บทที่ 6 เลขาส่วนตัว
คำชวนจากพี่เนมทำให้ผมนิ่งคิด พี่เนมชวนผมทำงาน ผมเนี้ยนะ เด็กบ้านๆ คนหนึ่ง เรียนก็น้อย ผมยังไม่มีมหาลัยให้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ แล้วจะให้ผมช่วยงานอะไรพี่เขาได้ละครับ
“พี่เนมจะให้ผมทำงานอะไรหรอครับ”
“เลขาส่วนตัว”
“แต่ว่าผมเรียนมาน้อย จะช่วยงานพี่ได้ยังไงครับ ผมคิดว่าผมคงไม่เหมาะกับงานนี้” ผมพูดพลางคิดไปด้วย ให้ผมเป็นเลขาส่วนตัว แสดงว่าก็ต้องคอยช่วยจัดตารางงาน นัดลูกค้า แจ้งกำหนดการอะไรแบบนี้รึเปล่านะ
“ฉันจะส่งเสียนายเรียนมหาลัยก่อน ระหว่างนั้นให้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวฉันไปพลางๆ หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมาก เตรียมรายการอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้ป้านุ่ม ให้นายเป็นคนคิดเมนูอาหารในแต่ละวัน ตอนเช้าก็เข้ามาปลุกฉันในห้องและจัดเตรียมเสื้อผ้า รวมถึงเอกสารที่จำเป็น แล้วค่อยออกไปเรียน พอนายเรียนจบฉันจะหางานที่เหมาะสมให้กับนายอีกที”
“ผมคิดว่า ผมต้องทำการนัดหมาย เตรียมเอกสารสำคัญ นัดพบลูกค้า หรือจัดเตรียมข้อมูลระหว่างที่พี่เนมทำงานที่บริษัทซะอีกครับ” ผมถามพร้อมกับทำหน้างง ก็มันเป็นหน้าที่ของเลขาไม่ใช่หรอ มันก็ต้องไปทำที่บริษัทกับพี่เนมสิถึงจะถูก แต่ทำไมงานที่พี่เนมให้ทำกลับเป็นงานที่บ้านทั้งหมดเลยล่ะ
“อันนั้นงานของเลขาที่บริษัท ก็ให้เขาทำไป นายเป็นเลขาส่วนตัว ต้องคอยดูแลเรื่องส่วนตัวของฉัน”
งั้นมันก็คงเป็นงานที่สบายมากที่สุดที่ผมเคยทำเลยล่ะครับ เพราะผมก็คอยดูแลแม่ของผมแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับงานที่พี่เนมให้ผมทำเลย
“อ่อ แล้วค่าจ้าง”
“ฉันให้เงินเดือนนาย 45,000 บ. ต่อเดือน สำหรับนายที่ยังทำอะไรได้ไม่มาก ฉันคงให้ได้แค่นี้ ไว้นายเรียนจบแล้วทำงานได้มากขึ้น ฉันจะพิจารณาปรับเงินเดือนให้ใหม่ ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ให้ป้านุ่มเป็นคนดูแล นายไม่ต้องไปยุ่งในส่วนนั้น และไม่ต้องจ่ายเงินค่าที่อยู่อาศัย” ผมยังพูดไม่ทันจบดี พี่เนมก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“มันไม่มากเกินไปหรอครับพี่เนม!!!! ผมมาอยู่บ้านของพี่ กิน นอน อาศัยบ้านของพี่อยู่ ไม่ต้องให้ผมเยอะขนาดนั้นหรอกครับ!!!” บ้าไปแล้วพี่เนม ให้ผมมาอยู่ฟรี ส่งเสียผมเรียน แล้วยังมาให้เงินค่าจ้างผมอีกเนี้ยนะ มีใครใช้เงินเป็นเบี้ยอย่างพี่บ้าง
“ฉันรวย” พี่เนมบอกผมนิ่งๆ ทำให้ผมไปต่อไม่เป็น เออ ผมรู้แล้วครับว่ารวย!!!
“อย่างน้อยให้ผมได้ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านก็ได้ครับ พี่ทำแบบนี้เหมือนให้ผมมาอยู่ฟรี กินฟรี ให้เงินใช้ฟรีๆ อีกนะครับ ผมทำไม่ได้หรอกครับ มันเอาเปรียบพี่เกินไป” ผมบอกแกมขอร้องพี่เนม ผมไม่อยากเอาเปรียบเขานี่น่า
“งั้น นายอยากได้อะไรก็เก็บเงินซื้อเอาเอง ฉันจะไม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายส่วนของนาย ตกลงไหม” ผมฟังแล้วขมวดคิ้ว ไอ้พี่โว้ยยยยย พวกนั้นมันใช่ค่าใช้จ่ายในบ้านที่ไหนกันเล่าาาาาาาาาาา
“อ่อ เหมือนผมจะคิดตามไม่ทัน ขอเวลาผมคิดสักครู่นะครับ”
“ฉันรออยู่” พี่เนมบอกเสียงเรียบ ผมจึงเริ่มคิดอย่างจริงจัง ถ้าผมทำงานกับพี่เขา ผมก็จะไม่ได้กลับบ้านที่สระแก้ว ว่ากันตามจริงแล้วผมก็ยังไม่อยากกลับเท่าไหร่ กลับไปแล้วยิ่งทำให้ผมคิดถึงแม่ขึ้นมา มันมีทั้งความทรงจำที่ดีและความทรงจำที่แย่ และถึงผมจะกลับไป ผมก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ผมไม่มีงาน ไม่มีเงิน จะมีก็แต่มรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ แต่ผมยังไม่อยากจะใช้มันตอนนี้ ผมรู้ว่าถ้าผมใช้ ปัญหายุ่งยากจะตามมาอีกเป็นพรวน ถ้าหากทำงานกับพี่เนมได้จริงๆ ก็คงจะดีไม่น้อย ผมจะได้เรียนรู้เรื่องราวธุรกิจจากพี่เนมได้ เผื่อว่าวันหนึ่งผมจะได้มีโอกาสสานต่องานของพ่อที่ทิ้งไว้ จะได้กลับไปฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ ผมคงไม่ขอให้พี่เนมมาสอน แต่ผมจะพยายามจำหลักการและเอามาปรับใช้เอง ผมไม่อยากรบกวนพี่เนมเกินไปนัก เท่าที่พี่เขาให้ ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว อีกอย่าง ผมคิดว่าบ้านของคุณย่าต้องอยู่แถวนี้แน่ พินัยกรรมของพ่อให้บ้านผมที่อยุธยา ซึ่งก็ค่อนข้างไกลจากที่นี่พอสมควร แต่ศพของพ่อกลับฝั่งที่นี่ อา ถ้ามีโอกาสผมอยากให้แม่กับพ่อได้มาอยู่ด้วยกันนะ เมื่อผมเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสียในใจ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้
“ตกลงครับ ผมขอรบกวนพี่เนมแล้วครับ”
“ดี ฉันจะให้ป้านุ่มจัดห้องพักให้” พี่เนมยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ใจผมกระตุกอีกแล้ววววววว นี่มันอะไร เราพึ่งจะเจอกันแค่ไม่กี่วันเองนะ!!! พี่เนมลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ผมจึงตามหลังของพี่เนมไปต้อยๆ พี่เนมแจ้งให้ป้านุ่มทราบ ว่าผมจะเข้ามาทำงานเป็นเลขาส่วนตัว พร้อมกับบอกหน้าที่การทำงานของผมให้ป้านุ่มฟัง ป้านุ่มก็พยักหน้ารับแล้วให้เด็กๆ ในบ้านไปจัดห้องไว้ให้ผม
“นาย ออกไปข้างนอกกับฉัน” พี่เนมหันมาบอก ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถและเดินนำออกไป ก่อนจะออกจากบ้านผมรบกวนป้านุ่มให้เอากล่องเหล็กของผมเก็บไว้ในห้องที่ผมจะเข้าพักให้ด้วย เพราะผมคงไม่หิ้วมันไปไหนมาไหนแน่ๆ ตอนที่มา ผมก็มาตัวเปล่า มีเพียงกระเป๋าสตางค์และนาฬิกาที่แม่ซื้อให้เท่านั้น ผมบอกขอบคุณป้านุ่มก่อนจะรีบวิ่งออกไปขึ้นรถของพี่เนมที่จอดรออยู่
“พี่เนมจะไปไหนหรอครับ” ผมหันไปถามคนข้างกาย ใครๆ ก็บอกว่าผู้ชายขับรถมักจะมีเสน่ห์ ผมว่าพี่เนมก็คงเป็นหนึ่งในนั้นล่ะครับ ขนาดว่าพี่เขานั่งนิ่งๆ ก็ยังคงความหล่อเอาไว้ไม่ลดลงเลย
“นายจะอยู่กับฉัน ทำงานให้ฉัน ก็ต้องเตรียมข้าวของไว้หน่อยสิ ไม่งั้นคืนนี้นายจะใส่อะไรนอน” พี่เนมพูดแล้วเหล่ตามองผมแว็บหนึ่ง
นั่นสินะ ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาล ผมก็ใส่แต่ชุดคนไข้ ตอนที่ออกมา พี่เนมก็เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ผมไม่มีของอะไรติดตัวมาเลยนี่น่า
“แต่ว่าผมไม่มีเงิน...” ผมบอกพี่เนมเสียงอ่อน ก็ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำงานกับพี่เนมเลย แล้วผมจะเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อของใช้ละครับ
“ฉันจัดการให้เอง นายมีหน้าที่เลือกก็พอ”
“ผมรบกวนพี่มากเกินไปแล้วนะครับ ผมเกรงใจ” พี่เขาให้อะไรๆ กับผมเยอะแยะมากมายเลยครับ ผมจะตั้งใจทำงาน ตอบแทนบุญคุณของพี่เขาแน่ๆ
“ต้องให้ฉันย้ำนายอีกครั้งไหม?” พี่เนมถามแล้วหันมามองหน้าผมนิ่งๆ พอพี่เนมถามแบบนี้ผมนี่รู้เลยครับว่าพี่แกจะพูดอะไร คำว่า ฉันรวย ยังไงละครับ เออ รู้แล้วว่ารวย โว๊ะ ย้ำบ่อยจนผมดูต่ำติดดินไปแล้วเนี้ยย
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ” ผมตอบรับพี่เนมไป พี่เนมถึงได้ยอมหันกลับไปตั้งใจขับรถดีๆ
ใช้เวลาไม่นานครับ เราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พี่เนมจอดรถเสร็จก็เดินพาผมเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดัง แล้วหันมาบอกผม
“เลือก” คำสั้นๆ แต่ก็เข้าใจความหมายดี ผมก็เลือกตัวที่คิดว่าผมใส่ได้ สีสันสดใส ออกมา สอง สาม ตัว แต่พอมองราคาแล้ว เก็บคืนชั้นแทบไม่ทัน ราคามันแพงเกินไปแล้ว!!!! แค่เสื้อตัวเดียว 4,500 งี้ 5,900 งี้ ผมไม่มีทางใส่พวกมันเด็ดขาดเลยครับ
“พี่เนม” ผมหันไปเรียกพี่เนมแล้วทำหน้าหงอยๆ ใส่ พี่เนมหันมาสบตาผมช้าๆ แล้วเลิกคิ้วถาม
“ผมว่ามันแพงน่ะครับ เราออกไปหาร้านอื่นกันเถอะนะ” ผมพูดด้วยเสียงกระซิบ เพราะห่างไปไม่ไกล มีพนักงานสาวเดินตามหลังเราอยู่ ขณะเดียวกันก็ไม่ก้าวก่ายการเลือกซื้อของผมกับพี่เนมแต่อย่างใด พี่เนมหันมามองหน้าผมเมื่อผมพูดจบ แล้วถอนหายใจ ส่ายหน้านิดๆ
“คุณแก้ว ผมรบกวนเลือกเสื้อผ้าให้เขาหน่อยนะครับ เอาที่คุณแก้วคิดว่าเหมาะสมกับเขา จัดให้สัก 30 ชุด ทั้งชุดอยู่บ้าน ออกงาน และชุดนอนนะครับ” พี่เนมหันไปบอกพี่พนักงานสาวที่ยืนรออยู่ แต่คำสั่งของพี่เนมทำให้ผมตาโต 30 ชุด ชุดละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท นี้น่ะหรอ!!!!
