บทที่ 2 ปล้นจูบ (50%)

“ว้าย!” แม่สาวน้อยอุทานเสียงหลง ด้วยเกรงว่าตนจะล้มลงไปจูบกับพื้นถนน หากแต่เดชะบุญที่เจ้าของร่างทรงพลังคว้าข้อมือกลมกลึงและกระชากให้เธอหมุนตัวกลับมาได้ทันท่วงที ก่อนที่เขาจะวาดเรียวแขนแกร่งมาเกี่ยวเอวอ้อนแอ้น ชั่วพริบตาร่างอรชรก็ปลิวไปปะทะแผงอกกำยำที่อุดมด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นเต็มแรง

ตุ้บ!!!

‘อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด…หน้าฉันซบอกล่ำๆ ของผู้ชาย!’ อารดาอุทานในอกด้วยความตะลึงพรึงเพริด หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างมิอาจห้ามได้ เจอสถานการณ์แบบนี้บวกกับฤทธิ์ของน้ำเปลี่ยนนิสัยซึ่งยังคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือด ก็ทำให้แม่สาวเรียบร้อยที่รักนวลสงวนตัวเป็นชีวิตจิตใจออกแนวรั่วได้เหมือนกัน ครั้นจะผลักไสร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างให้ถอยห่างเธอก็ดันมือไม้อ่อน เพราะช็อกไปชั่วขณะ อันเนื่องจากว่าไม่เคยต้องมือชายมาก่อนในชีวิต

“ตามหาให้เจอ อย่าให้มันหนีไปได้!” เสียงตะโกนโหวกเหวกจากทางถนนใหญ่ที่ลอยตามลมมากระทบโสตประสาท ทำให้ชายหนุ่มสบถลั่น

“ระยำเอ๊ย!” ทันใดนั้นเดเรคก็ดันไหล่บอบบางออกจากร่างผึ่งผาย ทว่าไม่ได้ทำแม้แต่ปรายตามองหน้าสาวเจ้า เพราะกำลังพะวักพะวงกับกลุ่มคนที่หมายปลิดชีวิตของเขา หากพวกมันไม่ทำตัวเป็นหมาหมู่ สาบานได้เลยว่าเดเรคจะไม่ยอมหนีเหมือนคนขี้ขลาดอย่างนี้แน่ แต่ช่างเถอะ! แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย

“ไม่อยากทำอย่างนี้เลย บ้าชะมัด!” เสียงห้าวห้วนติดจะดุดันคำรามลั่นด้วยความคับข้องใจ จากนั้นปลายนิ้วกระด้างก็เชยคางมนขึ้น วินาทีแรกที่ได้มองหน้าอีกฝ่าย อารดาถึงกับตะลึงตาค้างในความหล่อบาดใจ ประหนึ่งเทพบุตรที่หล่นตุ้บมาจากสรวงสวรรค์ พลันรองเท้าในมือก็ร่วงผล็อยไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นถนน โอ้พระเจ้า! ให้ตายสิ! เธอแพ้คนหล่อ

“ไอ้เดเรค อย่าให้เจอตัวนะมึง พ่อจะยำให้เละเลย!” น้ำคำอาฆาตมาดร้ายที่ได้ยินจากระยะไม่ไกล ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มตัดสินใจได้ในบัดดลว่าตนควรจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ได้อย่างไร

“ถือว่าช่วยผมก็แล้วกันนะ”

เสี้ยววินาทีถัดมาใบหน้าหล่อลากไส้ก็ลอยเด่นอยู่ใกล้แค่คืบ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจผ่าวระอุที่รินรดซึ่งกันและกัน เขาไม่ได้สนใจจะมองหน้าเธอ เพราะดวงตาคมกล้าคู่นั้นเบนไปยังหน้าปากซอยอย่างระแวดระวัง แต่อารดานี่สิจ้องอีกฝ่ายไม่กะพริบ ก่อนที่เสียงหวานจะหลุดอุทานเบาๆ เมื่อมือใหญ่เคลื่อนมาจับตรึงท้ายทอยสลวยไว้มั่น

“อ๊ะ…อุ๊บ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ทว่ายังไม่ทันจะจับต้นชนปลายได้ก็ถูกอีกฝ่ายก้มลงมาปิดปากด้วยจุมพิตดุดันเสียแล้ว คราแรกเธอนั้นนิ่งงันคล้ายถูกสาป หากแต่ลมหายใจฟืดฟาดประหนึ่งกระหายจัดเจือด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ ก็ทำให้ร่างบางทะลึ่งพรวด และสร่างเมาได้อย่างชะงัด!

‘หล่อแต่เลว ฉันไม่สน!’ ความคิดของอารดาเปลี่ยนไปทันควัน ครั้นพ่อตัวโตตวัดเรียวแขนกำยำข้างที่ว่างรัดรอบเอวอ้อนแอ้นอีกครา แม่สาวอ่อนเดียงสาก็ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง

“อื้อ…” เสียงอู้อี้ครางประท้วงกลั้วลำคอระหง คนถูกปล้นจูบดิ้นรนต่อต้านสุดฤทธิ์ พลางระดมกำปั้นน้อยๆ ซัดเข้าที่ไหล่กว้างไม่ยั้ง หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยี่หระ แถมพ่อเจ้าประคุณยังสอดแทรกเรียวลิ้นร้ายกาจเข้าไปฉกฉวยความหวานล้ำจากกระพุ้งแก้มอิ่มอุ่นอย่างโอหัง

การกระทำอันแสนอุกอาจทำให้อารดาหายเมาเป็นปลิดทิ้ง สติสัมปชัญญะกลับมาเกือบจะครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เพราะที่จริงแล้วเธอนั้นไม่ได้เมามากมายอะไร เพียงแค่ร่างกายไม่ชินกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ อีกทั้งน้ำเปล่าก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว

‘จูบไม่ประสา แถมยังเงอะๆ งะๆ แบบนี้ แม่สาวเวอร์จิ้นชัดๆ’ นั่นคือความคิดแวบแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองของพ่อหนุ่มจอมฉกฉวยมือฉมัง ผู้ผ่านสมรภูมิรักมาอย่างโชกโชน

ครั้นได้ดื่มชิมความหวานแสนซ่านทรวง แถมยังเจือด้วยรสชาติของเตกีล่านิดๆ ที่ยังติดอยู่ตรงกระพุ้งแก้มนุ่มและปลายลิ้นเรียวเล็ก เดเรคก็ยิ่งลุ่มหลง ความไร้เดียงสาอันหอมหวานกำลังดึงเขาเข้าสู่วังวนปรารถนาจนแทบฉุดไม่อยู่ พ่อคนโอหังกระชับร่างบอบบางมาแนบแผงอกผ่าวระอุมากยิ่งขึ้น แล้วจูบเอาๆ ราวกับอดอยากปากแห้งมาแรมปี ทั้งที่เพลย์บอยตัวเอ้อย่างเขาไม่เคยขาดแคลนอิสตรี แถมยังเรียกได้ว่าเซ็กส์จัดเสียด้วยซ้ำ หากแต่ในเวลานี้ร่างกายของเดเรคกลับกำลังตื่นตัวอย่างประหลาดล้ำ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่เขายังไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้มองหน้า จะทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่าได้มากถึงเพียงนี้ มันมากเสียจนเดเรคนึกอยากจะปล้ำสาวเจ้ากลางถนนโล่งๆ เสียให้มันรู้แล้วรู้รอด

เมื่อทนไม่ไหวเขาก็บดขยี้กลีบปากเจ่ออย่างหื่นหิว ขณะถือวิสาสะวาดมือใหญ่ไปขยำสะโพกอวบอั๋นอย่างเมามัน โดยไม่นำพาการขัดขืนจากอีกฝ่าย คนตัวเล็กพยายามรวบรวมกำลังระดมกำปั้นทุบเข้าที่ไหล่กว้าง บ้างก็ดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการแกร่ง ทว่าความช่ำชองของพ่อหนุ่มนักรักกลับทำให้เธอกลายเป็นคนมือไม้อ่อน ไม่นานจุมพิตร้อนแรงระคนดิบเถื่อนก็ทำเอาโลกทั้งใบของอารดาสะเทือนเลื่อนลั่น สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉับพลันสมองน้อยๆ ก็ขาวโพลนไปหมด ส่งผลให้เขาถือโอกาสช่วงชิงความหวานล้ำจากเรียวปากสีกุหลาบอย่างย่ามใจ

ทันใดนั้นก็มีเสียงวิ่งมุ่งตรงมาทางที่หนุ่มสาวทั้งคู่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ซึ่งผู้มาใหม่ก็ไม่ได้นึกเอะใจอะไร เพราะมองดูเผินๆ คล้ายกับคู่รักอยากเปลี่ยนบรรยากาศอะไรประมาณนั้น

“บัดซบเอ๊ย…มันหายไปไหนของมันวะ!” ชายหน้าเหี้ยมสบถลั่นด้วยความเดือดดาลสุดขีด เพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าของร่างทรงพลังที่กำลังจูบสาวอย่างดูดดื่มอยู่นั้นคือคนที่ตนกำลังไล่ล่า

“เจอไหมวะ?” คนที่เพิ่งวิ่งตามหลังมาถามไถ่ปนหอบหนักๆ เพราะความเหนื่อย

“ไม่เจอว่ะ” เสียงขุ่นสวนกลับอย่างหัวเสียสุดๆ ก่อนที่ชายฉกรรจ์อีกเกือบสิบชีวิตซึ่งมีอาวุธในมือครบครันจะตามมาสมทบ

“ให้ตายสิ…หนุ่มสาวสมัยนี้มันเล่นรักประเจิดประเจ้อแบบนี้เลยเหรอวะ” ทันทีที่เหลือบไปเห็นฉากจูบร้อนแรงของหนุ่มสาวหนึ่งในผู้มาใหม่ก็โพล่งขึ้น

“นั่นสิวะ เห็นแล้วอุจาดตาพิลึก”

“ช่างหัวมันเถอะน่า เรามาตามกุดหัวไอ้เดเรคนะโว้ย อย่าลืมสิ!” ชายหน้าเหี้ยมเตือนสติเพื่อนด้วยน้ำเสียงกระด้างติดจะดุดัน

“งั้นกลับไปดูทางนั้นกัน” ขาดคำทั้งหมดก็ตั้งท่าจะวิ่งย้อนกลับไปทางปากซอย

“เดี๋ยว!” เสียงที่โพล่งขึ้นทำให้ทุกคนต่างชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า

“อะไรของแกอีกวะ คนยิ่งรีบๆ อยู่” คนที่อาวุโสสุดชักสีหน้าใส่ลูกกระจ๊อกด้วยความหงุดหงิด

“ฉันว่าไอ้หมอนั่นมันดูคุ้นๆ ว่ะ” วาจาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบของชายร่างเตี้ยล่ำ ทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างหันไปมองบุรุษที่กำลังจูบสาวอย่างดูดดื่มเป็นตาเดียวกัน เดเรคตัวแข็งทื่อแต่ต้องพยายามบังคับให้บทจูบของเขาและเธอเป็นไปอย่างแนบเนียน เพราะครั้นจะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป