บทที่ 7 ร่านกลิ่นรัก 7

“อืม สายที่เขมเรียนมา บริษัทเฮียไม่ได้เปิดรับสมัครด้วยสิ”

“ไม่เป็นไรเฮีย เดี๋ยวเขมหางานเองได้ ไม่รบกวนเฮียหรอกค่ะ”

“ตามใจเขมนะ แต่ถ้าอยากทำงานที่ไม่ตรงกับสายงาน บริษัทเฮียรับคนทำบัญชีอยู่ ไม่เป็นงานก็สอนกันได้นี่”

“อยู่ใกล้เฮียอีกแล้วเหรอ แล้วเขมจะได้ทำงานหรือเปล่าแบบนี้”

“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ แต่เอาไว้เป็นทางเลือกแล้วกันเขม เฮียบอกแล้ว เขมอยากได้อะไร เฮียให้ได้ทุกอย่าง เพราะเขมเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เฮียเอาแล้วมันส์มากที่สุด”

เขมมิกายิ้มแห้งๆ เขาย้ำให้เธอรู้ค่าของตนอีกแล้ว แต่ช่างเถอะ เธอเข้าใจดี ดนัยณุเป็นคนแบบนี้ จะให้เขาแคร์อะไรมากล่ะ อย่าลืมว่าเขาเป็นคาสโนว่า เธอทำให้เขาติดใจได้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว

“กลับเถอะค่ะเฮีย มืดแล้ว เขมกลัวงู”

ดนัยณุจูบปากเขมมิกาเป็นการสั่งลา ก่อนทั้งคู่จะขึ้นรถแล้วขับออกไปช้าๆ

นั่งคนเดียว แล้วมองกระจกที่สะท้อนแสงจันทร์วันเพ็ญ

โดดเดี่ยวกับความเหงาอยู่กับเงาที่พูดไม่เป็น

ฟังเพลงเดิมๆที่เรารู้จักแต่ไม่รู้ความหมายของมัน

หากฉันจะหลับตาลงสักครั้งและพบกับเธอผู้เป็นนิรันดร์

หากความรักเกิดในความฝันเราจุมพิตโดยไม่รู้จักกัน

ปฏิทินได้บอกคืนและวันดั่งที่ฉันไม่เคยต้องการ

แต่อยากให้เธอได้พบกับฉันเราสมรสโดยไม่มองหน้ากัน

จูบเพื่อล่ำลาในความสัมพันธ์ก่อนที่ฉันจะปล่อยเธอหายไป

(โดยไม่รู้จักเธอ)

(ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ นักร้อง ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง)

เขมมิกาออกสมัครงานในช่วงเวลา 3 วัน ปาเข้าไปเกือบ 10 แห่ง ได้รับคำตอบราวกับนัดหมายกันอย่างลับๆ ว่า

‘แล้วทางเราจะติดต่อกลับไปอีกทีนะคะ/นะครับ’

ทำไมพวกเขาถึงไม่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่มีงานทำ เมื่อมีงานก็จะมีประสบการณ์ แต่ถ้าไม่มีงานทำแล้วจะหาประสบการณ์ที่คุณๆ ท่านๆ ต้องการมาจากไหน

วันนี้เหนื่อยแล้ว เขมมิกาพักเหนื่อยด้วยการเข้าร้านกาแฟตากแอร์เย็นๆ พนักงานในร้านพากันมองและซุบซิบ เธอย่นคิ้วนึกสงสัยและไม่พอใจ อารมณ์เหนื่อยๆ อากาศร้อนๆ ทำให้เธอของขึ้นง่ายๆ เธอเดินเข้าไปถามอย่างพร้อมจะเอาเรื่องเต็มที่

เขมมิกาปากกัดตีนถีบมานักต่อนักตอนเด็กๆ จะมีเรื่องอีกตอนเรียนจบรบรับปริญญาจะเป็นไรไป

“มองหน้าฉันทำไมมิทราบ”

พนักงานในร้านกาแฟมองหน้ากันเลิกลั่ก ผู้ชายตัวสูงผอมจึงยิ้มแหยแล้วตอบเสียงอ่อย

“คุณสวย รูปร่างก็ดี พวกเรานึกว่าเป็นดารานางแบบ ที่มองเพราะกำลังคิดว่าอยู่สังกัดช่องไหนน่ะครับ”

เขมมิกาหน้าฝืดเฝื่อน ใครจะไปรู้คนพวกนี้มองเธอเป็นดารา อย่างเธอเนี่ยนะ ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง

“งั้นเหรอ”

“จริงค่ะ หนูก็นึกว่าพี่เป็นดาราหรือไม่ก็นางแบบ ไม่ได้คิดไปในทางไม่ดีจริงๆ นะคะ” พนักงานสาวอีกคนตอบ

“เอ่อ ฉันไม่ใช่ทั้งดาราและนางแบบค่ะ และต้องขอโทษด้วยที่ทำเสียงไม่ดีใส่นะคะ” นอกจากหน้าแตกหมอไม่รับเย็บแล้ว เขมมิกายังต้องกล่าวขอโทษคนพวกนั้นที่เธอไปหาเรื่องเขาเอง

“น้องคะน้อง”

เสียงใครเรียก เธอยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ ใครจะเข้ามาหาเรื่องเชียว เขมมิกาหันไปทางเสียงนั้น เห็นสาวประเภทสองผมยาวหน้าตามองก็รู้ว่าผ่านเครื่องมือแพทย์มามากแค่ไหน

“เรียกฉันหรือคะ” เธอหันซ้ายหันขวา กลัวว่าจะหน้าแตกเป็นหนสอง

“ใช่ค่ะ พี่เรียกคุณน้องนั่นแหละ เชิญทางนี้หน่อยสิคะ”

เขมมิกาเดินเข้าไปหา เมื่อได้รับเชิญให้นั่งด้วยกัน เธอก็ไม่ปฏิเสธ

“พี่ชื่ออุ้มนะคะ นี่ค่ะนามบัตรพี่” สาวประเภทสองส่งกระดาษแผ่นเล็กให้ “เมื่อกี้พี่ได้ยินที่น้องบอกแล้ว และตอนนี้พี่ก็สนใจในตัวน้อง อยากได้น้องมาเป็นนางแบบในสังกัดของพี่ค่ะ”

สุทัศน์ เกิดวิเชียร คือชื่อของคนตรงหน้า นามบัตรนั้นบอกว่าเขาเป็นเอเยนซี่หานางแบบเกิดใหม่ เขมมิกาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้าง

“ฉันคงไม่เหมาะจะเป็นนางแบบหรอกค่ะ”

“อะไรที่ว่าไม่เหมาะคะ หรือทางบ้านไม่ให้ทำงานนี้”

“ไม่ใช่ค่ะ แต่ฉันไม่มีหุ่นเพรียวบางเหมือนนางแบบนี่คะ ฉันคงทำอาชีพนี้ไม่ได้”

“คุณน้องน่ะเหรอคะทำไม่ได้ หุ่นนาฬิกาทรายแบบนี้สิคะที่เราต้องการ หน้าตารึก็สวยหวานอยู่แล้ว แต่งหน้าอีกนิดขี้คร้านนางงามก็ยังตกกระป๋องเลยนะคะ ถ้าคุณน้องยังหางานทำแล้วยังไม่ได้ รับงานที่พี่เสนอเถอะค่ะ งานสบายเงินดีๆ ไม่ได้หล่นใส่หัวใครง่ายๆ นะคะ”

เขมมิกาเข้าใจเพราะเธอก็เดินหางานทำยังไม่ได้มา 3 วันแล้ว นี่ดีนะที่มีรถ มีเงินเดือนที่ดนัยณุให้ทุกเดือน ไม่งั้นล่ะก็ เธอคงลำบากมากแน่ๆ งานสบายเงินดีไม่หล่นใส่หัวใครง่ายๆ แล้วถ้ามันหล่นใส่หัวเธอ เหมือนตอนเจอดนัยณุครั้งแรก เธอจะไม่คว้าโอกาสดีๆ ได้ยังไง

“ถ่ายแบบอะไรหรือคะ แล้วค่าตอบแทนเป็นยังไง พอจะบอกก่อนได้ไหมคะ อย่างน้อยก็เพื่อประกอบการตัดสินใจ”

สุทัศน์ยิ้มกว้าง ลองถามแบบนี้ไม่พลาดหล่อนต้องได้นางแบบหุ่นยั่วตัณหาเพิ่มอีกคน

“เป็นนางแบบเซ็กซี่ค่ะ ค่าตอบแทนหุ่นอย่างคุณน้อง พี่แล้วแต่คุณน้องเรียกเลยค่ะ หุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้หายากนะคะ แต่โดยปกติที่ถ่ายกัน ค่าตัวต่อชิ้นงานเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 บาท ถ้าคุณน้องสนใจ พี่ให้ยืนพื้น 20,000 บาท ต่อชิ้นงานเลย จะมากกว่านั้นก็แล้วแต่เจ้าของงาน แบบนี้แฟร์ๆ ดี หรือคุณน้องจะว่ายังไงคะ”

“แล้วพี่จะได้อะไรคะ หักค่าตัวหนูใช่ไหม”

“ว้ายๆ ระดับพี่อุ้มแล้ว ไม่มีการหักค่าตัวค่ะ เจ้าของงานจะจ่ายพี่อุ้มเองต่างหากค่ะ เงินส่วนของนางแบบก็ได้รับกันไปเต็มๆ ไม่เกี่ยวกันค่ะ”

ข้อเสนอของสุทัศน์ถือว่าไม่เลวเลย สำหรับคนว่างงานที่เดินจนรองเท้าสึกจะให้มองข้ามก็กระไรอยู่ ในเมื่อค่าตอบแทนที่สุทัศน์แจกแจงก็สูงพอสมควร ถ้าเธอทำงานนี้ ต่อไปถ้าดนัยณุแต่งงาน เธอก็จะยืนด้วยสองขาของตัวเองได้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป