
บทนำ
นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง และมีเสน่ห์เหลือร้าย รับตำแหน่งต่อจากพ่อแม่ที่เสียไปเมื่อตอนอายุ 17 ปี จากเหตุการณ์เสียพ่อแม่ไปในครั้งนั้น
ทำให้เขาได้พบเด็กชายที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีที่พักพิงใจ
นาย ชื่อจริงของเขาคือ เจ้านาย พัชรวิทิต อายุ 18
เด็กชายบ้านๆ คนหนึ่ง ฐานะกลางๆ ไม่จนแต่ก็ไม่ได้รวย การตายของแม่ทำให้เขารู้อะไรหลายอย่าง ที่พ่อและแม่ไม่เคยบอก ความลับที่ถูกปิดบังไว้
ในช่วงเวลายากลำบาก ก็ได้เจ้านายหนุ่มผู้ใจดีเข้ามาช่วยเหลืออยู่เสมอ
"อ่า ทั้งนาย ทั้งฉัน เราต่างเหมือนกันเลยนะ"
บท 1
เคยไหมครับ หลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ มา ทำให้เราอยากนอนเฉยๆ อยู่บนเตียง ไม่อยากขยับไปทางไหน
เคยไหมครับ เอาแต่คิดซ้ำๆ ว่าทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมผมถึงทำอะไรไม่ได้เลย
ครับ ตอนนี้ผมเป็นแบบนั้นอยู่ เรื่องอะไรน่ะหรอครับ คงต้องย้อนกลับไปในวันนั้น วันที่ผมเจอ เขา เป็นครั้งแรก...
“นาย ทำไรอะ” เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง อายุราวๆ 10 ขวบ ดวงตากลมโต ผมสีน้ำตาลอ่อน จมูกรั้นนิดๆ ริมฝีปากบางสีชมพูเล็กๆ นั้น ช่างดูน่ารักน่าชัง แต่ไม่ใช่สำหรับผมในตอนนี้
“ออกไป!!! อย่ามายุ่ง!!!” ผมตะโกนใส่หน้าของเด็กคนนั้น แต่เด็กนั่นไม่ได้รู้สึกเลยสักนิด ไม่ได้มีความรู้สึกกลัวอยู่ในสายตานั้นเลย แต่กลับฉายแววของความสงสัยและเป็นกังวล
“เป็นไรอะ อารมณ์ไม่ดีหรอ ยิ้มหน่อยนะ” ผมไม่ได้ตอบอะไรกับเด็กคนนั้นไป ได้แต่จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ แต่เด็กคนนั้นไม่ได้หายไปไหนเลย ทำหน้าเหมือนพยายามนึกถึงเรื่องที่จะคุย และสุดท้ายเขาก็เอ่ยปากออกมา
“เราชื่อนายนะ แม่เราตั้งว่าเจ้านายละ อายุ 10 ขวบแล้ว นายละ ชื่ออะไรหรอ ทำไมทำหน้าเศร้าจัง?” เด็กคนนั้นแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ แต่คำถามของเขาทำให้ผมต้องก้มหน้าลง ทำไมน่ะหรอ ทำไมถึงทำหน้าเศร้า หึ เพราะตอนนี้ผมได้แต่นั่งอยู่หน้าป้ายหลุมศพ ที่มีรูปพ่อและแม่ของผมอยู่บนป้ายนั้น ส่วนสาเหตุนั้น ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ ถึงผมจะยังเด็ก ยังอายุน้อย แต่เรื่องราวธุรกิจในครอบครัว ก็ทำให้ผมรับรู้อะไรหลายๆ อย่าง ได้รับรู้ว่าโลกนี้มันช่างชั่วร้ายและไม่น่าอยู่เอาเสียเลย แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก สักวัน ผมจะหาพวกมันให้เจอ จะจัดการมันอย่างสาสม ให้สมกับที่มันทำกับผม ทำกับครอบครัวของผม
“อย่าร้องไห้เลยนะ ไม่เป็นไรหรอก” มือเล็กๆ นั้นเอื้อมมาปาดน้ำตาที่ไหลรินรดแก้มของผม ผมหลับตา ยอมรับสัมผัสอ่อนโยนที่เด็กผู้ชายคนนั้นมอบให้ เมื่อลืมตาขึ้น ผมมองพิจารณาเด็กชายตรงหน้าอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ทำให้ผมมองเห็น ว่านอกจากหน้าตาของเด็กชายที่ดูน่ารักคนนี้แล้ว การแต่งตัวของเขาบ่งบอกถึงสถานะได้ดี เสื้อตัวเก่า มีรอยขาดที่รอบคอและรอบแขน กางเกงที่ใส่เป็นกางเกงบอลของเด็กๆ แต่สภาพก็ไม่ได้ต่างไปจากเสื้อเท่าไหร่นัก ผิดจากผมที่ใส่สูทผูกไท แต่งตัวเรียบเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ทั้งชุดที่ผมใส่ล้วนเป็นสีดำ และมันดูไม่เข้ากันเท่าไหร่นักเมื่อผมนั่งอยู่บนพื้นหญ้า
“นายอยู่แถวนี้หรอ” ผมเอ่ยถามนายไปอย่างไม่รู้จะคุยอะไร อีกอย่างผมก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครเท่าไหร่
“เปล่าหรอก วันนี้แม่พามาหาพ่อด้วยน่ะ นั่นไง” เมื่อผมมองตามนิ้วมือเล็กๆ นั้นไป ก็เห็นป้ายหลุมศพที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
“อืม” ผมตอบกลับไปแค่นั้นและไม่ได้พูดอะไรอีก นายมองหน้าผมนิ่ง และเริ่มพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกนะ แม่บอกนายว่า พ่อนายไม่ได้หายไปไหน แค่ยืนมองอยู่บนฟ้า ถ้านายเป็นเด็กดี สักวันหนึ่งนายจะได้ไปหาพ่อละ เพราะงั้น อย่าร้องไห้เลยนะ” นายพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ผม ที่มันยังคงไหลอยู่เรื่อยๆ อย่างนั้นโดยไม่มีเสียงบ่นใดๆ ออกมา ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร จึงได้แต่นั่งเฉยๆ ไปอย่างนั้น และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอเขา
ผม เนม ครับ ชื่อจริงของผมคือ วรวิทย์ วรโชติวาทิน ที่บ้านผมทำธุรกิจหลายอย่างครับ ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ธุรกิจด้านยานยนต์ และ อาหาร ซึ่งมีผมเป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด เนื่องจากพ่อและแม่ของผมเสียไปเมื่อผมอายุ 17 ปี ทำให้ผมต้องเข้ามารับหน้าที่และกิจการของพวกท่านแทน ตั้งแต่ตอนนั้นมา ก็ผ่านมา 8 ปี แล้วครับ ตอนนี้ผมอายุ 25 ถือได้ว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง และมีเสน่ห์เหลือเฟือ แต่นั่นก็เป็นแค่บทสัมภาษณ์จากนิตยสารต่างๆ ที่เคยเข้ามาทำการสัมภาษณ์ผมเท่านั้นล่ะ จากการที่ผมต้องเข้ามารับตำแหน่งหน้าที่นี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ผมรับรู้อะไรๆ หลายอย่าง ว่าโลกนี้ไม่ได้สวยหรูอย่างคิด ไม่ได้มีคนดีไปเสียหมดทุกคน ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงตามหาสาเหตุที่แท้จริงถึงการตายของพ่อแม่ผมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังไม่ได้อะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่ก็ตาม
“อ้าว ยังไม่กลับอีกหรอเนม”
“ยังครับ ผมขอตรวจสอบรายการอีกนิดหน่อย ใกล้เสร็จแล้วละครับ” ผมตอบกลับลุงชาญ หรือก็คือคุณชาญชัย วรโชติวาทิน เป็นพี่ชายของพ่อผมเองครับ เมื่อผมยังเด็กและต้องเข้ามารับตำแหน่งนี้ ผมก็ได้ลุงชาญนี่แหละครับ ที่เข้ามาช่วยเหลือและสอนงานต่างๆ ให้
“อ้อหรอ อย่ากลับดึกมากนักละ งั้นลุงกลับก่อนนะ โชคดีๆ” ลุงชาญพูดและหยิบกระเป๋าเอกสารออกไป เพื่อกลับบ้านไปพักผ่อน ผมทำงานต่ออีกนิดหน่อยก็เก็บของเตรียมกลับบ้านเช่นกันครับ ผมเดินเอื่อยๆ มาจนถึงลานจอดรถ ซึ่งมีรถสปอร์ต คันหรูของผมจอดอยู่เพียงคันเดียว ผมปลอดล็อกรถและเข้าไปนั่งประจำที่คนขันก่อนจะเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนพ้นออกจากตัวเมือง มาแถบชานเมือง บ้านของผมตั้งอยู่เขตชานเมืองครับ แม้จะต้องใช้เวลาสามชั่วโมงกว่า ในการไปและกลับ แต่ผมก็เลือกที่จะอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปพักตามคอนโดในเมืองกรุงแต่อย่างใด
“เฮ้ย!!!”
เอี้ยดดดดดดดดดดดดดดดดด ตึง!!
ผมร้องอย่างตกใจ เนื่องจากมีคนวิ่งตัดหน้ารถของผม ทำให้ผมเหยียบเบรกกะทันหัน จนล้อรถขูดไปกับพื้นถนน และหมุนวนอย่างไรทิศทาง ชนกับขอบกั้นถนนจนเกิดเสียงดังสนั่น บ้าเอ้ย!!!! ผมนั่งหอบหายใจอย่างรุนแรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อผมสงบสติอารมณ์ลงได้ ก็เปิดประตูรถลงมาอย่างหัวเสีย รีบเดินไปดูคนที่สลบอยู่ตรงมุมที่ผมหักหลบเขาอย่างรวดเร็ว
“คุณ! คุณ! นี่คุณ! ฟื้นสิ” ผมเริ่มทำการสำรวจตามร่างกายของเขา เพื่อหาร่องรอยบาดแผลตามตัว แต่ไม่พบแผลจากตรงไหนในร่างกายของคนตรงหน้านี้เลย ทำให้ผมโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่คนตรงหน้าก็ยังไม่มีท่าทีที่จะฟื้นขึ้นมา ทำให้ผมเริ่มกังวล และอุ้มเขาขึ้นรถ ตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที เมื่อผมไปถึงโรงพยาบาล ก็แจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลอย่างรวดเร็ว ถึงสาเหตุ และอาการเบื้องต้นที่ผมเจอ และส่งตัวเขาให้กับพยาบาลต่อทันที
“คุณคะ อันนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของคนไข้ค่ะ”
“อ่อ ครับ” ผมรับของเหล่านั้นมาจากนางพยาบาล และเริ่มสำรวจดู อืมมม ไม่ได้มีของอะไรมากมายเท่าไหร่นัก มีเพียงกระเป๋าสตางค์และนาฬิกาหนึ่งเรือนเท่านั้น ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขามาดู พบว่ามีเงินอยู่ไม่กี่ร้อยบาท และหยิบบัตรประชาชนของเขาขึ้นมาตรวจสอบ ชื่อของเขาคือ เจ้านาย พัชรวิทิต ผมเก็บข้าวของ ของเขาตามเดิม ผมได้จัดการเรื่องต่างๆ ของคนไข้ที่หมดสตินั้น และจัดให้เขาอยู่ห้องพัก VIP เมื่อผมมั่นใจว่าจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อยแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นผมต่อสายหาลุงชาญไปพลางๆ
“ฮัลโหล ว่าไงเนม โทรมาซะดึกเชียว มีอะไรด่วนรึ”
“ขอโทษครับลุงชาญ ผมจะโทรมาแจ้งว่าพรุ่งนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะครับ ผมฝากลุงเข้าประชุมแทนผมด้วยนะครับ”
“อ้อๆ ได้สิ มีไปธุระด่วนที่ไหนรึ” ลุงชาญถามผมอย่างทุกทีที่ผมมีงานด่วนต้องไปต่างประเทศบ่อยๆ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่
“ผมไม่ได้ไปไหนหรอกครับ พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย มีคนบาดเจ็บด้วยผมเลยจะมาดูอาการของเขาวันพรุ่งนี้น่ะครับ”
“ห๊ะ!!! เกิดอะไรขึ้นเนม เป็นอะไรมากไหม เจ็บตรงไหนบ้าง ให้ลุงไปหาไหม” ลุงชาญยิงคำถามมารัวๆ ด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นอะไรครับลุงชาญ ผมชนขอบถนนไป พอดีผมไม่ได้ขับแรงเท่าไหร่ ขอบคุณครับที่เป็นห่วง”
“อ่าๆ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ว่าแต่ตรวจแน่ใจแล้วใช่ไหม ไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ”
“ครับลุงชาญ ไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ”
“โอเคๆ งั้นรีบกลับไปพักผ่อนนะ มีสติให้มาก ขับรถอย่าประมาทละ”
“ครับ สวัสดีครับ” ผมวางสายจากลุงชาญและมุ่งหน้าตรงกลับบ้านเพื่อพักผ่อนทันที
บทล่าสุด
#66 บทที่ 66 ตอนพิเศษ บทส่งท้าย
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#65 บทที่ 65 ตอนพิเศษ สวัสดีปีใหม่ NC+++
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#64 บทที่ 64 ตอนพิเศษ ลอยกระทง NC+++
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#63 บทที่ 63 ตอนพิเศษ คนไม่มีเวลา EP2 NC+++
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#62 บทที่ 62 ตอนพิเศษ คนไม่มีเวลา EP1
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#61 บทที่ 61 ตอนพิเศษ ลงโทษเด็กไม่ดี NC+++
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#60 บทที่ 60 บทสรุปของความรัก END
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#59 บทที่ 59 เหมือนกัน (We're the same)
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#58 บทที่ 58 เด็กหลง
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025#57 บทที่ 57 ซักผ้า NC+++
อัปเดตล่าสุด: 10/12/2025
คุณอาจชอบ 😍
หลังหย่า ฉันมีชีวิตที่รุ่งโรจน์
เป็นนิยายจีนแนวย้อนยุค มีองค์ประกอบของการแต่งงาน การหย่าร้าง และสงคราม มีการใช้ภาษาที่เป็นทางการตามยุคสมัย มีการอ้างถึงกิจกรรมโบราณของจีน และมีความขัดแย้งระหว่างตัวละคร
คำแปล
แต่งงานมาสามปี เย่หมิงลี่ไม่เคยแตะต้องนาง จนกระทั่งวันที่เขาเมาสุรา นางจึงได้รู้ว่าตนเป็นเพียงตัวแทนของใครบางคน
นางเอ่ย "ท่านอ๋อง ขอหย่าขาดกันเถิดเจ้าค่ะ"
เขาตอบ "เจ้าอย่าได้เสียใจภายหลัง"
เขาคิดว่านางจะต้องเสียใจที่จากไป แต่ใครเลยจะรู้ว่านางกลับใช้เวลาไปกับการเล่นโยนลูกธนู เล่นซ่อนตะขอ เล่นทายของในถ้วย เล่นชนไก่ ขี่ม้าตีลูกบอล จนถึงเลี้ยงจิ้งหรีด แต่ไม่เคยร่ำไห้อยู่ในห้องนางสักครั้ง
ในที่สุด เมื่อนางนำทัพออกรบ เขาก็รีบควบม้าตามไปยังสนามรบ แล้วดักรอนางที่กระโจม "ซางกวนซิน อย่าออกรบแทนบิดาเลย ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าเอง"
ภายใต้แสงเทียน หญิงสาวยิ้มอย่างเย้ยหยัน "ท่านอ๋องวางใจได้ วันที่หม่อมฉันควบม้าไปยังทะเลทรายอันกว้างใหญ่ หม่อมฉันจะเก็บร่างขององค์หญิงไว้ครบถ้วนเป็นศพเดียว"
ชายหนุ่มโกรธจัดด้วยความอับอาย ท่ามกลางแสงดาบเงาคม มีคมกระบี่พุ่งมาแยกชายผู้นั้นออก ซ่งเจว๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ท่านอ๋องโปรดสำรวมตน อาซินเป็นภรรยาของข้า"
คู่มนุษย์ของราชาหมาป่า
"ฉันรอเธอมานานเก้าปี นั่นเกือบจะเป็นทศวรรษที่ฉันรู้สึกว่างเปล่าภายในตัวเอง ส่วนหนึ่งของฉันเริ่มสงสัยว่าเธอไม่มีตัวตนหรือเธออาจจะตายไปแล้ว และแล้วฉันก็พบเธอ อยู่ในบ้านของฉันเอง"
เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบแก้มของฉัน ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั่ว
"ฉันใช้เวลามากพอแล้วโดยไม่มีเธอ และฉันจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากเราจากกัน ไม่ใช่หมาป่าตัวอื่น ไม่ใช่พ่อขี้เมาของฉันที่แทบจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ - และไม่ใช่แม้แต่เธอเอง"
คลาร์ก เบลเลอวิว ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเป็นมนุษย์คนเดียวในฝูงหมาป่า - จริงๆ เลยนะ เมื่อสิบแปดปีก่อน คลาร์กเกิดจากความสัมพันธ์ชั่วคราวระหว่างหนึ่งในอัลฟ่าที่ทรงพลังที่สุดในโลกกับผู้หญิงมนุษย์คนหนึ่ง แม้จะอาศัยอยู่กับพ่อและพี่น้องลูกครึ่งหมาป่าของเธอ คลาร์กก็ไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของโลกหมาป่าเลย แต่พอคลาร์กวางแผนจะทิ้งโลกหมาป่าไปตลอดกาล ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อพบคู่ชีวิตของเธอ: กริฟฟิน บาร์โดต์ อัลฟ่าคิงคนต่อไป กริฟฟินรอคอยมาหลายปีเพื่อพบคู่ชีวิตของเขา และเขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่สำคัญว่าคลาร์กจะพยายามหนีจากชะตากรรมของเธอหรือคู่ชีวิตของเธอไปไกลแค่ไหน - กริฟฟินตั้งใจจะรักษาเธอไว้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรหรือใครจะขวางทางเขาก็ตาม
หัวใจแปรผัน
เธอตัดสินใจหย่าร้าง แต่อเล็กซ์รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนดีกับเธอ ในขณะนั้น เซบขอเธอแต่งงาน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรล้ำค่ามาให้และพูดว่า "แต่งงานกับฉันเถอะ ได้โปรด"
ด้วยความที่ลุงของอดีตสามีของเธอไล่ตามเธออย่างจริงจัง ชารอนจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจ เธอจะตัดสินใจอย่างไร?
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
ก้าวสู่ความรัก: หัวหน้าหวานใจรักแรก
สิ่งที่หยุนเสี่ยงอยากทำมากที่สุดเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีต คือการห้ามตัวเองในวัย 17 ไม่ให้ตกหลุมรักเซี่ยจวินเฉินวัย 18 ปี
แต่เมื่อวิญญาณวัย 26 ปีของเธอได้เข้าสิงร่างของเด็กสาววัย 17 อีกคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หยุนเสี่ยงคาดไว้เลย
หม่อซิงเจ๋อ บอสในอนาคตของเธอ ดันมาอาศัยอยู่ในบ้านที่เธออยู่ตอนนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชีวิตการอยู่ร่วมชายคาที่วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น
หนึ่งปีต่อมา
อุบัติเหตุรถชนที่ไม่คาดคิด พาหยุนเสี่ยงกลับไปยังวัย 26 ปีของเธออีกครั้ง
เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันที่สวยงาม พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม
แต่ตั้งแต่เธอปรากฏตัวต่อหน้าหม่อซิงเจ๋ออีกครั้ง
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สำหรับเธอ มันเป็นเพียงเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับหม่อซิงเจ๋อ เธอคือคนที่เขาหมกมุ่นมาตลอดเก้าปี
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดจากโลกของเขาอีกครั้ง
หม่อซิงเจ๋อจับมือหยุนเสี่ยงที่กำลังจะเดินจากไป กัดฟันพูดอย่างเดือดดาล "หยุนเสี่ยง ฉันรอเธอมาเก้าปี แค่ให้เธอรออีกเก้านาทีมันยากนักเหรอ?"
น้ำตาของหยุนเสี่ยงไหลอาบแก้ม "ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว"
หม่อซิงเจ๋อโกรธจนแทบคลั่ง เขาทุ่มเททุกวิถีทางก็เพื่อกักเธอไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตเท่านั้น
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก