บทที่ 10 C.3 [ฟ้า] (4)

“ไอ้เช่!!!” แล้วต่อให้เป็นโซ่ที่มีพละกำลังมหาศาลแค่ไหนก็รั้งตัวผมเอาไว้ไม่ได้ผมใช้แรงฮึบสุดท้ายวิ่งตรงปรี่ไปที่พี่คิมโดยทันทีและไม่วายมุดตัวแทรกกลางระหว่างไอ้เด็กมัธยมหน้าตาขี้เหร่ที่ดูเห่อฮาหมอยกับพี่คิมให้มันได้เหวอแดกกันไปเลย

“สวัสดีครับพี่คิมรักแรกของผม เมื่อวานมื้ออาหารสุดแสนหวานของเราหวังว่าจะสร้างความประทับใจให้พี่จนมิรู้ลืมเลยนะครับ” ผมไม่สนใจไอ้แว๊นที่ยืนทำหน้างงอยู่ทางด้านหลัง ผมจ้องใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตรพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้หนึ่งทีเต็ม ๆ

“ห๊าาาา...” พี่คิมส่งเสียงออกมาพร้อมกับความงงขั้นสุด ไม่ต้อง งง ครับ ไม่ต้อง งง ที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะหัวใจมันเรียกร้องหน่ะครับ

“เช่มึงเช่!” แล้วไอ้เพื่อนทั้งสามก็พยายามจะดึงตัวผมออกไปแล้วเหมือนจะหันไปยิ้มให้ไอ้ขี้เหร่ที่ยืนทางด้านหลังของผมด้วย

“ขอโทษนะครับ เช่มึง...สติเพื่อน!” ผมพยายามปัดมือเพื่อน ๆ ออกจนพี่คิมต้องกระพริบตาปริบ ๆ แล้วมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยอาการน่ารักสดใส

“อ๋อ...จะจีบ...พี่คิมเหรอครับ” แล้วไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันก็พูดขึ้นมาทำเอาผมที่ไม่พอใจในความมักใหญ่ใฝ่สูงของมันอยู่แล้วก็อยากจะปะทะชะมัด อยู่ ๆ เลือดนักสู้มันก็แล่นพล่านอยู่ภายในกาย พอมันเริ่มขยับปาก ลูกพระเจ้าตากก็เข้าสิงผมโดยทันที

“ไม่ได้จีบครับ เราอยู่ในขั้นศึกษาดูใจกันน่ะ ใช่ไหมครับพี่คิม” ผมหันไปหาพี่คิมที่ยังมีแววตาที่เปล่งประกายไปด้วยความรัก ความหวัง ศรัทธาและน่ายกย่องมาก ๆ

“อ๋อ...งั้นตามสบายเลยนะครับพี่คิมเป็นคนใจดีม้ากมาก” ไอ้เด็กหัวโปกกระโหลกไขว้มันถอนหายใจพลางยิ้มร่าแล้วเอามือล้วงกระเป๋าว่าออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ หน๊อย! มึงรู้จักไอ้เช่ศิษย์เฮียพอร์ชผู้ที่ยอมมอดไหม้และเกิดใหม่เยี่ยงนกฟีนิกซ์น้อยเกินไปแล้ว (เฮียผมมีรอยสักเป็นนกฟีนิกซ์หน่ะครับ)

“ไม่ได้จะมาขออนุญาตนะครับ แค่จะมาทวงสิทธิ์คืน อ๋อ...ดูจากทรงแล้วคงไม่รู้ใช่ไหมว่าพี่คิมเขาชอบกินร้านอาหารข้างมหาวิทยาลัย พวกเฟตตูชิ...ชิอะไรนะ” ผมหันไปหาไอ้โอมที่ก้มหน้าหงุดคล้ายกำลังอายอะไรบางอย่าง

“เฟตตูชินี่” ไอ้โอมว่าออกมาแล้วสะกิดสีข้างผมยิก ๆ ๆ อะไรของมึงความหล่อพี่คิมมันเข้าตาจนไม่กล้าเงยหน้ามองกันเลยหรือไง นี่พระเจ้ามาโปรดพวกมึงเลยนะเนี่ย!!!

“ง่อวววว...ไปกินข้าวกันมาแล้วด้วย แล้วไปดูหนังด้วยกันหรือยังครับเนี่ยปกติพี่คิมชอบดูหนังนะ พวกแบบแนวรักโรแมนติก หวาน ๆ ใส ๆ อะไรประเภทนี้” พี่คิมส่งสายตาเชิงตำหนิไปให้ไอ้เด็กเวรนั่นก่อนจะสบถพึมพำส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมา ดูเขาไม่ชอบมึงนะ ถอยเหอะ! เป็นกูไม่หน้าด้านหน้าทนยืนอยู่บนท่ามกลางความรักของคนอื่นหรอก แต่...ไอ้ประโยคที่ดูเหมือนจะรู้จักพี่คิมเป็นอย่างดีมึงตั้งใจจะขิงกูใช่ป่ะ! ไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเอ๊ย!

“นี่กำลังจะบอกว่าตัวเองเหนือกว่าใช่ป่ะ” พอมันเห็นผมตั้งท่าจะเอาเรื่องมันก็รีบโบกไม้โบกมือออกมายกใหญ่ก่อนจะรีบพูดออกมาด้วยความเริงร่าจนผมคิดว่า...มันก็ดูเป็นมิตรดีนี่ถึงตามันจะเฉี่ยว หน้าจะกวนส้นตีน เสียงมันจะเร้าอารมณ์ จนอยากโบกกบาลให้แยกสักที แต่ถ้ามึงมาในแบบสัมพันธไมตรีกูก็จะยินดีน้อมรับนะ ดูพี่คิมเขาไม่มีเยื่อใยเลยหน่ะ สงสารมึงอยู่แหละ

“เปล่า ๆ แค่จะแนะนำ ปกติเขาสายมูด้วยนะพี่คิมอ่ะ ชอบเข้าวัดทำบุญ พวกล่องเรือเก้าวัดอะไรแบบนี้ลองพาเขาไปดูสิ”

ผมคิดภาพตามที่ไอ้ขี้เหร่นั่นพูดแล้วก็หันไปหาพี่คิมด้วยความปรารถนาอันสูงส่ง ว่าแล้วเชียวทำไมถึงเปล่งประกายและงดงามดั่งดอกไม้ไฟเช่นนี้ ที่แท้ก็ทำบุญมาเยอะนี่เอง อยากจะถามว่าชอบถวายหลอดไฟให้วัดปะครับ ทำไมพี่ถึงสว่างขนาดนี้ล่ะ!

“จริงเหรอครับพี่คิมมันต้องเป็นบุพเพสันนิวาสแน่เลย ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันหน่ะครับ” ผมว่าออกไปด้วยความปลื้มปรีติแต่ดูเขาเขินจนทำตัวไม่ถูกเลยอ่ะ น่ารัก น่ารัก น่ารัก คำว่า น่ารัก ลอยแปะหน้าเขาเต็มไปหมดเลยอ่า ทำไงดี!

“คือ...”

“แล้วอย่าลืมพาเขาไปเดินที่ที่คนเยอะ ๆด้วยนะครับ ยิ่งเยอะยิ่งดีเลย” แล้วไอ้เด็กอีพีนี่ก็เป็นคนดีที่น่ายกย่องเหมือนกันนะ มันทำให้ผมขยับความสัมพันธ์จากคนที่ศึกษาดูใจกลายเป็นคนรู้ใจขึ้นมาซะแบบนั้น มึงนี่ก็ใช้ได้เลยแหละ ขอบคุณนะ!

“ผมก็ชอบงานสังสรรค์เหมือนกันครับพี่คิม เรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่างเลยครับ”

“งานวัดใกล้ ๆ ถัดจากมหาวิทยาลัยไปอีกสองสามซอยลองพาเขาไปปาโป่งดูนะครับ ผมไปละครับ สวัสดีครับ”

เห่ย...ชื่ออะไรเนี่ย คิวปิดหรือเปล่า มีการบอกพิกัดด้วย แผงศรมาให้เต็มที่เลยครับพร้อมน้อมรับเต็ม ๆ เป็นคนดีนะมึงหน่ะ

“ไอ้...มา...” แล้วพอท่านคิวปิดหันหลังก้าวเท้าฉับเดินจากไปด้วยความสดใส พี่คิมก็ตั้งท่าจะวิ่งตามจนผมต้องขวางทางเขาเอาไว้

“พี่คิมครับ เย็นนี้เรา...” ผมที่กำลังจะชวนเขาไปเดทรอบสองที่งานวัดก็ต้องชะงักกึกลงทันที

“เอ่อ...ที่รัก! อย่าเพิ่งงอนสิ มานี่ก่อน!” คำพูดของพี่คิมทำเอาผมที่ฉีกยิ้มกว้างช็อกค้างกลางอากาศคล้ายสายฟ้าตีฟาดลงมาที่หัวใจอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ม...เมื่อกี้ พี่คิมเรียกไอ้เปรตนั่นว่าอะไรนะ...

“ที่รัก ?” ผมยิ้มค้างเหงือกแห้งสายตาเหม่อลอยจนเหมือนเทพเมดูซาเอางูบนหัวมาจ้องตากูและเกิดสภาวะแข็งเป็นหินโดยฉับพลัน

“ขอโทษด้วยนะ เดี๋ยวพี่ต้องไปง้อแฟนพี่ก่อน ที่รัก!!!” แล้วพี่คิมก็วิ่งตามไอ้หน้าจืดนั่นไปในทันทีพร้อมกับเสียงที่เว้าวอนสุดฤทธิ์ อะไรนะ ? แฟน ? ฟ...แฟนเหรอ แฟน!

เขามีแฟนแล้วเหรอ!!!!

“เช่ ๆ ๆ ๆ หายใจเข้า ๆ ๆ ๆ ๆ เช่!!!!!”

หัวใจผมแหลกสลายกลายเป็นเสี่ยง ๆ ความรู้สึกเสียใจแล่นพล่านไปทั่วทุกอณูนี่ฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่เหรอ ? ส่งรักแท้มาให้แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แล้วผมก็ล้มลงเหมือนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง มันเป็นเกมที่คนบนฟ้ากำหนดลงมาให้เราต้องมาเจอกับความพ่ายแพ้ แล้วถ้าแบบนี้ผมจะเชื่ออะไรในพระเจ้าได้บ้าง ความรัก ความหวัง และความศรัทธามันเละเทะเปียกปอนด์ไปหมดแล้ว!!!!

ผมนั่งกอดเข่าอยู่ในสวนหวังจะให้น้ำจากเบื้องบนชำระความเศร้าเสียใจให้หมดสิ้นเพราะร่องรอยที่โชคชะตาได้สร้างเอาไว้มันช่างบาดลึกไปถึงหัวใจเหลือเกิน...

ใจร้ายเกินไปแล้ว! สรวงสรรค์กำลังกลั่นแกล้งผมอย่างหนัก! ผมหมดแล้ว หมดสิ้นซึ่งพลานุภาพแห่งความรักโดยสิ้นเชิง...ฮึก!

‘ ฟ้า ถ้าไม่ส่งมา ให้เธอมีใจ บอกกันสักคำเป็นไร ว่าเหตุใดต้องมาทำร้ายกันจากนี้ เรื่องราวที่มีก็ให้ลืมมันไปอย่าจำว่าเคยเป็นใคร ว่ามีใครที่เคยทำร้าย คนอย่างฉัน’

“สภาพติดลบแต่อยากจะคบกับดอกฟ้า เห้ออออ...” ไอ้โอมที่กำลังฉีดสายยางรดหัวผมอยู่ก็บ่นเหี้ยห่าอะไรออกมาก็ไม่รู้ แต่ผมก็ซึ้งใจนะครับที่มันยังคอยอยู่เคียงข้างผมแม้การให้กำลังใจของมันจะเป็นพลังบวกเชิงลบก็ตาม

“ไอ้เหี้ยเช่!!! เป็นส้นตีนอะไร! เปิดเพลงดังลั่นบ้านแถมยังเปิดน้ำเล่นอีก ไอ้ห่านี่มึงรู้ไหมว่าค่าน้ำค่าไฟแต่ละเดือนมันแพงแค่ไหนหน่ะห้ะ!!!”

แล้วพญามัจจุราชตัวจริงก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับปิดลำโพงผมที่กำลังเปิดเพลงที่กินใจในตอนนี้มากที่สุดลงไปอย่างไม่ใยดี แล้วไม่รู้ว่าอะไรต่าง ๆ นานาจะตอกย้ำสภาพหัวใจที่บอบช้ำของผมไปอีกมากมายแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีใครเข้าใจกูเล๊ย!

“ฟ้ายังทำร้าย พี่ชายก็มาดับฝัน รันทดแท้ชีวิตกู!” ผมล้มตัวนอนไปกับพื้นหญ้าด้วยสภาพหมดอาลัยตายอยากขั้นสุด ก่อนเสียงพิฆาตจะดังมาไม่หยุดไม่หย่อนจนผมอยากจะกินยาแก้แพ้อีกสักสามเม็ดให้มันหลับไปเลย รับไม่ได้แล้ว ใจร้ายเกินไป

“แล้วเสื้อนักเรียนเปื้อนหมดแล้ว ไอ้ควาย!!! ไฮเตอร์ก็หมดด้วย มึงไปซื้อน้ำส้มสายชูมาแช่เลยนะ!”

นี่แหละครับชีวิตผม ปอเช่ที่ฟ้ากลั่นแกล้งให้พบกับความวินาศสันตะโรอยู่เสมอ

ฮื่ออออ...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป