บทที่ 5 แกล้งหูหนวก ตาบอด 5
“จริงหรือ ไม่ใช่เพราะพ่อราชรถไม่ไปเกยหรือเปล่า” ไอ้เกลี้ยงแกล้งแซวทั้งที่มันก็ไม่ได้รู้อะไร แต่เพราะช่วงหลังๆมานี้ ธัญดาเรียกใช้บริการมันถี่ขึ้น บางทีธัญดาอาจทะเลาะกับแฟนเป็นไปได้ มันแค่แกล้งแซวไปอย่างนั้น เผื่อพี่สาวคนเผยอะไรให้ฟังบ้าง
“อย่าสู่รู้ไอ้เกลี้ยง ไม่ยังงั้นแกงได้โดนตีนพี่แน่คืนนี้”
“ผมรู้น่า พี่ทำทีดุไปงั้นแหละ ที่จริงน่ารักใจดีจะตาย” ตั้งแต่ไอ้เกลี้ยงรู้จักธัญดา ไม่เคยเห็นหญิงสาวบ่นท้อเหนื่อย หรือเบื่อรำคาญแม่ที่วันๆเอาแต่เข้าบ่อนเล่นไพ่ พอออกมาส่งเสียงตะโกนลั่นบ้านหิวข้าว กินข้าวเสร็จก็ไปเล่นไพ่ต่อ ส่วนธัญดามีหน้าที่หาเงินให้แม่ใช้ ทำงานทุกอย่างขอให้ได้เงิน ลำบากแค่ไหนสู้อดทนหนำซ้ำต้องเก็บเงินเรียนหนังสือเองอีกต่างหาก ใจสู้สุดเด็ดดวง “พี่คิดอะไรอยู่หรือเปล่า คิดถึงแฟนใช่ไหม” หน้าพี่สาวคนนี้ฟ้องชัดมาก
“คิดอะไร ไม่มี ไม่คิดซะหน่อย เอาเวลาไปคิดเรื่องหาเงินดีกว่า” หลอกตัวเองไปวันๆ
“คิดว่าทำไมพี่จุ๊บไม่ไปรับพี่น่ะสิ”
“เขางานยุ่ง ทำงานทั้งวัน หลับเพลิน เลยไม่ได้มารับพี่” ตามที่จุ๊บพูดมาแบบนั้น เธอไม่ได้บิดเบือนเพื่อแก้ตัวให้แฟนหนุ่มด้วยซ้ำ ตรงข้ามกับภาพในหัวของธัญดาไม่ใช่แบบนั้น ภาพรถยนต์คุ้นตาแล่นลับสายตาไป มันฟ้องอะไรบางอย่าง หากว่าก็ไม่อยากคิดเยอะ กลัวความจริง กลัวสิ่งที่ไม่เคยเตรียมใจจะเกิดขึ้นจริง
“พอๆ คืนนี้พี่เพลียขอตัวล่ะ เสียเวลาคุยกับแกชะมัด ขอบใจมากที่ไปรับ นี่เอาไปกินหนม” ปัดมือไล่ไอ้เกลี้ยงพร้อมกับไขกุญแจเข้าบ้าน ป่านนี้แล้วแม่ของเธอคงนั่งล้อมวงที่บ่อนป้าสมร ภาวนาอย่าให้ตำรวจจับเป็นพอ
“ครับๆ ผมไปนอนล่ะ” ไอ้เกลี้ยงลาพร้อมกับรับเงินเป็นค่าจ้างไปรับ อันที่จริงเกลี้ยงไม่เอาก็ได้ ยังไงพี่หนูดาก็ต้องยัดมาให้อยู่ดี เลยรับๆ จะได้ไม่ต้องกวนเวลานอน ตัวเองก็จะได้กลับไปนอนด้วย
“อย่าหนีไปแว้นให้แม่แกตามไปประกันตัวอีกล่ะ เงินยิ่งหายาก” เตือนเด็กหนุ่มทุกครั้ง คนอื่นเตือนไอ้เกลี้ยงไม่ค่อยเชื่อ พอเธอเตือนเกลี้ยงพอฟังบ้าง ไม่กล้าไปแว้นขึ้นบ้านนอนเป็นเด็กดี
“ไม่ล่ะพี่ คืนนี้ขอนอนสงบสักคืน บังเอิญเลือดเด็กดีมันไหลเวียน” ไอ้เกลี้ยงบอกพร้อมกับส่งสีหน้ายียวน เกลี้ยงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ถ้าได้รับการดูแลอบรมดีๆ มันพร้อมจะเป็นเด็กดีมีจิตสำนึกได้ ซึ่งสิ่งที่มันเป็นทุกวันนี้คือ ทั้งแว้น ทั้งตีหัวหมาด่าแม่เจ็ก คงเพราะสิ่งแวดล้อมในชุมชนแออัดแห่งนี้ เพาะบ่มให้มันเป็นไปตามกระแสสังคม แม่เกลี้ยงเป็นลูกจ้างในโรงงานละแวกนี้ ส่วนพ่อก็เป็นคนขับรถในโรงงานเดียวกัน
“บุญหูพี่จังเลยเกลี้ยง” ธัญดาตั้งใจชมด้วยความจริงใจ นานๆ จะได้ยินไอ้เกลี้ยงบอกว่าอยากอยู่บ้านซะที บุญหูอย่างมาก
ธัญดาเคยบอกตัวเองไว้ว่าสักวันจะถีบตัวเอง ให้พ้นไปจากสถานที่แออัดแห่งนี้ให้ได้ หลังจากเธอเรียนจบจะสมัครเข้าทำงานในบริษัทสถานประกอบการดีๆ มีชื่อเสียง จากนั้นจะพยายามเก็บเงินซื้อบ้านใหม่อยู่กับแม่ เพื่อให้แม่ห่างไกลจากอบายมุข บ่อน หวย ความเสื่อมโทรมที่แวดล้อมรอบตัว
หลังจากจบ ม.ปลาย ต้องออกหางานทำไม่ได้เรียนต่อแบบเพื่อนคนอื่น เพื่อเป็นเสาหลักหารายได้มาดูแลทุกคนในในบ้าน แม่เสียใจป่วยทางใจที่ต้องเลิกกับพ่อ ไม่มีกะจิตกะใจทำงานอย่างแต่ก่อน หันมาสนใจน้ำเมามากกว่าทำงาน ดูแลลูก เพื่อนชวนหาออกนอกลู่นอกทาง บอกว่าก็แค่ทำแก้เซ็ง ไม่ใช่อย่างนั้นนับวันแม่ถอนตัวไม่ขึ้น ถล่ำลึกไปกับการบวกลบตัวเลข เงินเก็บที่มีจึงค่อยๆ หมดไป พอเงินตัวเองหมดก็มาแบมือขอเงินลูก หนูดามีเงินแค่นิดหน่อยหยอดกระปุกเอาไว้เรียนต่อ เพื่ออนาคตจะได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ในที่สุดความฝันเธอก็เป็นจริงมีโอกาสได้เข้าเรียนสมใจ จึงได้รู้จักกับจิรายุ รณกฤต หรือจุ๊บ ลูกชายเจ้าของตลาดรณกฤต เธอเรียนปีหนึ่งสำหรับเขาเป็นรุ่นพี่ปีสี่ จิรายุหล่อ สมาร์ท หน้าตาหนุ่มลูกครึ่งจีน ร่างสูงผิวขาว ฐานะดี ขับรถหรู ทำให้สาวๆ หันมองทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว
ธัญดาหน้าตาน่ารัก ทำให้จิรายุชอบไล่ตามจีบเธอ หลายเดือนก่อนหญิงสาวเกือบตกลงเป็นแฟนกับรุ่นพี่ ที่ช่างมีสาวสวยห้อมล้อม ทุกวันนี้แม้ว่าตนเรียนจบแล้ว เขายังคบอยู่กับเธอ แต่ว่าตอนช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความใส่ใจในตัวเธอของจิรายุค่อนข้างแปลกไปสักนิด จนสังเกตได้ หลายสิ่งไม่เหมือนเดิม แต่นั่นธัญดายังพยายามเข้าใจคิดบวก ว่ามันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง การห่างกันคงเพราะเขาทำงานเยอะ จิรายุเข้าไปทำหน้าที่แทนพ่อเพื่อดูแลกิจการเป็นผู้บริหารมือใหม่ เขาต้องทำงานแทนครอบครัว ดังนั้นเธอจังไม่อยากคิดมากงปัดความรู้สึกน้อยใจทิ้งไป จึงหันมาโฟกัสการทำงานหาเงินดูแลแม่ อยากทำให้ชีวิตตัวเองและครอบครัวดีขึ้น ไม่ต้องวิ่งตามแฟนมากเกินไป