“รับทราบค่ะคุณเนม เชิญคุณผู้ชายท่านนี้วัดตัวสักครู่นะคะ” พี่พนักงานสาวตอบรับแล้วหันมาบอกกับผมให้ไปวัดตัว เพื่อหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้
“พี่เนม” ผมส่งเสียงเรียกพี่เนมอีกครั้ง อย่างหมาหงอย ผมอยากให้พี่ผมไปดูร้านอื่น ที่มันถูกกว่านี้ ไม่ใช่บังคับผมให้ซื้อแบบนี้ ไอ้พี่บ้า!!!! ผมอิดออดอยู่ได้ไม่นาน ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี
เมื่อพี่พนักงานวัดตัวผมเสร็จ ก็หยิบนั่น จับนี่ เลือกทาบกับตัวผมอย่างสนุกสนาน กว่าจะครบทั้ง 30 ชุด ก็ทำเอาขาผมแข็งได้เหมือนกัน สุดท้ายก็สิ้นสุดลงที่การชำระเงิน พอผมเห็นจำนวนเงินผมแทบจะเป็นลม 185,360 บาท ทำเอาผมน้ำตาไหลพรากอย่างเสียดายเงินจำนวนนี้
“พะ พะ พี่เนม” ผมกระตุกแขนเสื้อพี่เนมยิกๆ แต่พี่เขาไม่สนใจผมเลย
“รบกวนคุณแก้วจัดส่งไปที่บ้านผมได้เลยนะครับ ภายในวันนี้นะครับ”
“รับทราบค่ะคุณเนม เดี๋ยวแก้วจะจัดการให้นะคะ”
พอตกลงกันเสร็จ พี่เนมก็พาผมออกจากร้าน แล้วมุ่งตรงไปอีกร้านหนึ่ง ร้านนี้เป็นพวกของใช้ครับ มีครบทั้งยาสระผม สบู่ แปรงสีฟัน โลชั่น น้ำหอม
“เลือก” พี่เนมบอกผมสั้นๆ อีกครั้งและเดินออกไปดูน้ำหอมที่ตั้งเรียงรายอยู่
ครั้งนี้ผมไม่เกรงใจแล้วครับ หยิบแต่ของที่ใช้ประจำๆ ออกมา พอเลือกเสร็จก็พร้อมๆ กับพี่เนมที่หยิบน้ำหอมมาขวดหนึ่ง แล้วรับของทั้งหมดที่ผมเลือกในตะกร้าไปชำระเงิน ของๆ ผม ราคาไม่เท่าไหร่ครับ แต่พี่เนมนี่สิครับ 5,900 บาท ป้าดดดดดดดด น้ำหอมหรือทองกันครับเนี้ย ขวดเล็กจึ๋งหนึ่ง แต่ราคาไม่สมตัวเลยสักนิด
พอชำระเงินเสร็จผมก็อาสาถือของพวกนั้นเองครับ พี่เนมก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้ผมถือแต่โดยดี ร้านต่อมาของพวกเราเป็นร้านรองเท้าครับ
“เลือก” ครับ คำเดิมเลยครับ และก็เหมือนเดิมอีกละครับ คือราคามันแพงจนผมไม่ยอมเลือก สุดท้ายก็ได้พี่พนักงานผู้ชายมาเลือกให้ โดยพี่เนมเป็นคนออกคำสั่ง
“รบกวนคุณกล้าส่งไปพร้อมกับของคุณแก้วได้เลยนะครับ”
“ได้ครับผม เดี๋ยวผมบอกพี่แก้วให้ครับ”
เมื่อผมออกมาหน้าร้าน ถึงได้รู้ว่าร้านเสื้อผ้าและรองเท้าเป็นแบรนด์เดียวกัน คงจะรวยน่าดูเลยนะเนี้ย แบรนด์นี้ ขายสินค้าหลายอย่างเลย เมื่อออกจากร้านรองเท้า ผมก็คิดว่าในที่สุดก็จบสักที และเดินตามพี่เนมไปเพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน แต่ว่า พี่เนมกลับนำผมไปอีกทาง ทำให้ผมมองอย่างสงสัยและเอ่ยปากถาม
“เราไม่ได้กำลังจะกลับบ้านกันหรอครับ” พี่เนมปรายตามองผมเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“นายจะไม่ใส่ชั้นในรึไง” คำตอบของพี่เนมทำให้ผมหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ผมลืมคิดเรื่องนี้ได้ไปยังไง ถ้าผมไม่ได้ใส่มันอย่างที่พี่เนมว่า มันคงจะโล่งๆ โหว่งๆ ยังไงพิกล
“คะ ครับ ใส่ครับ ใส่” แล้วพี่เนมก็พาผมไปร้านชั้นใน
“เลือก” พี่เนมบอกผมเหมือนเดิมกับทุกๆ ร้านที่เราเข้า
รอบนี้ผมยอมเลือกแต่โดยดี ไม่อิดออดเรื่องราคาอีก เพราะถ้าผมไม่เลือก พี่พนักงานผู้หญิงก็จะเข้ามาเลือกให้แทน ผมทนไม่ได้ครับ อายตายเลย เมื่อเราชำระเงินเสร็จ ถึงได้ตรงกลับบ้านจริงๆ สักที ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านครับ ป้านุ่มยืนรอต้อนรับเหมือนตอนเที่ยงไม่มีผิด
“ป้าให้เด็กๆ เตรียมห้องตามที่คุณเนมสั่งแล้วนะคะ”
“ขอบคุณครับป้านุ่ม ผมรบกวนป้านุ่มพานายเขาไปดูห้องทีนะครับ แล้วก็ให้เด็กๆ จัดโต๊ะได้เลยครับป้า”
“ได้เลยค่ะคุณเนม คุณนายคะ ตามป้ามาเลยค่ะ ป้าจะพาไปดูห้องนะคะ”
จบคำป้านุ่มผมก็เดินตามหลังป้านุ่มไป แล้วนึกแปลกใจที่มันไม่ใช่ห้องคนใช้อย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับเป็นห้องนอนชั้น 2 ของบ้านแทน ภายในห้องนั้นกว้างใหญ่ โล่งและสบายตา แต่ก็ยังคงความหรูหราเหมือนเดิม
“ขอบคุณครับป้านุ่ม” เมื่อป้านุ่มมาส่งผมที่ห้องแล้วก็ขอตัวไปสั่งเด็กๆ ให้จัดโต๊ะ ระหว่างรอผมก็นำของที่ซื้อมา พวกของใช้ต่างๆ เข้าไปจัดเก็บตามชั้น พอดีกับที่มีเด็กมาตามให้ลงไปทานข้าวพอดี
“เรื่องมหาลัย ฉันจะให้คนติดต่อไว้ให้ นายอยากเรียนคณะอะไร”
อืมมมมมมคณะอะไรดีนะ ตอนแรกที่ผมคิดไว้ ผมเรียนอะไรก็ได้ที่ทำให้มีเงินเยอะๆ แม่ผมจะได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว ผมก็เลยไม่รู้จะหาเงินไปเยอะๆ เพื่ออะไร ผมเรียนบริหารดีไหมนะ จบมาจะได้มาช่วยงานพี่เนม ได้แบ่งเบาภาระของพี่เขาได้บ้างและเผื่อผมมีโอกาสสานต่อกิจกรรมของพ่อด้วย คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลย เมื่อตัดสินใจได้ผมจึงเอ่ยปากบอกกับพี่เนมไป
“ผมอยากเรียนคณะบริหารครับ”
“อืม ฉันจะให้คนจัดการให้”
หลังมืออาหาร ไม่นานก็มีรถนำของที่พึ่งซื้อไปมาส่ง พร้อมกับจัดเก็บเข้าชั้นให้เรียบร้อย เหมือนผู้ชุมนุมอะไรสักอย่าง แล้วถือป้ายมาเดินเป็นขบวน แต่ต่างกันที่พวกเขาไม่ได้ถือป้าย แต่ถือเสื้อผ้า รองเท้า ใหม่เอี่ยม เดินเรียงแถวเข้ามา เมื่อได้ครบทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ผมก็ไปอาบน้ำทันที น้ำเย็นๆ ช่วยชะล้างความเหนื่อยล้าออกไปจากร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น เมื่ออาบน้ำเสร็จผมก็ออกไปนั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่น พบว่าพี่เนมนั่งอยู่ดูข่าวสารแวดวงทางธุรกิจอยู่
“พี่เนมครับ เรื่องงาน พี่จะให้ผมเริ่มเมื่อไหร่ครับ” ผมเรียกพี่เนมเบาๆ พี่เนมไม่ได้หันมามองผมแต่อย่างใด สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ทีวี
“พรุ่งนี้” พี่เนมตอบ ก่อนจะยื่นรีโมททีวีให้กับผม ผมได้แต่ทำหน้างงใส่
“ฉันจะขึ้นไปทำงาน มีอะไรก็ไปหาที่ห้องได้” พี่เนมบอกแล้วลุกยืนขึ้น เดินไปที่ชั้น 2 เพื่อเข้าห้องทำงาน ผมนั่งดูทีวีต่อสักพัก ก็เห็นเด็กในบ้านยกนมอุ่นๆ และน้ำเปล่า กำลังจะเดินตรงไปที่ชั้น 2 แต่ผมเรียกไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวครับ เอาไปให้พี่เนมหรอครับ”
“ใช่ค่ะคุณนาย”
“ผมขออาสาเอาไปให้ได้ไหมครับ”
“อ่อ คงไม่ดีมั้งคะคุณนาย คุณนายพักผ่อนเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับๆ ให้ผมช่วยนะ” ผมบอกแล้วยกถาดมาถือไว้เอง ช่วยไม่ได้นี่น่า ก็ผมเหงานี่ ที่นี่ผมยังไม่รู้จักใคร ไม่สนิทกับใครเลย
“ถ้างั้น ก็ได้ค่ะ” เด็กรับใช้ยอมถอยออกไปแต่โดยดี ผมก็เลยยกถาดนมอุ่นๆ และน้ำเปล่าขึ้นไปชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงาน ผมเคาะประตูเบาๆ รอเสียงอนุญาต แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา จึงเคาะอีกครั้ง แต่ก็ยังเงียบอยู่ ขณะที่ผมจะเปิดประตูเข้าไป ประตูห้องที่ติดกับห้องนอนของผมก็เปิดออก และมันอยู่คนละฝากกับห้องทำงานเลย พี่เนมเดินออกมาจากห้องนั้น ในชุดนอนที่เรียบร้อย เสื้อยืดแขนสั้นสีขาวและกางเกงขายาวสีเทา
“นายเป็นคนยกมารึ ห้องนี้” พี่เนมส่งเสียบอกผม ทำให้ผมที่กำลังจะเปิดประตูห้องทำงานค้างอยู่ ละทิ้งไป แล้วเดินไปที่ห้องนอนของพี่เนมแทน พี่เนมเดินนำเข้ามาในห้องนอน ซึ่งมันตกแต่งโดยโทนสีน้ำตาลและสีดำ แตกต่างกับห้องนอนของผมลิบลับ ผมว่างถาดนมไว้ที่โต๊ะข้างเตียง แล้วก็ถอยออกมาเงียบๆ รอให้พี่เนมดื่มนมและน้ำเสร็จ ผมจะได้เอาถาดไปเก็บที่ห้องครัว แต่รอสักพักพี่เนมก็ยังไม่ยอมดื่มสักที เอาแต่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วกดอะไรต๊อกๆ แต๊กๆ เมื่อผมยืนรอนานเกินไปและไม่ยอมออกไปสักที พี่เนมจึงหันมามองด้วยสีหน้าที่มีคำถาม
“มีอะไร”
“อ่อ ผมรอพี่เนมดื่มนมเสร็จก่อนครับ ผมจะได้ยกถาดไปเก็บที่ห้องครัว”
“อ้อ” พี่เนมร้องออกมาแค่นั้น ยกนมขึ้นมาดื่ม แล้วจิบน้ำตามอีกนิดหน่อย วางลงตรงที่เดิม พอพี่เนมดื่มเสร็จแล้วผมก็ยกถาดแล้วเดินออกจากห้อง เพื่อเอาไปเก็บไว้ในครัว
“อ๊ะ คุณนายยกเข้ามาทำไมคะ” ป้านุ่มเอ่ยถามผมอย่าตกใจ เมื่อเห็นผมยกถาดที่ใส่นมและน้ำดื่มของพี่เนมเข้ามาเก็บ ผมก็ทำหน้างงแล้วตอบกลับไป
“ก็พี่เนมดื่มแล้วนี่ครับ ผมก็เลยยกมาเก็บ”
“ปกติคุณเนม เธอจะทานแบบจิบค่ะ เพราะทำงานค่อนข้างดึก ก็เลยให้เตรียมทั้งนมและน้ำไว้ เอาไว้จิบเวลาเครียดๆ หรือกระหายน้ำ คุณเนมเลยบอกให้พวกเราว่างทิ้งเอาไว้ แล้วตอนเช้าค่อยมาเก็บไปน่ะค่ะ”
“อ๊ะ งั้นผมก็ทำผิดสิครับ” ผมร้องบอกอย่างกระวนกระวาย ถ้าปกติพี่เนมจิบน้ำหรือนมเรื่อยๆ ขณะทำงาน เหมือนผมไปบังคับให้พี่เขาดื่มทีเดียวจนหมดแล้วยกกลับมา พี่เขาไม่จุกตายพอดีหรอนั่น ผมก็ว่าอยู่ ทำไมต้องมีทั้งนมทั้งน้ำแถมปริมาณไม่ใช่น้อยๆ พอคิดได้แบบนั้นหน้าของผมก็หงอยลงทันตา
“ไม่เป็นไรค่ะคุณนาย เดี๋ยวป้าจัดชุดใหม่ให้ค่ะ คุณนายไปพักผ่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวป้าจะเอานมอุ่นๆ ขึ้นไปให้ด้วยนะคะ” ป้านุ่มบอกแล้วยิ้มใจดีส่งให้ผม
“ไม่เป็นไรครับป้านุ่ม เดี๋ยวผมยกไปให้พี่เนมเองครับ รอบนี้รับรอง ไม่ผิดแน่ๆ ครับ ส่วนของผม เดี๋ยวผมยกขึ้นไปพร้อมกันเลยครับ”
“ได้ค่ะคุณนาย รอสักครู่นะคะ” ป้านุ่มบอกแล้วนำนมไปอุ่น ก่อนจะเทใส่แก้ว 2 ใบ และเทน้ำเปล่าใส่แก้วอีก 1 ใบ จัดทั้งหมดลงถาดแล้วให้ผมเป็นคนยกขึ้นมาเอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญ” ผมเคาะประตูที่หน้าห้องนอนของพี่เนม สามครั้ง รอจนได้รับคำอนุญาต แล้วจึงเปิดประตูเข้าไป เมื่อพี่เนมเห็นผม ก็เลิกคิ้วขึ้น
“ฉันดื่มไม่หมดหรอกนะ” พี่เนมพูดดักทางไว้ เมื่อเห็นนม 2 แก้ว และน้ำเปล่า 1 แก้ว ตั้งอยู่บนถาดในมือของผม
“ผมขอโทษครับ ผมทำผิด” ผมพูดขอโทษแล้วก้มหน้าสำนึกผิด
“ไม่เป็นไร ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น แต่ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันดื่มไม่หมดหรอก” พี่เนมตอบกลับมา
“อีกแก้วนี่ของผมต่างหากละครับ”
“อ้อ หรอ วางไว้ที่เดิมนั่นละ” ผมจึงยกถาดไปวางไว้ที่เดิมอีกครั้ง แล้วยกแก้วของตัวเองออกมา เดินกลับห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่ขาผมจะพ้นออกจากประตู ผมก็หันกลับมาหาพี่เนม
“อย่าทำงานดึกนะครับ ฝันดีครับ”
“ฮึ เข้าใจแล้ว” ผมได้ยินเสียงพี่เนมหัวเราะหน่อยๆ แล้วจึงตอบตกลง ผมออกจากห้องของพี่เนม แล้วปิดประตูให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ยกนมขึ้นมาดื่ม คิดเมนูอาหารของวันพรุ่งนี้ อืมมม พี่เนมจะชอบกินอะไรบ้างนะ ผมคิดอาหารไว้ในใจ สอง สาม อย่าง ตั้งนาฬิกาปลุก ก่อนจะล้มตัวลงนอนเข้าสู่ห้วงนิทรา

























































