บทที่ 3 แกล้งหูหนวก ตาบอด 3
แกล้งหูหนวก ตาบอด 3
“นี่ตีสามครึ่งแล้วนะ จะให้ฉันกลับบ้านยังไง” แอบหวังว่ามันตราจะไม่ทันได้เห็นรถของจิรายุ ที่แล่นจากไปฝั่งตรงข้าม และขอให้ตนเองเป็นแค่คนตาฝาดเท่านั้น รถยี่ห้อนี้ สีนี้ รุ่นนี้มีให้เกลื่อน ระยะไกลพอสมควรมองป้ายทะเบียนไม่ชัด ที่คิดมาทั้งหมดเป็นการปลอบใจตัวเองล้วนๆ
โทรศัพท์ถูกกดออกไป ขณะธัญดาไม่ทันได้สังเกต อาการมันตรา สัญญาณติดหญิงสาวทำทีดีใจ
“พี่จุ๊บ จะถึงร้านหรือยังคะ” ปากเอ่ยถามคนรัก หัวใจกลับสั่นไหวตรงข้ามกับแววตาที่เหมือนยิ้ม เพราะความดีใจที่โทร.ติด
“คือ...เอ่อ คืนนี้พี่คงไปรับหนูดาไม่ได้ ตั้งใจจะโทรบอกพอดีหนูดาโทรมาซะก่อน” จุ๊บอ้ำๆ อึ้งๆ ตอบไม่เต็มคำ
“อยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เธออยากรู้คำตอบจริงๆ หรือต้องการให้เขาตอบโกหก
“พะ...พี่ก็อยู่ที่บ้านค่ะ พอดีวันนี้พี่ทำงานกับพ่อกลับบ้านดึก เพิ่งได้นอนตอนหลังเที่ยงคืนนี้เอง ว่าจะโทร.บอกหนูดา ให้กลับเองแต่เผลอหลับซะก่อน ถ้าหนูดาไม่โทรมาพี่คงยังไม่รู้สึกตัว เพลียจริงๆ เลยจ้ะ”
“มีเสียงหึ่งๆ เหมือนพี่กำลังขับรถ ไหนว่าอยู่บ้านไงคะ” เสียงที่เธอได้ยินคือเสียงรถแล่น และเสียงแตรรถบ้างบางครั้ง เพลงจากเครื่องเสียงเปิดคลอเบาๆ เป็นเสียงเพลงจากรถพี่จุ๊บแน่ เวลาเธอขึ้นรถมักจะหยิบแผ่นนี้มาเปิดเพลงที่สามในแผ่นนั้นเธอจำได้ดี
“เสียงหึ่งๆ ที่ไหนจ๊ะไม่มี พี่นอนอยู่ในห้องค่ะ พี่ขอโทษนะที่หลับเพลินไปหน่อย ถ้าขับรถออกไปตอนนี้กลัวจะหลับใน หนูดาคงไม่อยากดูข่าวอุบัติเหตุใช่ไหม” จิรายุหาเหตุผลเพื่อปฏิเสธธัญดา เกรงหญิงสาวจับได้จึงรีบปิดเครื่องเสียงในรถยนต์ บังคับพวงมาลัยพร้อมกับปรายตามองตุ๊กตาหน้ารถ รูปร่างอวบอิ่ม ขาวสะท้อนแสง หิ้วมาจากตู้ เดอะ คิวท์ มือปลาทองแสนสวยกำลังอยู่ไม่สุข ล้วงนั่นวุ่นวายไปหมด
ส่งสายตายั่วยวนจนเขาไม่อยากคุยโทรศัพท์กับธัญดาต่อ แฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เธอไม่ยอมให้เขาแตะต้อง เขาเลยต้องซื้อกินตามตู้กระจก สู้ปลาทองแสนสวยทำให้ถึงใจตามจำนวนเงินที่ตกลงกัน “พี่ง่วงมากขอวางสายก่อนนะ” เขาตัดปัญหาด้วยการรีบขอตัวเพื่อจะหยุดคุย
“เอ่อ...พี่จุ๊บ พะ...” ธัญดาเรียกจิรายุไม่ทัน เขาตัดการคุยไปก่อน มือที่ถือโทรศัพท์ลดลงข้างตัว กำไว้ในมือแน่น พลางย้อนคิดสิ่งที่เธอเห็นฝั่งตรงข้ามคลับคล้ายคลับคลา “อย่าให้จับได้นะพี่จุ๊บ” บ่นกับตัวเองเบาๆ เกรงมันตราได้ยิน
“เอาไง พี่จุ๊บไม่มารับใช่ไหม นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาทิ้งเธอให้กลับเอง” ไม่ได้สมน้ำหน้าเพื่อนแต่ก็อยากให้ตาสว่างหากแต่พูดมากไม่ได้ นอกจากสักวันเพื่อนรักของเธอคนนี้จะได้เห็นในสิ่งที่เธอกับน้องชายเคยเห็นมาแล้ว อย่างจะจะคาตา
“ช่างเถอะพึ่งไอ้เกลี้ยงอีกตามเคย” ตัดปัญหาไม่พูดถึงพี่จุ๊บ หาทางกลับบ้านแบบที่เคยใช้บริการดีกว่า จะได้ถึงบ้านอยากล้มหัวลงนอนเต็มที
“ผูกปิ่นโตมันไว้เลยไม่ดีหราหนูดา” เหมือนจะใช้บริการไอ้เกลี้ยงถี่อยู่ช่วงนี้” มันตราประชด
“แกพูดเหมือนรู้อะไร ไหนบอกฉันมาซิยายตรา”
“รู้...เอ่อ...รู้อะไร ไม่นี่ ก็ฉันเห็นไอ้เกลี้ยงทำหน้าที่รับส่งแกบ่อยๆ ผูกปิ่นโตมันไว้ก็ไม่เสียหายนี่” ดีกว่ารอคนคนนั้น
“แน่ใจนะว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไร”
“ไม่...ไม่มี้” มันตราเอ่ยเสียงสูงส่อพิรุธหากแต่พยายามไม่ส่ออะไรออกไปให้ธัญดารู้ แต่เธอจะพยายามทำให้เพื่อนได้เห็นจะจะคาตา เกี่ยวกับความซื่อสัตย์เกินเหตุของแฟนเพื่อน ทั้งที่เดอะ คิวท์ ไม่ได้ไกลจาก มาดามริสาเลยสักนิด หากแต่จิรายุ ยังอาจหาญเย้ยหยันเพื่อนของเธอ ด้วยการหิ้วปลาสวยงามในตู้แห่งนั้นไปเลี้ยงดูปูเสื่อกันออกหน้าออกตา มีแต่เพื่อนเธอที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาหาเงิน จึงไม่รู้เท่าทันได้แฟนทรยศ
ไม่ถึงสิบนาทีมอเตอร์ของไอ้เกลี้ยง เด็กแว้นในชุมชนเดียวกันกับธัญดา ก็บึ่งมารับปัดท้ายจนฝุ่นตลบจอดต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง ขณะน้องชายของมันตราตามมาติดๆ
“ขึ้นเลยลูกพี่ดา ว่าแต่แฟนพี่ไม่เอาราชรถมาเกยหรือไงล่ะ ถึงได้เรียกใช้บริการไอ้เกลี้ยงสุดหล่อประจำซอยหมาหอน” เกลี้ยงเชิดหน้าทำเป็นหล่อเท่ ยกปกเสื้อตั้งอย่างกับวัยรุ่นยุค 90
“เออ...รีบไปอย่าถามมาก ไม่งั้นมึงโดนตีน คนยิ่งง่วงๆ”
“ทีเรียกใช้นะ เสียงหวานเชียว ทีงี้ยกกีบหน้าจะเตะปกเกลี้ยงเลยนะ” เกลี้ยงล้อเล่น
“หรือจะลองคนยิ่งอารมณ์ไม่ดี แล้วนี่แม่กลับจากบ่อนป้าสมรหรือยัง”
“ยังเลย ป้าแกคงนับเลขเพลิน”
“เฮ้อ...ไปๆ กลับ ตราฉันกลับก่อนนะ” ธัญดาถอนหายใจยาว เอ่ยลาเพื่อนอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อน จนดึกดื่นแทนที่จะได้กลับไปอาบน้ำนอนสบาย กลับต้องติดแหง็กอยู่กับเธอ คนโดนแฟนทิ้งไม่มารับ
“โชคดีเพื่อน คืนพรุ่งนี้เจอกัน ว่าแต่วันจันทร์หน้าแกมีงานพริตตี้ไหม”
“มีนะเปิดตัวหมากฝรั่งตัวใหม่รสแอปเปิ้ล”
“เออๆ เดี๋ยวไปเป็นหน้าม้าเชียร์ขอบเวที”
“จ๊ะ บายๆ ไปล่ะ”
“ว่าแต่พี่บอกกับพี่ดาเรื่องแฟนเขาหรือยัง” เมธัสน้องชายถาม หลังจากธัญดาไปแล้ว
