บทที่ 7 KINNPORSCHE 3 : ล่า (2)

“…” ความเงียบปกคลุมในห้องโถงใหญ่ บรรดาลูกน้องต่างก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตา ผมที่ได้แต่นั่งไขว้ห้างยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบชินกับบรรยากาศเดิม ๆ ที่มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง...

“พวกมึงดูแลลูกกูยังไงถึงได้ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก” เสียงตวาดยังดังไม่หยุดไม่หย่อน แต่ผมก็เข้าใจป๊าที่ต้องโกรธขนาดนั้นเขาคงเครียดมาก ภายในเดือนนี้เหมือนหุ้นส่วนของป๊าจะทำสงครามประสาทอย่างไม่หยุดหย่อน ในขณะที่ผมโดนจับ ไอ้คุณ พี่ชายคนโตกับไอ้คิม น้องชายคนเล็กก็โดนไม่ต่างกัน แต่ถ้าพูดถึงความถี่ในการโดนอะไรพวกนี้ คนที่น่าจะชินมากที่สุดน่าจะเป็นไอ้คุณ ที่โดนลักพาตัวมาทั้งชีวิตไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง พักหลังมันเลยจิตตกค่อนไปทางสติฟั่นเฟือนจนอาจจะติ๊งต๊องไปแล้วก็ได้

“ไอ้พีท ไอ้บิ๊ก ไอ้นนท์! ในฐานะที่มึงเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดของลูกกู มึงตอบกูมาซิ ว่าหลังจากนี้พวกมึงจะเอายังไงต่อ” เสียงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของคนทั้งสามมองหน้าสลับกันไปมา ไม่มีใครกล้าตอบอะไร ใบหน้าของพวกมันแดงฉาดไปด้วยรอยมือของพ่อผมที่คาดว่าก่อนหน้านี้น่าจะโดนหนักเอาเรื่อง

“ขอโทษครับคุณท่าน ผมจะทำให้ดีกว่านี้” เสียงพีทที่เป็นผู้ติดตามของไอ้คุณเอ่ยเสียงนิ่ง

“กูเบื่อจะฟัง! มึงดูรอยช้ำบนตัวลูกกูนี่ นี่ยังไม่รวมไอ้คุณที่นอนป่วยอยู่บนห้องอีก” ถึงแม้เราจะรู้ว่าพวกมันไม่กล้าทำอะไรนอกจากปั่นประสาทป๊าผมไปเรื่อย ๆ จับพวกผมไปซ้อมเล่นบ้าง ดักทำร้ายบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะทั้งลูกหนี้ คู่แข่ง แต่ที่เรารู้อยู่เต็มอกแต่ทำอะไรไม่ได้ว่าเบื้องหลังทั้งหมดมันคือคนใกล้ตัว แต่ป๊าทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานแน่ชัดและอีกหนึ่งเหตุผลคือเขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของป๊าหรือที่ญาติในเครือผมเรียกกันก็พวกตระกูลรอง หึ! ส่วนบ้านผมก็ตระกูลหลัก เราแข่งกันทำธุรกิจมานาน อากงของผมยกหุ้นคาสิโนและอสังหาริมทรัพย์ให้ลูกชายคนโตบริหารเป็นประธานบริษัทนั่นคือพ่อผม และพี่น้องคนอื่น ๆ อีก 2 คนคือ เจ็กกันต์ และ โกกิม เป็นรองประธาน ทำให้เกิดการช่วงชิงอำนาจและรอยร้าวจนพาลมาถึงรุ่นลูก...

“ผมขอโทษครับคุณท่าน แต่เราก็พยายามรวบรวมหลักฐานตามที่ท่านบอก แต่ตระกูลรองมักยืมมือคนอื่นมาทำร้ายเราเสมอเราก็เลย...” ไอ้บิ๊กพยายามอธิบาย

“มึงจะบอกว่าพวกเราโง่กว่ามันงั้นสิ...” ป๊าผมบอกทำให้บิ๊กต้องกลืนประโยคทั้งหมดที่จะพูดลงคอก้มหน้าฟังคำก่นด่าต่อเรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าเราทำอะไรไม่ได้เลยแต่ป๊าอยากให้รวบรวมหลักฐานและไล่เจ๊กกันต์ออกทีเดียว อยากให้ไปพ้นทาง ซึ่งมันเป็นเรื่องยากเพราะฝั่งนั้นก็เล่นไม่ซื่อแถมลูกล่อลูกชนพอ ๆ กับป๊าผม เลยทำได้แค่ปั่นกันไปกันมาไม่จบไม่สิ้น

“ถ้าลูกกูเป็นอะไรอีกละก็ กูจะไล่ออกให้หมด...” ป๊าตะคอกเสียงดังก่อนจะหันมามองผม

“คินน์ เรื่องที่ป๊าให้ไปตามไอ้นั้นได้เรื่องหรือยัง” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ตอนนี้ป๊าอยากได้คนเข้าสังกัดหน้าใหม่ที่ฝีมือดีดี

“รีบหน่อยนะ ป๊าจะเปิดสัมปทานคาสิโนที่ใหม่ ไอ้พวกตระกูลรองมันไม่อยู่เฉยแน่”

“คุณคินน์มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมไม่อยากปล่อยไอ้นั่นไป มันฝีมือดีมาก ดีจนผมกลัวว่าใครจะมาดีลมันไปได้ก่อน” พี่ชาน เลขาป๊าผมรีบพูดขึ้นสีหน้าเป็นกังวลไม่แพ้กัน คนอย่างมันเก่งขนาดนี้ ลูกน้องฝั่งนั้นคงคาบข่าวไปบอกเจ้านายมันว่ามีคนมาช่วยผมแล้วฝีมือก็เก่งฉกาจจนน่ากลัว คงจะรีบทำสันดานเดิม ๆ ที่มาซื้อตัวลูกน้องจากบ้านผมเล่นอย่างกับตลาดค้าแข้งนักฟุตบอล

“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” ผมบอกกลับไปเสียงเรียบซึ่งพี่ชานพยักหน้ารับและหันไปมองป๊าผมต่อ...

“ไงมึง ไปเที่ยวมาสนุกไหม?” เสียงสดใสเอ่ยขึ้นมาทำลายความตึงเครียดภายในห้องพร้อมปรากฏร่างละม้ายคล้ายผมแต่หน้ามันอ่อนกว่าถึงมันอายุมากกว่าสามปีก็ตาม

“เที่ยวบ้านมึงสิ” ผมตอบกลับพี่ชายตนเอง ด้วยพฤติกรรมไม่น่าเคารพผมกับน้องชายคนเล็กเลยไม่มีใครเรียกมันว่าพี่สักคน ตั้งแต่เกิดเรื่องผมโดนลักพาตัวไปทรมานสามวันสามคืนผมก็ยังไม่เจอหน้าพี่น้องผมเลยสักคน เห็นว่าไอ้คุณป่วยนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บนห้อง แล้ววันนี้มันก็ลงมาได้โดยมีแผ่นคูลฟีเวอร์ติดไว้บนหน้าผากมันหนึ่งอัน

“พูดกันดีดีหน่อยได้ไหม” ป๊าหันมาด่าพวกผม

“อะไร ของฝากมึงเยอะเลยนี่” มันจับหน้าผมพลิกซ้ายทีขวาทีจนน่ารำคาญ

“มึงไปไหนก็ไป” ผมว่าออกอย่างหงุดหงิดแล้วปัดมือมันออก มันเลยเดินยิ้มหน้าระรื่นไปนั่งที่โซฟา เปิดทีวีกลางห้องดูหน้าตาเฉย จนป๊าส่ายหัวแต่ก็ไม่ได้ด่ามัน ก็นั่นลูกรักเขาล่ะ จริง ๆ ชีวิตมันน่าสงสารมากครับ โดนจับ โดนซ้อม โดนลอบทำร้ายหลายครั้ง หนักกว่าพี่น้องคนอื่นมานานเป็นสิบ ๆ ปี หลัง ๆ มาก็พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

“รีบพาตัวมาพบป๊าให้เร็วที่สุด” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา ผมพยักหน้ารับ

“ป๊าจะทำไร” ลูกชายคนโปรดพูดพลางแกะช็อกโกแลตในโหลแก้วที่วางอยู่ทั่วทุกมุมบ้านกินหน้าตาเฉย

“หาบอดี้การ์ดคนใหม่ให้คินน์” ป๊าหันไปตอบทำเอาไอ้บิ๊กลอบมองผมน้อย ๆ

“แล้วของผมอ่าา” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดบวกกับหน้าตาอันแสนจะตอแหลของพี่ชายเอ่ยทักท้วง

“อะไร แกก็มีไอ้พีทอยู่แล้วนิ” ป๊าว่าแล้วมองไอ้พีทที่ก้มหน้านิ่ง ส่วนไอ้คุณก็มองไปพลางเบ้ปากใส่

“มันโง่นะป๊า ผมชอบคนฉลาด ๆ” ผมเห็นไอ้พีทกรอกตาไปมาทำหน้าเอือมใส่เจ้านายตัวเอง จริง ๆ ไอ้พีทก็เก่งครับ หลังจากที่บอดี้การ์ดชุดเก่าไอ้คุณโดนไล่ออกแล้วพีทมาแทนไอ้คุณก็โดนลักพาตัวน้อยลงกว่าเดิมเยอะ

“เอาไว้มันทำแกโดนกระทืบอีกรอบแล้วกันป๊าจะหาใหม่ให้” ป๊าพูดเอาใจมัน ใครบอกว่าลูกคนเล็กเอาแต่ใจใช้กับบ้านผมไม่ได้ ผมที่เป็นคนกลางกับน้องชายคนเล็กเหมือนโดนตัดหางปล่อยวัดเข้าไปทุกวัน ไม่มีอะไรจะตามใจไปมากกว่าลูกชายคนโตของตระกูลที่ดูเสียคนเข้าไปทุกวัน

“แล้วของผมล่ะ” เสียงทุ้มอีกเสียงดังขึ้นพร้อมปรากฏร่างที่คล้ายกับผมคนที่สองเสมือนส่องกระจกของโดเรม่อนแล้วตัวโคลนนิ่งโผล่ออกมาทีละตัว ผมกรอกตามองบนพลางทิ้งตัวเอนไปกับพนักโซฟา ผมจ้องน้องชายคนเล็กที่เดินเข้ามาทำหน้าทะเล้น

“มึงเป็นใครวะ” คุณทำหน้าประหลาดใจชี้ไปที่ประตูไม้ลายมังกรบานใหญ่

“อะไร...เพี้ยนขึ้นทุกวันนะมึง” ไอ้คิมยืนกอดอกโน้มตัวไปพิงกับขอบประตูก่อนจะเบี่ยงตัวหลบบรรดาลูกน้องที่เรียงหน้ากันเดินออกไปจากห้องทิ้งไว้แต่เราสามคนพี่น้องและป๊าที่นั่งกุมขมับ

“มึงน่ะสิเพี้ยน...นี่ความทรงจำมึงกลับมาแล้วเหรอ ถึงได้จำทางกลับบ้านถูกอ่ะ” ไอ้คุณว่าออกมาทำเอาไอ้คิมเบะปากใส่ แต่ก็จริงอย่างไอ้คุณพูด มันกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่อยู่ ๆ ไอ้คิมจะโผล่หัวกลับบ้านสักที ซึ่งถ้ามันโดนลักพาตัว ต่อให้ผ่านไปเป็นเดือน คนที่บ้านคงคิดว่ามันออกไปเที่ยวตามปกติคงไม่มีใครนึกสงสัยหรือรู้สึกตัวว่ามันหายไป...

“วันนี้พายุจะเข้าหรือไงลูกกูอยู่บ้านกันครบ”

“ก็ผมมันหมาหัวเน่า อะไร ๆ ป๊าก็ไอ้คุณตลอด ผมเลยหนีออกจากบ้านประชดชีวิต” ไอ้คิมเดินมานั่งกระแซะข้าง ๆ ป๊าอย่างเอาใจ สิ่งที่มันพูดตอแหลทั้งปวงเพราะคนอย่างมันคงไปติดเด็กที่ไหนสักที่จนจำทางกลับบ้านไม่ได้นั่นแหละ

“แล้วกลับมาทำไม ตอนมึงไม่อยู่ป๊าบอกว่าจะยกมรดกให้กูกับคินน์แค่สองคน” ไอ้คุณกับไอ้คิมมันวางมวยเป็นเรื่องปกติครับ

“ป๊าครับ...ป๊าปล่อยให้ลูกชายคนโตสติฟั่นเฟือน พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้ได้ไง” ไอ้คิมชี้ไปที่ไอ้คุณที่ปัดนิ้วมันทิ้งอย่างไว

“พอ ๆ แค่นี้กูก็ประสาทจะแดกอยู่แล้ว” ป๊ารีบพูดปรามไว้ ผมที่ออกอาการเซ็งพี่น้องตัวเองก็ได้แต่กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ เหมือนหาอะไรโฟกัสดีกว่าฟังพวกมันกัดกัน

“ดีเลยวันนี้อยู่กันครบ...พรุ่งนี้แกสามตัวเข้าไปเช็คแฟ้มบัญชีที่โรงงานให้ป๊าด้วยนะ” ไอ้คุณและไอ้คิมออกอาการหมดอาลัยตายอยากทันทีที่ป๊าพูดจบ

“โอ๊ยยย ใช้ลูกน้องสิครับ” ไอ้คุณพูดขึ้น

“พวกแกเป็นเจ้าของบริษัทในอนาคตไม่คิดจะช่วยฉันทำงานเลยหรือไง...อย่าเบี้ยวล่ะ! โดยเฉพาะแกไอ้คิม หัดนอนที่บ้านซะบ้าง” พูดจบป๊าก็เดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้ไอ้คุณไอ้คิมเปิดศึกสาดน้ำลายกันต่อ

“กูไม่น่ากลับมาเลย” ไอ้คิมสบถออกมาเสียงดัง

“เออ! เพราะมึง”

“มึงเป็นพี่คนโตหัดทำประโยชน์บ้างสิวะ ภาระเลยมาตกที่น้อง ๆ หมด”

“ปากดีจังนะมึง กูอยู่ช่วยงานป๊ามากกว่ามึงอีก” ไอ้คุณตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องไอ้คิมต่อไม่หยุดหย่อน ใครจะไปเชื่อว่าไอ้คุณเป็นพี่ชายของผมสองคนเพราะมันดูเด็กแล้วงอแงที่สุดในนี้ คนมักเข้าใจผิดว่าผมเป็นลูกคนโตของตระกูลเพราะดูมีสติมากกว่ามันสองคน แล้วเห็นแบบนี้ไอ้คุณมันเรียนจบแล้วนะครับ มหาลัยเดียวกับผมนี่แหละ ป๊าพยายามให้มันเข้าไปดูบริษัทเยอะ ๆ แต่มันขอป๊าพักผ่อน พักมาได้สองปีก็ไม่เห็นคิดจะจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนไอ้คิมเรียนบริหารเช่นกัน แต่อยู่คนละมหาวิทยาลัยกับผม มันอยู่ปีสองเห็นมันดื้อ ๆ ร้าย ๆ แบบนี้ตอนมันจริงจังไอ้นี่ก็เอาเรื่องอยู่นะ มันเรียนเก่ง หัวไว เอาตัวรอดได้ ไม่น่าหนักใจเท่าไหร่

ผมเดินหนีออกมาจากใจกลางสงครามโลก เดินมาสั่งลูกน้องในสังกัดให้เฝ้าติดตามทั้งหน้าบ้านไอ้จอมและร้านเดอะรูทคลับ วันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับรายงานว่าไม่มีคนชื่อจอม ถามใครใครก็ไม่รู้จัก แถมยังยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีแน่นอน ผมนึกตงิดใจขึ้นมา...

“จริง ๆ นะครับคุณคินน์ ผมจำหน้ามันได้ เมื่อคืนที่เดอะรูทก็ไม่มีมัน ที่บ้านเฝ้าทั้งคืนก็ไม่เจอ แล้วถามใครใครก็งงกันหมด ยืนยันว่าไม่มีคนชื่อจอม คุณคินน์ครับ...มันชื่อจอมจริง ๆ เหรอ?” บิ๊กพูดน้ำเสียงจริงจัง ผมนั่งดูทีวีอยู่กลางห้องทำงานของตัวเองก็คิดเหมือนมันทุกอย่าง ผมเลยนึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง จริง ๆ แล้วผมมีเบอร์มัน...

นึกได้แบบนั้นเลยรีบตรงเข้าไปหาป๊าทันที...

“ป๊า ขอยืมโทรศัพท์หน่อยครับ” ผมบอกป๊าที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ที่ห้องโถงเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้

“มีไร” ป๊าส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมเลยรีบหาเบอร์โทรเข้าเมื่อสี่วันที่แล้ว ดูเวลาจนแน่ใจและรีบบันทึกเบอร์ลงในโทรศัพท์

“ขอบคุณครับ” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ป๊าที่มองหน้าผมด้วยความสงสัย

“ล่าคนให้ป๊าอยู่ไง”

“อะไรวะ ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ได้เรื่องอีกเหรอ” ป๊าโวยวายขึ้นมา

“ลําบากหน่อย เพราะมันไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา!” ผมบอกป๊าก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้อง จัดการกดปุ่มโทรออก โทรหาเบอร์แปลกทันที

...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป