บทที่ 3 หลงมนต์ พ่อหมอ NC18++
บทที่ 3
“พ่อหมอจ้า…อย่าพึงหยุดซิจ๊ะ”
“นางผีตัวนี้ ร่านดีจริง” บุญสิงห์กล่าวแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับแท่งเนื้อที่แข็งโด่ผงกเชื้อเชิญ ให้ผีสาวในร่างลิลลี่คลานเข้ามาใกล้ ๆ
ร่างขาวโพลนคลานมาหยุดที่หว่างขาชายหนุ่ม ก่อนจะเอื้อมมือเล็ก ๆ ทั้งสองไปกอบกุมลำเอ็นของใหญ่ของพ่อหมอ
เธอเลียริมฝีปากเหมือนเห็นของหวานอยู่ตรงหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงใช้ปากของเธออมท่อนรักของพ่อหมอ พยายามอมเข้าไปให้ลึกที่สุดจนหัวบานหยกชนเข้ากับคอหอย แล้วรูดขึ้นลงทั้งดูดทั้งเลียอย่างอร่อย
บุญสิงห์เสียวซ่านจนใบหน้าเหยเก มือใหญ่รวมผมของเธอไว้แน่น เอวหนาเริ่มนั่งไม่คิดพื้น สะโพกสอบเสยเด้งท่อนเนื้อเข้าปากหญิงสาวอย่างเมามัน
อ่อก! อ่อก!
“อ่าส์…ดีมาก..เสียวหัวดีจัง…ซี้ด” พ่อหมอหนุ่มครางกระเส่าไม่หยุดปาก เขากระแทกดุ้นใส่ปากของลิลลี่ไม่หยุดจนผีสาวให้ร่างของเธอเหลือกตาขึ้นมอง เธอเอื้อมมือไปลูบคล้ำมัดกล้ามหน้าท้องของเขาอย่างหลงใหล
ในที่สุดบุญสิงห์ก็ยอมถอนท่อนเนื้อออกมาจากปากของเธอ แล้วจับพลิกร่างเล็กให้หันหลังเขาเอามือกดคอของเธอเอาไว้ จนก้นของเธอลอยเด่นเผยให้เห็นกลีบเกสรจากหลังด้านหลัง
พ่อหมอหนุ่มไม่รอช้าจับท่อนรักเขาสอดเข้าไปจนมิดลำ
“อ่าส์….ซี้ด เสียวจังเลยพ่อหมอจ้า”
“กระแทกเข้ามาเลย…อ่าส์…โอ้ว เสียวสุด ๆ ไปเลย”
ผีสาวในร่างลิลลี่อ้าปากร้องครางอย่างสุดสม เธอแอ่นสะโพกโก้งโค้งให้ชายหนุ่มกระแทกได้สะดวก
ปั่ก! ปั่ก !
“ตอดดีนิ นางผีร่าน” บุญสิงห์กระแทกเน้นหนัก ๆ ร่องของเธอก็ตอดรัดลำเอ็นจนชายหนุ่มกัดฟันแน่น
“แรงอีก…กระแทกแรง ๆ อ่าส์ เอวดีมากเลยพ่อหมอจ้า เมียชอบมากเลย กระแทกแรงอีก โอ้วว”
เพลี้ย! เสียงฝ่ามือของบุญสิงห์ฟาดเข้าไปที่สะโพกขาว ๆ จดเกิดรอยแดงเป็นรูปนิ้วมือ พร้อมกับสะโพกหนาที่ยังกระเด้าไม่หยุด
“อ่าส์….จะแตกแล้ว..แรง ๆ เลยพ่อหมอจ้า…อ่าส์..อร๊าย อ๊ะ อ๊ะ ..” ร่างของลิลลี่เกร็งกระตุ้น มือจิกเกร็งผ้าปูที่นอนแน่นร้องครางเสียงหลงร่างเล็กสั่นสะท้าน
พ่อหมอหนุ่มก็พยายามจะสกัดกั้นอารมณ์ เขาเองก็ใกล้จะแตกอีกรอบแล้ว ก็ร่องเสียวของเธอเล่นตอดไม่หยุดแบบนี้
เอวแกร่งขยับตอดอัดอยู่ในร่องสวาท ที่กำลังตอดรัดท่อนเนื้ออย่างรุนแรง
ร่างใหญ่โน้มตัวลงไปด้านหาหญิงสาว ขยับสะโพกหนาเน้นอีกสองสามครั้ง แล้วจึงชักแท่งร้อนออกมาน้ำสีขาวข้นก็พุ่งออกจากปลายหัวบานหยักอย่างเฉียดฉิว
“อ่าส์….อืม..” เสียงคำรามแหบต่ำเสียงดังสนั่น บุญสิงห์หายใจแรงมองร่างเล็กของลิลลี่ที่สลบไปพร้อมกับน้ำกามสีขาวกลิ่นคาวคลุ้ง ที่เปรอะเปื้อนอยู่ตามตัว
“ลิลลี่ ลิลลี่” บุญสิงห์เอ่ยเรียกเธอเบา ๆ
“อืม…” เปลือกตาสวยค่อย ๆ ขยับเปิด เธอรู้สึกว่าร่างกายมันหนักอึ้งไม่มีแรงที่จะขยับ
“คุณ..” ลิลลี่มองไปที่พ่อหมอ และเรือนร่างหนากำยำของเขา
ภาพการร่วมรักของเธอกับเขาก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอทันที หญิงสาวผงกหัวมองเรือนร่างของตนเอง ที่มันเปื้อนเหนียวไปด้วยคราบน้ำกาม และกลิ่นคาวคลุ้งตีสวนขึ้นจมูก
“ทำไม ทำไมลิลลี่ถึงอยู่ในสภาพนี้ เพราะผีตัวนั้นเหรอ” มือเรียวเอื้อมไปดึงผ้าที่อยู่ข้าง ๆ มาปิดบังตัวเอาไว้
“จะว่าใช่ก็ใช่ แต่ไม่ได้เป็นเพราะผีตัวนั้นซะที่เดียว มันเป็นเพราะฉันด้วยที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้” บุญสิงห์เอ่ยบอก
“เพราะคุณ” ลิลลี่นึกไปถึงภาพที่เขากำลังสาวลำเอ็นตอดอัดร่องสวาทของเธอ ความรู้สึกร้อนวูบวาบเสียวมวนอยู่ในท้องน้อยกลับมาอีกครั้ง
“ฉันขอโทษ ฉันสัญญาว่าจะช่วยเธอจากผีตนนั้นให้ได้”
“ค่ะ” เธอรับคำพ่อหมอ เพราะยังไงซะมันเป็นเพราะผีตัวนั้นยั่วยวน เขาถึงอารมณ์เตลิดและถ้าผีตัวนั้นออกจากร่างของเธอไปเครื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีก เธอคิดในใจ
เช้าวันต่อมา บุญสิงห์นั่งอยู่ที่ตั้ง ที่ประจำเขา โดยมีลูกศิษย์อยู่สองคน ที่คอยช่วยพ่อหมอหนุ่มรับแขก และทำพิธีช่วยคนที่มาขอความช่วยเหลือ
ลิลลี่นั่งอยู่ด้านหลังสุด มองดูชาวบ้านสี่ห้าคนที่มาให้พ่อหมอช่วยเหลืออยู่ ดวงหน้าสวยก็เผลอจ้องมองแค่พ่อหมอ
นัยน์ตาสีนิลจ้องไปที่ปากของบุญสิงห์อย่างหลงใหล เขากำลังท่องคาถาอะไรสักอย่างอยู่ ทั้งที่พ่อหมอกำลังทำพิธีกับคนอื่นอยู่ แต่ทำไมเหมือนตัวเธอถูกสะกดเอาไว้ไม่ให้ละไปจากไปหน้าที่หล่อเหลาและร่างกายหนากำยำของเขา
ดวงตาสวยไล่สายตาจากริมฝีปากหนา ที่ขยับมันดูยั่วยวน ผ่านลงมายังลำคอและลูกกระเดือกแหลม ลงมาถึงแผงอกที่มีขนขึ้นรำไร ลิลลี่รู้สึกว่าใบหน้าเธอร้อนผ่าว ร่างกายวูบวาบแปลก ๆ ชอบกล
จู่ ๆ ขนาดที่บุญสิงห์บริกรรมคาถาให้กับชาวบ้านตรงหน้า สายตาคมตวัดขึ้นมาสบตากับลิลลี่พอดี
หญิงสาวสะดุ้งวาบ ทำให้เธอจำเรื่องเล่าเมื่อคืนได้ทั้งหมดแม้ในขณะที่ผีโสเภณีนั้นใช้ร่างของเธอ ร่วมรักกับเขาด้วย
ลิลลี่ก็มองตาของบุญสิงห์ แววตาของเขาจ้องเธอเหมือนอยากจะกลืนกินเธออย่างไงอย่างงั้น
ในขณะบริกรรมคาถาอยู่ พ่อหมอหนุ่มเอื้อมไปหยิบปลัดขิกอันใหญ่ ขึ้นมาวางบนหัวของชาวบ้าน ลิลลี่ถึงกับตาโต เพราะรูปร่างของปลัดขิกอันนั้นมันทั้งใหญ่ทั้งยาว เหมือนท่อนรักของพ่อหมอที่แทงเข้ารูสวาทเธอเมื่อคืนนี้ไม่มีผิด
หญิงสาวถึงกับหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจ
“นี้แหละของดีของพ่อหมอ” หูของลิลลี่ได้ยินหลาย ๆ คนซุบซิบกัน
เธอยังคงจ้องปลัดขิกอันนั้นตาเป็นมัน ทำไมร่างกายของเธอมันถึงได้ร้อนวูบวาบแบบนี้ ท้องน้อยของลิลลี่มันปั่นป่วนเหมือนมีบางอย่างวิ่งอยู่
เธอรู้สึกว่าร่องของเธอกำลังเปียกแฉะ เรียวขาสวยเริ่มเบียดเข้าหากัน อย่างไม่รู้ตัว ยิ่งมองปลัดขิกอันนั้นภาพที่เธอกำลังร่วมรักกับพ่อหมอมันก็วิ่งเข้ามาอยู่ในหัว
และเหมือนพ่อหมอจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ บุญสิงห์กระตุกยิ้มที่มุมปาก ขณะที่ยังบริกรรมคาถาไม่หยุด
และหญิงสาวก็เห็นรอยยิ้มนั้นขึ้นมาพอดี นี้เขาอยู่ใช่ไหมว่าเธอคิดอะไรอยู่ในหัว ใบหน้าสวยเริ่มมีสีแดงระเรื่อ เธอรู้สึกอายจนต้องละสายตาไปมองทางอื่นและรีบลุกหนีออกมาทันที
ลิลลี่เดินออกมานั่งที่ลานหน้าบ้านหมอบุญสิงห์ สายลมเย็นอ่อน ๆ พัดโชยเอากลิ่นไอดินและแสงแดดของอากาศบริสุทธิ์ ที่หาไม่ได้ในเมืองที่เธออาศัยอยู่ มันทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
“ลิลลี่” ร่างสวยหันไปตามเสียงเรียก
“แม่! ยาย!” ลิลลี่วิ่งไปกอดแม่อย่างดีอกดีใจ
“ลิลลี่ เมื่อกี้เรียกแม่แล้วให้ไหม” สมศรีโอบกอดลูกสาวอย่างดีใจ
“แม่ ดูลิลลี่สิ” และยังหันไปบอกยายแจ๋วแม่ของเธออีกด้วย
“ไหน ๆ ให้ยายดูสิ ลิลลี่ของยายจริง ๆ ใช่ไหม” ยายแจ๋วมาลูบเนื้อลูบหัวหลานสาว
“ลิลลี่เอง แม่กับยายไม่เชื่อเหรอคะ” เธอโอบกอดทั้งเช่นกัน
“เชื่อ ๆ สิลูก” สมศรีลูบหัวลูกสาว น้ำตาปริ่มดีใจที่เธอกลับมาเป็นปกติ เพราะก่อนหน้านี้ที่โดนผีครอบงำ ลิลลี่เอาแต่ทำตาขวางไม่พูดไม่จากับใครทั้งนั้น แถมยังมีพฤติกรรมแปลก จะกินแต่ของดิบ ๆ กลางค่ำกลางคืนก็ไม่หลับนอนจนเธอหวาดระแวงไปหมด
“พ่อหมอเขาเก่ง ๆ จริง ลิลลี่มาอยู่แค่คืนเดียว ดูสิกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว” สมศรีเอ่ยชมพ่อหมอ
“แม่บอกเอ็งแล้วนางศรี ว่าพ่อสิงห์นะเก่งกาจ ผีตัวไหนมาพ่อสิงห์ปราบได้หมด” ยายแจ๋วเอ่ยเสริม
แต่ลิลลี่ยืนยิ้มเจือน ๆ นึกถึงลีลาของพ่อหมอเมื่อคืนนี้
“ใช่จ้ะ พ่อหมอเขาเด็ด..เอ๊ยเก่งจริง ๆ แหละ เป่ามนต์ใส่หัวลิลลี่นิดเดียวก็โล่งหัวไปหมด ลิลลี่ถึงได้รู้สึกตัว” เธอเล่าให้แม่กับยายฟัง แต่ภายในหัวยังปรากฏของพ่อหมอยามที่กระแทกร่องของเธออย่างดุดันเมื่อคืนนี้
“และอย่างนี้คืนนี้ยังต้องทำพิธีอีกไหม” นางศรีเอ่ยถามผู้เป็นแม่
“พิธียังต้องทำอยู่ ที่ลิลลี่ดูปกติเพราะฉันเป่ามนต์สะกดผีมันไว้” บุญสิงห์มาได้ยินที่ทั้งสามพูดคุยกันพอดี เขาเอ่ยบอกทุกคนแต่สายตาเยิ้มเป็นประกายยังคงจ้องม
องแต่ลิลลี่ผู้เดียว
“จ๊ะ ๆ ทำเหมือนเดินนั่นแหละดีแล้ว” ยายแจ๋ว
สมศรีรีบเอ่ยบอก จากนั้นบุญสิงห์จึงเดินกลับเข้าบ้านไป

























