณ ตำหนักหมอธรรมแห่งหนึ่ง
พ่อหมอหนุ่มนามว่า บุญสิงห์ อายุสามย่างสามสิบห้าปี รูปร่างกำยำสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้มหล่อเหลา เขาสืบทอดวิชาอาคมของตระกูล ซึ่งเป็นหมอธรรมประจำหมู่บ้านแห่งนี้
ตลอดเวลาที่สืบทอดเป็นหมอธรรมมานี้ราว ๆ สิบห้าปี บุญสิงห์อยู่ในศีลในธรรมตลอด และวิชาที่สืบทอดมานั้นเป็นสายขาวที่เอาไว้ช่วยเหลือคนหรือวิญญาณและตนเองเท่านั้น
เพราะที่ผ่านมาบุญสิงห์เคยโดนทำเสน่ห์ใส่ ด้วยเพราะความหล่อเหลาทำให้มีสาวน้อยสาวใหญ่ พยายามเข้าหายไม่ก็ให้ท่ายั่วยวน แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงสักคน พวกผู้หญิงเหล่านั้นเพราะความอยากได้อยากครอบครองจนตัวสั่น จึงต้องใช้เล่ห์กลมนต์คาถาทำของใส่บุญสิงห์
แต่เพราะชายหนุ่มมีวิชาติดตัว จึงไม่เคยมีใครที่จะทำอะไรเขาได้ ของพวกนั้นที่ถูกทำมามักจะตีกลับคนที่ทำใส่จนเป็นบ้าเลยก็มี
ในแต่ละวันจะมีผู้คนแวะเวียนมาให้เขา ช่วยเหลือไม่ขาดสาย และวันนี้ก็เช่นกัน ยายแจ๋วผู้สูงอายุในหมู่บ้านที่บุญสิงห์รู้จักดี แกเดินนำสองแม่ลูกคู่หนึ่งเข้ามานั่งอยู่เบื้องหน้า
บุญสิงห์ตวัดสายตาเข้มมองไปที่สองแม่ลูกคู่นั้น แลดูแต่งตัวแบบผู้ดีคงจะมาจากกรุงเทพ ผู้เป็นแม่นั้นดูสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนตัวลูกสาวหน้าตาจิ้มลิ้มงดงาม ผิวพรรณผุดผ่อง ผมยาวถึงกลางหลังแต่ดูยุ่ง ๆ เล็กน้อย ดวงตาแข็งขอบตาดำคล้ำจ้องเขม็งมองหน้าบุญสิงห์ตาขวาง
“มันไปทำอะไรมาถึงได้โดนหนักขนาดนั้น” บุญสิงห์มองหญิงสาว เห็นไอสีดำวนเวียนอยู่ที่ร่างกายของเธอ และเงาของผีตนหนึ่งซ้อนอยู่ที่ร่างของหญิงสาว
“พ่อสิงห์ ช่วยหลานยายด้วยเถอะมันเหมือนจะโดนผีเข้า” ยายแจ๋วบอกอย่างร้อนรน
“ไม่เหมือนหรอกยายแจ๋ว โดนผีเข้าจริง ๆนั่นแหละ ถึงได้ถามว่ามันไปทำอะไรมา” บุญสิงห์ตอบอย่างใจเย็น
“นี้ลูกสาวฉันเองชื่อ ลิลลี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าลูกสาวฉันไปทำอะไรมา แต่อยู่มันก็มีอาการแปลก ๆ แบบที่พ่อหมอเห็นนี้แหละ” สมศรีบอกแกบุญสิงห์
ชายหนุ่มคิ้วขมวด ยังคงจ้องหน้าหญิงสาวที่โดนผีเข้าอยู่ แล้วจึงตัดสินใจลุกเข้าไปใกล้ ๆ ใช้ฝ่ามือใหญ่จับเข้าไปที่กลางหัวหญิงสาวและหลับตาลง
“ฮิ ฮิ ฮิ..กูไม่กลัวมึงหรอก” ลิลลี่เหลือกตาขึ้นมองพ่อหมอหนุ่ม ใบหน้าแสยะยิ้มพูดออกมา
บุญสิงห์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเขาก้มหน้ามองลิลลี่อีกครั้ง และรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มนี้ถ้าไม่ถูกพี่เข้าจะน่ารักขนาดไหน เขาได้แค่คิดในใจ
“อืม…รู้แล้ว มันผีโสเภณีเร่ร่อน คงจะไปยังสถานที่ที่มันสิงสถิตอยู่ อีผีตัวนี้มันอดอยากมานานมันเลยมาแฝงร่างหลานยาย” บุญสิงห์ออกแรงกดหัวลิลลี่ไว้ แต่ผีที่อยู่ในร่างเธอมันก็พยายามขืนไม่ยอมก้มหัวให้
“จะทำยังไงดีล่ะพ่อสิงห์ ช่วยหลานยายด้วยเถอะ”
“ไอ้ช่วยก็ช่วยได้ แต่มันต้องใช้เวลาสักหน่อย” บุญสิงห์เงยหน้าอีกครั้ง เขาหลับตาลงพึมพำบางอย่าง
“คืนพรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวง ฉันจะทำพิธีให้” บุญสิงห์เอ่ยบอกหญิงทั้งสอง
“ได้ ๆ รีบทำเลยพ่อหมออยากทำอะไรทำได้เลย แค่ให้ลูกฉันกลับมาเป็นปกติ จะเสียเงินเท่าไรฉันก็ยอม” สมศรีรีบยกมือไหว้
“ไม่ต้องห่วงฉันช่วยแน่นอน ตอนนี้พามันกลับไปก่อนพรุ่งนี้ตอนหัวค่ำค่อยมาใหม่” พ่อหมอหนุ่มเอ่ยสั่ง
“แต่…” สมศรีและยายแจ๋วมีท่าทีกังวล
“แต่อะไร”
“ให้ลิลลี่มันอยู่ใกล้ ๆ พ่อหมอได้ไหม ถ้าพากลับไปคืนนี้คงจะไปได้นอน” สมศรีกล่าวท่าท่างกลัว ๆ
“......ได้ให้มันอยู่ตรงนี้แหละ ฉันจะค่อยดูให้” บุญสิงห์ช่างใจคิดนิดหน่อยแต่ก็ตอบตกลงไปเพราะรู้ว่าใคร ๆ ก็คงจะกลัวผี
พอแม่และยายกลับไป พ่อหมอหนุ่มก็ทำทีเป็นเดินออกมาด้านนอก นางผีที่สิงร่างลิลลี่อยู่เห็น ก็แสยะยิ้มและรีบลุกขึ้นชี้
“กูจะเอามึงมาทำผัวให้ได้ ฮิ ฮิ ฮิ”
แต่บุญสิงห์ก็ไม่ได้สนใจ เขายังคงเดินต่อไปจนกระทั่งถึงโอ่งน้ำ ชายหนุ่มสวดพึมพำคาถาอยู่สักพักก็เรียกให้ลิลลี่เข้ามาใกล้ ๆ
“มานี้สิ”
“ทำไมยอมเป็นผัวกูแล้วเหรอ” นางผีที่สิงร่างนั้นอยู่มีท่าทีดีใจรีบเดินเข้ามาใกล้ ๆ บุญสิงห์ก็ตักน้ำในโอ่งที่เขาบริกรรมคาถาไว้ราดใส่ร่างของลิลลี่ทันที
กรี๊ด ! กรี๊ด! กรี๊ด!
เสียงกรีดร้องดังจนแสบแก้วหูอยู่สามครั้ง ร่างนั้นก็ฟุบลง
“คงจะกดวิญญาณได้สักพัก” พ่อหมอหนุ่มพึมพำกับตนเอง พร้อมกับมองร่างเล็กตรงหน้าที่ฟุบอยู่ เสื้อผ้าขอเธอเปียกชุ่มจนแนบเนื้อไปหมด
บุญสิงห์เข้าไปจับประคองร่างของลิลลี่ให้เงยขึ้น เขามองสำรวจไปทั่วร่างกายของหญิงสาว และเริ่มรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เสื้อเปียก ๆ ที่แนบไปกับเนื้อจนเห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ใบหน้าขาวแก้มเนียนใสที่หลับตาพริ้ม ขนตายาวเรียงเป็นแพ อยู่ในอ้อมแขนมันให้ชายหนุ่มร้อนรุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“แค๊ก! แค๊ก!” เปลือกตาคล้ำกะพริบถี่ หญิงสาวรู้สึกถึงความหนาวเหน็บ ร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนพ่อหมอ
“คะ..คุณเป็นใคร” เสียงหวานเอ่ยถาม
“ฉันเป็นหมอธรรม ชื่อบุญสิงห์ แม่กับยายเธอเอามาฝากไว้”
“หมอธรรม” หญิงสาวทวนคำพูด พลางนึกในใจ สมัยนี้ยังมีอยู่ด้วยเหรอ แล้วหมอธรรมทำไมหน้าตาดีแบบนี้
“มองอะไร” บุญสิงห์เอ่ยถาม
“เปล่า ๆ” ลิลลี่หลบสายตาพ่อหมอหนุ่ม
“ไปเปลี่ยนชุดก่อน เปียกหมดแล้ว”
“แล้วทำไมถึงเปียก แล้วทำไมลิลลี่ต้องอยู่ที่นี่ แล้วทำไมแม่กับยายต้องมาฝากไว้” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างสงสัย แต่มันทำเอาชายหนุ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“เลิกถามไปเปลี่ยนชุดก่อน” บุญสิงห์ตัดบทพร้อมกับส่งเสื้อผ้าของเขาให้เธอ
นี้กูเป็นอะไรไป หรือจะโดนของ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยวะ
เขาบ่นตนเองเบา ๆ หลังหญิงสาวเดินเข้าห้องไป
“ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงหรือคะ” ลิลลี่ยืนอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่มด้วยชุดที่หลวมโครง
“ไม่มีที่นี่ฉันอยู่คนเดียว จะมีแต่พวกลูกศิษย์เท่านั้นที่ไป ๆ มา ๆ แค่ช่วงเช้า”
“อยู่คนเดียว! แล้วตอนนี้ลิลลี่อยู่กับคุณสองต่อสอง”
“สองต่อสองที่ไหน ผีในตัวเธอด้วยไง และก็มีผีพรายกับกุมารที่ฉันเลี้ยงไว้”
“ผะ…ผีเหรอ” ลิลลี่ตกใจรีบโผเข้าไปกอดแขนพ่อหมอหนุ่มทันที
บุญสิงห์หลี่ตามองร่างเล็ก อกนุ่มนิ่มที่ไม่ได้ใส่ชั้นในกอดแขนบดเบียดอยู่ที่ข้างตัวเขา
“ผีที่ผมเลี้ยงจะไม่ออกมาหรอกถ้าผมไม่เรียก จะกลัวทำไมผีก็อยู่ในตัวคุณนั่นแหละ”
“กรี๊ด! ในตัวลิลลี่น่ะหรือ” หญิงสาวร้องโว้ยวาย เปลี่ยนจากกอดแขนมาเป็นกอดชายหนุ่มทั้งตัว หัวของเธอซุกอยู่ที่ออกเขา
ตึก! ๆ ตึก! ๆ เอาอีกแล้วลิลลี่ทำเขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ทำไมนะผู้หญิงคนนี้ทำเสน่ห์อะไรกับเขากันแน่
“นี้คุณเป็นหมอธรรมไม่ใช่เหรอ เอาผีออกไปสิ”
“ก็กำลังจะทำพิธีให้ เธอปล่อยฉันก่อนได้ไหม”
“ไม่ ลิลลี่กลัวผี”
“ตอนนี้ไม่มี ฉันสะกดมันไว้ชั่วคราวแล้ว”
“จริงเหรอ”
“อืม…ปล่อยสิ”
“ก็ได้”
บุญสิงห์ถอนลมหายใจออกอย่างโล่งอก เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ทั้งร้อนรุ่มและวูบวาบ
“กว่าจะถึงวันทำพิธีก็พรุ่งนี้ค่ำ ๆ เธอก็อยู่ที่นี้ไปก่อน
เมื่อถึงเวลาเข้านอน บุญสิงห์ให้ลิลลี่นอนในห้องของเขา ส่วนตัวเขาจะนอนอยู่ข้างนอก แต่หญิงสาวไม่ยอมเธอบอกว่ากลัวผี
พ่อหมอหนุ่มจึงได้เข้ามานอนในห้องกับเธอ เขาให้หญิงสาวนอนบนเตียง ส่วนตนเองปูผ้านอนที่พื้นใกล้ ๆ
กลางดึกสงัด ร่างระหงนอนบิดกายกระสับกระส่าย ก่อนจะเบิกตาโพลงแล้วลุกขึ้นมานั่งก้มหน้า เหลือกตามองไปรอบ ๆและแสยะยิ้มกว้าง ก่อนจะหยุดสายตาที่บุญสิงห์ที่หลับอยู่
“ฮิ ฮิ ฮิ กูจะเอามึงมาเป็นผัว” ผีในร่างของลิลลี่ลุกขึ้นจากเตียงนอน มานั่งยองข้างร่างหนากำยำของพ่อหมอ แล้วใช้นิ้วมือแตะไปที่แผงอก นิ้วเรียวค่อย ๆ ลูบไล้ลงมาตามมัดกล้ามหน้าท้องของชายหนุ่มและหยุดที่ขอบกางเกง
บุญสิงห์รู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่หญิงสาวขยับตัวบนที่นอนแล้ว และรู้ด้วยว่าตอนนี้เธอกำลังโดนผีโสเภณีตัวนั้นควบคุมอยู่
หมับ! บุญสิงห์จับที่ข้อมือเล็กของเธอให้หยุดไว้
ร่างของลิลลี่หันหน้าขวับมองหน้าพ่อหมอหนุ่มแล้วรีบกระโจนขึ้นคร่อมร่างเขาไว้
“มึงอยากเจอดีมากใช่ไหม” บุญสิงห์ใช้มืออีกข้างยื่นขึ้นมาบีบคอหญิงสาวเอาไว้
“แค๊ก ๆ คุณ..บีบคอลิลลี่ทำไม”
“.....” บุญสิงห์แปลกใจเพ่งมองหญิงสาวที่นั่งคร่อมทับจุดกลางกายเขาพอดิบพอดี เมื่อกี้นี้ยังเป็นผีตัวนั้นอยู่เลย เขาคิดในใจ
“ลิลลี่” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอซ้ำ
“ใช่ ลิลลี่ไงคะ” ผีโสเภณีหลอกเขา เมื่อเธอยืนยันบุญสิงห์จึงได้ปล่อยมือออกจากคอเธอ
แต่หญิงสาวกลับรีบโน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากใหญ่ โดยที่พ่อหมอหนุ่มยังไม่ทันตั้งตัว
ริมฝีปากเล็กจูบบดอย่างช่ำชองลิ้นเล็กส่งความหวานเข้าไปในโพรงปากใหญ่ของพ่อหมอหนุ่ม ไล่กวาดต้อนลิ้นใ หญ่แล้วดูดอย่างหื่นกระหาย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ากำลังปลุกสัญชาติดิบของเขา...

























