บทที่ 2 กลรักพันธนาการร้าย ตอนที่2
“ทำไมถึงให้แขกมาช่วยล่ะนิด”
หลังจากถ้ายทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยนิชาก็อดถามณดาไม่ได้ว่าทำไมถึงยอมให้แขกที่เข้ามาพักมาช่วยงานในส่วนของรีสอร์ท ถึงแม้พราวพิ้งค์จะเป็นคนของพ่อเลี้ยงแดนไทยที่พวกเธอรู้จักกันดีก็เถอะ
“ฉันเอ็นดูน้องพิ้งค์ตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้ว”
ณดารู้จักกันดีกับพ่อเลี้ยงแดนไทนเพราะเขาจะเดินทางจากเชียงใหม่แล้วมาพักที่นี่ตลอดเมื่อมาเที่ยวหรือมาหาซื้อที่ดิน พักหลังแดนไทยจะพาแฟนสาวและพราวพิ้งค์ที่เป็นเพื่อนของแฟนสาวและเป็นคนทำบัญชีในสำนักงานของเขามาด้วยเพราะแดนไทยอยากให้พราวงพิ้งค์มาเปิดหูเปิดตา แถมเธอเองก็ได้มารู้ว่าพราวพิ้งค์กำลังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ยิ่งเอ็นดูเธอหนักขึ้นไปอีกเพราะชีวิตของหญิงสาวก็ไม่ได้ต่างจากเธอในตอนนี้
“เพราะน้องเหมือนนิดใช่ไหมล่ะ”
นิชาพอจะเดาเรื่องออกแล้ว
“ใช่ ที่ยอมให้น้องพิ้งค์ช่วยเพราะไม่อยากให้เธอฟุ้งซ่านฉันเข้าใจสถานการณ์ของน้องเขาดี”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันนะที่ทิ้งน้องพิ้งค์ทิ้งลูกได้”
“พวกเขาคงมีเหตุผลนั่นแหละ”
“ช่างเหอะพูดไปก็พาลจะพาพวกเราฟุ้งซ่านเองเปล่าๆ”
นิชาเห็นสีหน้าของณดาเริ่มไม่สู้ดีเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
เย็นของวัน
“สวัสดีค่ะน้านิน้าเตย”
นี่น่ากลับมาจากโรงเรียนหลังจากที่คนเป็นแม่ไปรับมาได้เด็กหญิงก็ทักทายทุกคนโดยที่ไม่ต้องมีใครบอก
“สวัสดีค่ะ...สาวน้อยไปโรงเรียนมาสนุกไหมคะ”
นิชารีบเข้าไปหาหลานสาวของเธอที่นับวันๆจะทำให้พวกเธอหลงอยู่เรื่อยๆกับคำพูดหวานๆ
“สนุกค่า”
เด็กหญิงตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี
“โอ้โหท่าทางจะสนุกจริงๆนะเนี่ย”
หนามเตยได้ยินเสียงของเด็กหญิงจึงต้องหยุดมือจากการทำงานเพราะตกใจเสียงหากหลานของเธอจะสนุกขนาดนี้คงจะชอบการไปโรงเรียนมากแน่ๆ
“ฮ่าๆๆ”
ณดาหัวเราะให้กับความสดใสของลูกสาวเธอนี่แหละที่เป็นสีสันในชีวิตของเธอที่ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรก็ทำให้เธอสู้ต่อได้
“เออ...คลิปตัดจะเสร็จแล้วนะ”
หนามเตยทำคลิปที่ณดาถ่ายวันนี้ช่วงเช้าเกือบเสร็จแล้วเธอไม่ต้องตัดอะไรมากเพราะณดาทำงานอย่างลื่นไหลที่สุด
“ไวมาก...”
นิชาหันมาหาหนามเตยเธอเองยังอึ้งที่เห็นว่าเพื่อนเธอทำงานไวเหลือเกิน
“ก็นิดพูดได้ลื่นไหลขนาดนั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะต้องตัดต่อมากมายพรุ่งนี้ก็น่าจะลงได้”
“ดีแล้วยิ่งลงไวยิ่งดีเราจะได้รูว่าฟีดแบคดีไหม”
ณดาเองเห็นว่าหากลงไวเท่าไรก็ยิ่งดีเพราะเธอจะได้รู้ว่าผลตอบรับมันดีหรือไม่หากยังไม่ดีเธอเองก็จะลองหาสิ่งใหม่ๆทำเพื่อการโปรโมทยังไงเธอก็จะต้องทำให้กิจการของเธออยู่ให้ได้
บริษัทศุภวรเกียรติ
“ผมยังไม่เห็นด้วยที่เราจะลงทุนในตอนนี้นะครับคุณอา”
ในห้องประชุมของวันนี้ที่มีเคลวินประธานใหญ่ของบริษัทนัดประชุมด่วนอคิณไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องในการประชุมวันนี้เท่าไรจึงต้องออกเสียงค้านเพราะเคลวินต้องการลงทุนสร้างบ้านจัดสรรค์เพิ่มแต่อคิณเห็นว่าตอนนี้ผลกำไรของบริษัทที่ได้มายังเป็นการเสี่ยงที่จะลงทุนอะไรเพิ่ม
“ผมเห็นด้วยกับคุณคิณนะครับ”
“ใช่ๆพวกเราก็เห็นด้วย”
หุ้นส่วนรายย่อยทั้งหมดก็ไม่มีความเห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกันหากอคิณไม่เอ่ยปากค้านพวกเขาคงไม่กล้าแต่นี่อคิณที่เป็นรองประธานเอ่ยปากขึ้นมาพวกเขาเลยกล้าออกความคิดเห็น
“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจะพักไว้ก่อนก็ได้ไว้บริษัทเรามีผลกำไรมากกว่านี้ก่อนค่อยว่ากันอีกทีงั้นขอจบการประชุมเท่านี้นะครับ”
เคลวินจำต้องจำใจรับฟังเสียงส่วนมากเพราะตอนนี้เขาเหมือนมีหัวเดียวกระเทียมลีบเสียแล้ว
“คุณอาไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับที่ผมไม่เห็นด้วย”
ก่อนออกจากห้องประชุมอคิณอยู่คุยกับเคลวินก่อนเพราะวันนี้เขาค่อนข้างทำอะไรที่ดูเหมือนจะหักหน้าคนที่เขาเคารพเขาจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดของบริษัท
“อาจะว่าอะไรได้สิ่งที่อาขอความเห็นจากทุกคนอาก็ได้ความเห็นแล้วเอาเป็นว่าหากผลกำไรมากขึ้นเมื่อไรคิณคงไม่ขัดอะไรอาหรอกนะ”
เคลวินฉีกยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าเรื่องนี้เขายอมรับว่าเขาจะต้องวางมือเอาไว้ก่อนแต่ก็มิวายเกริ่นว่าหากอนาคตผลกำไรของบริษัทมากขึ้นเขาก็จะทำสิ่งที่ต้องการและหวังว่าจะไม่มีใครขัด
“ครับคุณอา”
หากผลกำไรมากพออคิณเองก็ไม่ขัดเคลวินที่จะลงทุนอะไรเพิ่มอยู่แล้วเขาให้สิทธิ์เคลวินเป็นหัวเรือมาตลอดแค่บางอย่างที่มันอาจจะทำให้บริษัทล่มได้เขาก็ต้องขัดเท่านั้นเอง
อคิณหนุ่มหล่อหน้าคมนัยตาน่าหลงไหลสุขุมนุ่มลึกสูงยาวเขาดีใครๆก็รู้จักเขานามนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่หาตัวจับยากแถมยังไม่ค่อยออกสื่อเขาเป็นเจ้าของบริษัทจัดทัวร์แถมยังพ่วงตำแหน่งรองประธานบริษัทอสังหารายใหญ่ตอนนี้ชายหนุ่มเหลือตัวคนเดียวเพราะหลังจากที่พ่อของเขาเสียไปเพราะถูกใส่ร้ายและตรอมใจหลังจากนั้นชายหนุ่มก็กลับมาทวงทุกอย่างของเขาคืนตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนทุกวันนี้ถือว่าเป็นชายหนุ่มอีกหนึ่งคนที่มีความสามารถในการทำงานและความสามารถด้านอื่นๆอีกมากมาย
วันต่อมา
สนามยิงปืนXXX
ปังงง..ปังๆๆ...ปัง
“ยังแม่นเหมือนเดิมนี่หว่า”
คริสโตเฟอร์อดเอ่ยชมเพื่อนของเขาไม่ได้เมื่อเพื่อนของเขาฝีมือไม่ตกเลยสักนิเดียว
“อืม..ก็ต้องฝึกเรื่อยๆ”
อคิณคิดว่าฝีมือของเขามันก็มีตกได้หากไม่ได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
“ว่าแต่วันหยุดทั้งทีแกก็ขลุกอยู่กับสนามยิงปืน..สนามฟุตบอล..หรือไม่ก็ห้องหนังสือ..ไม่หาความสุขตามประสาผู้ชายบ้างวะ”
คริสโตเฟอร์เห็นว่าเพื่อนของเขาวันหยุดก็เอาแต่ชวนพวกเขาทำกิจกรรมไม่เห็นว่าเพื่อนตนจะมีสาวๆมาให้เห็นบ้างจนเต้องเอื้อนเอ่ยถามถึงอย่างอ้อมๆ
“นี่ไงความสุขของฉัน..ส่วนเรื่องที่แกหมายถึงมันไม่ต้องให้ใครเห็นก็ได้”
อคิณตอบได้เลยว่านี่มันก็คือความสุขของเขาส่วนเรื่องเรื่องที่เพื่อนของขาทำเป็นถามอ้อมๆเขาเข้าใจดีว่าเพื่อนของเขาหมายถึงเรื่องผู้หญิงตอนนี้เขาไม่ได้คิดจะหาเรื่องใส่ตัวเพราะเขารู้ว่าการมีแฟนหรือมีคนรักมันต้องแบ่งเวลาส่วนตัวของเขามากแค่ไหนหากจะเป็นผู้หญิงแบบชั่วครั้งชั่วคราวเขาก็มีบ้างแต่ก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องเปล่าประกาศให้ใครเขารู้
“อ้าว..แสดงว่าแกก็ต้องมีซุกไว้บ้างใช่หรือเปล่า”
คริสโตเฟอร์ถึงกับอมยิ้มคิดว่าเพื่อนของเขาจะลาขาดจากเรื่องแบบนี้ไปเลยเสียอีก
“ผู้ชาย..ยังไงก็คือผู้ชาย..ฮ่าๆๆ”
ถึงเขาจะโสดยังไงเขาก็ผู้ชายเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีปลดปล่อยกันบ้าง
คฤหาสน์เดฟ
“จะเอายังไงต่อครับท่าน”
เจมส์เห็นคนเป็นนายมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่กันแน่
“อยู่เฉยๆไปก่อน”
เคลวินยืนมองผ่านหน้าต่างไปด้านนอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“คณพ่อขา..คิดถึงจังเลยค่ะ”
เคทเธอรีนกลับมาจากญี่ปุ่นก็รีบกลับมากอดคนเป็นพ่อช่วงนี้หลังจากที่เธอเรียนจบก็เอาแต่เที่ยวอย่างเดียวเป้าหมายของเธอก็คืออยากจะเที่ยวให้รอบโลกให้ได้
