
บทนำ
อารดา วิสเลอร์ ทนายความสาวน้องใหม่ไฟแรง สาวเชยผู้มีบุคลิกขัดแย้งในตัวเองขั้นรุนแรง แทบ
ช็อกเมื่อได้รู้ว่าคู่หมั้นของตนคือคนที่เธอ ‘แอบรัก’ มาตั้งแต่วัยเยาว์ ทว่าถึงแม้จะมีใจให้เขาหน้าที่ย่อมมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว และถ้าเขาทำผิดจริงๆ เธอก็จะทำทุกวิถีทางให้เขาแพ้คดีความและไปรับโทษทัณฑ์ให้จงได้ ถึงแม้จะต้อง ‘เฉือนหัวใจ’ ตัวเองก็ตาม!
บท 1
เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
เวลาเที่ยงคืน…
‘ดาด้าลูกรัก ถือเสียว่านั่นเป็นประสงค์ของพระเจ้าก็แล้วกัน’ เพราะคำพูดกึ่งสอนสั่งของบิดาผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นยังคงดังก้องอยู่ในมโนสำนึกตลอดเวลา ทำให้อารดาพยายามคิดบวกกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากแต่เธอให้คำจำกัดความว่า ‘คราวซวย’ ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งในเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนเช่นนี้
อารดากลับจากงานเลี้ยงรุ่น ที่เพื่อนสมัยเรียนรวมตัวกันจัดขึ้น ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง เกือบจะได้กลับไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สร่างเมาอยู่แล้ว แต่รถคู่ใจดันมางอแงก่อนจะถึงปากซอยทางเข้าบ้านแค่สองร้อยเมตร หลังจากโทร.ไปเรียกช่างซ่อมเจ้าประจำ ซึ่งเปิดให้บริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมาลากรถไปเข้าอู่ เธอก็เดินตุปัดตุเป๋กลับบ้านในสภาพเมานิดๆ
“โอ๊ย…ม่ายน่าลองกินเหล้าเลยเรา ปวดหัวชะมัด ให้ตายสิ!” เสียงยานคางเล็กน้อยบ่นอุบกับตัวเอง ขณะยกมือขึ้นคลึงขมับอิ่ม เพื่อให้มันช่วยบรรเทาอาการมึนหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในกระแสเลือด
“อุ๊ย!” เดินเซเข้าซอยมาได้ไม่นานคนเมาก็หลุดอุทานออกมา เพราะสะดุดขาตัวเองจนเกือบล้มหัวคะมำ ก่อนจะย่อตัวลงถอดรองเท้าส้นสูงคู่สวยออกอย่างทุลักทุเล จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าพร้อมถือรองเท้าเอียงกะเท่เร่ซ้ายทีขวาที บ้างก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเกินเหตุ
“โอ้เหล้าจ๋า…หันมายิ้มหน่อยซิ ยิ้มซิ ยิ้มซิ ที่รักยิ้มนานๆ อย่าด่วนใจดำทำรำคาญ ฉันจะแต่งงานกับเธอใต้แสงจันทร์” นี่เป็นบทเพลงที่คุณยายซึ่งอยู่เมืองไทยชอบเปิดประชดเวลาที่คุณตากินเหล้าเมาหัวราน้ำ และเธอก็ยังจำได้ขึ้นใจตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก ถึงแม้ปัจจุบันอารดาจะไม่ได้ไปเยือนประเทศไทย เพราะญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ทางโน้นได้สิ้นบุญไปหมดแล้ว แต่เธอก็ยังติดนิสัยฟังเพลงไทยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
“เอิ๊ก…คิดได้ยังไงเนี่ยยัยดาด้า จะแต่งงานกับเหล้า แค่ลองแก้วเดียวก็เมาแอ๋หัวทิ่มหัวตำแล้ว ฮ่าๆๆ” แม่สาวที่เพิ่งริดื่มเหล้าเป็นครั้งแรกในชีวิตหัวเราะอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด
“ฮัลโหล…” หญิงสาวกรอกเสียงหวานติดจะอ้อแอ้ลงไปในสายทันควัน ครั้นไม่มีการตอบโต้จากผู้ที่โทร.มาอารดาก็ขมวดคิ้วมุ่น
“บ้าหรือเปล่าเนี่ย โทร.มาแล้วก็ไม่พูด” เจ้าของร่างอรชรบ่นอุบ พลางทำหน้ายุ่งเหยิง
“นี่คุณ จะพูดไหมคะ ถ้าไม่พูด ฉันจะวางสายแล้วนะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากเรียวปากสีชมพูระเรื่อชักจะเริ่มกระด้าง ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ จึงค่อยๆ เบนสายตาสีนิลมามองสิ่งที่เพิ่งลดลงจากใบหูน้อย
“เฮ้ย…นี่มันรองเท้านี่นา บ้าไปแล้วยัยดาด้า” ขณะที่สาวเจ้ากำลังบ่นให้ตัวเองอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็กรีดร้องรบกวนโสตประสาทอีกครา เธอจึงรวบรองเท้าไปถือไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเก๋อย่างทุกลักทุเล
“อารดาพูดค่ะ” หญิงสาวพยายามครองสติ แล้วกดรับสายทันที
“ดาด้า เธอถึงบ้านแล้วหรือยัง” เสียงแห่งความเป็นห่วงเป็นใยที่ดังแว่วมาตามสายทำให้อารดารู้ได้ทันที ว่าผู้ที่โทร.มาคือโคลอี้ เพื่อนสาวคนสนิทของเธอนั่นเอง
“เราเดินเข้าซอยมาแล้ว อีกแป๊บเดียวก็ถึง” อารดาตอบพลางก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางไม่มั่นคงนัก
“เราบอกว่าจะไปส่งเธอก็ไม่ยอม เห็นไหมล่ะดึกขนาดนี้ก็ยังไม่ถึงบ้านอีก” ผู้ที่โทร.มาเริ่มบ่นยืดยาว
“เราไม่เป็นไรหรอกน่า เธอไม่ต้องเป็นห่วง”
“โอเค กลับถึงบ้านแล้วโทร.หาเราด้วยนะ” ก่อนจะวางสายโคลอี้ยังไม่วายกำชับเสียงเข้ม ทำให้อารดาย่นจมูกใส่โทรศัพท์ เพราะขบขันแกมหมั่นไส้ที่อีกฝ่ายชอบทำตัวเป็นแม่แก่
“จ้า” เจ้าของร่างเพรียวระหงรับคำอย่างยิ้มๆ แล้วหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเช่นเดิม ไม่นานเสียงดังสนั่นก็แว่วขึ้นที่เบื้องหลังในระยะไม่ไกลมากนัก
ปังๆๆๆ…
“ใครมาจุดพลุในเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแบบนี้เนี่ย ถ้าเป็นลูกเป็นหลานแม่จะฟาดให้ก้นลายเลยเชียว” หญิงสาวขยับกลีบปากอวบอิ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง พลางขมวดคิ้วมุ่น
เขากำลังไล่ยิงกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แต่แม่คุณดันเข้าใจผิดคิดว่ามีคนจุดพลุเล่น วินาทีถัดมาเสียงเพลงไทยอันแสนคุ้นหูก็ดังขึ้น
พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ
“เออชะรอยจะเป็นเนื้อคู่ ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ…” แม่เจ้าประคุณร้องเพลงคลอเบาๆ พร้อมออกสเต็ปแดนซ์เซซ้ายเซขวา ทั้งที่ปกติเป็นคนค่อนข้างขี้อาย แต่เวลาสติไม่ครบถ้วนเช่นนี้อารดากลับบ้าสุดเหวี่ยง โดยไม่ได้นึกเอะใจเลยว่านั่นคือเสียงสายเรียกเข้าจากอีกหนึ่งซิมการ์ดที่บรรจุอยู่ภายในมือถือของตน
“เอ๊ะ…เมื่อกี้เสียงโทรศัพท์เรานี่นา ตายแล้วยัยดาด้า สวยแต่สติไม่เต็มเต็งได้อีกนะยะหล่อน” กว่าเธอจะนึกขึ้นได้เสียงเพลงก็เงียบไปเสียแล้ว อึดใจต่อมาอารดาก็หยุดกึกและย่นหว่างคิ้วโก่งเข้าหากัน
“เออ…ว่าแต่เมื่อกี้เราโทร.ไปหาใครนะ อุ๊ย…ไม่ใช่สิ ใครโทร.มาหาเราต่างหากละ แต่ก็ช่างประไร อยากคุยกับคนสวยก็ต้องขยันกดโทรศัพท์สิมันถึงจะถูก เพราะคนจะสวยช่วยไม่ได้” ท้ายประโยคคนที่มั่นใจว่าวันนี้ตัวเอง ‘สวย’ ยักไหล่เบาๆ พร้อมยิ้มร่า ทว่าสักพักก็ทำหน้ายุ่ง แล้วบ่นงึมงำ
“อืม…มึนหัวชะมัด” สาวเจ้าสะบัดศีรษะแรงๆ ก่อนที่สมองน้อยๆ ทว่าฉลาดเป็นกรดจะฉุกคิดขึ้นได้ “เออ…มีน้ำขวดเล็กๆ ที่โคลอี้ยัดใส่กระเป๋าให้เรานี่นา”
ขาดคำอารดาก็โน้มตัววางรองเท้าคู่สวยลงบนพื้นถนน แล้วล้วงขวดน้ำเปล่าออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะดื่มและล้างหน้ามันเสียตรงนั้น ความเย็นของน้ำทำให้เธอตาสว่างและหายมึนหัวไปได้มากเลยทีเดียว จากนั้นเจ้าของร่างแน่งน้อยก็ก้มลงเก็บรองเท้ามาถือไว้ในมืออีกครา
อึดใจต่อมาหูก็แว่วได้ยินเสียงฝีเท้าถี่ๆ มุ่งตรงมาทางนี้ ทันใดนั้นผู้ที่เพิ่งถอดเสื้อแจ็คเก็ตยัดลงถังขยะก็วิ่งมาชนเธอเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ร่างบอบบางเสียหลักพุ่งไปด้านหน้า
บทล่าสุด
#161 บทที่ 161 ตอนพิเศษ ก๊วนจอมวายร้ายตัวจิ๋ว (125%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#160 บทที่ 160 ตอนพิเศษ ก๊วนจอมวายร้ายตัวจิ๋ว (100%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#159 บทที่ 159 ตอนพิเศษ ก๊วนจอมวายร้ายตัวจิ๋ว (75%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#158 บทที่ 158 ตอนพิเศษ ก๊วนจอมวายร้ายตัวจิ๋ว (50%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#157 บทที่ 157 ตอนพิเศษ ก๊วนจอมวายร้ายตัวจิ๋ว (25%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#156 บทที่ 156 บทส่งท้าย เราจะไม่มีวันทิ้งกัน (200%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#155 บทที่ 155 บทส่งท้าย เราจะไม่มีวันทิ้งกัน (175%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#154 บทที่ 154 บทส่งท้าย เราจะไม่มีวันทิ้งกัน (150%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#153 บทที่ 153 บทส่งท้าย เราจะไม่มีวันทิ้งกัน (125%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025#152 บทที่ 152 บทส่งท้าย เราจะไม่มีวันทิ้งกัน (100%)
อัปเดตล่าสุด: 10/15/2025
คุณอาจชอบ 😍
หลังหย่า ฉันมีชีวิตที่รุ่งโรจน์
เป็นนิยายจีนแนวย้อนยุค มีองค์ประกอบของการแต่งงาน การหย่าร้าง และสงคราม มีการใช้ภาษาที่เป็นทางการตามยุคสมัย มีการอ้างถึงกิจกรรมโบราณของจีน และมีความขัดแย้งระหว่างตัวละคร
คำแปล
แต่งงานมาสามปี เย่หมิงลี่ไม่เคยแตะต้องนาง จนกระทั่งวันที่เขาเมาสุรา นางจึงได้รู้ว่าตนเป็นเพียงตัวแทนของใครบางคน
นางเอ่ย "ท่านอ๋อง ขอหย่าขาดกันเถิดเจ้าค่ะ"
เขาตอบ "เจ้าอย่าได้เสียใจภายหลัง"
เขาคิดว่านางจะต้องเสียใจที่จากไป แต่ใครเลยจะรู้ว่านางกลับใช้เวลาไปกับการเล่นโยนลูกธนู เล่นซ่อนตะขอ เล่นทายของในถ้วย เล่นชนไก่ ขี่ม้าตีลูกบอล จนถึงเลี้ยงจิ้งหรีด แต่ไม่เคยร่ำไห้อยู่ในห้องนางสักครั้ง
ในที่สุด เมื่อนางนำทัพออกรบ เขาก็รีบควบม้าตามไปยังสนามรบ แล้วดักรอนางที่กระโจม "ซางกวนซิน อย่าออกรบแทนบิดาเลย ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าเอง"
ภายใต้แสงเทียน หญิงสาวยิ้มอย่างเย้ยหยัน "ท่านอ๋องวางใจได้ วันที่หม่อมฉันควบม้าไปยังทะเลทรายอันกว้างใหญ่ หม่อมฉันจะเก็บร่างขององค์หญิงไว้ครบถ้วนเป็นศพเดียว"
ชายหนุ่มโกรธจัดด้วยความอับอาย ท่ามกลางแสงดาบเงาคม มีคมกระบี่พุ่งมาแยกชายผู้นั้นออก ซ่งเจว๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ท่านอ๋องโปรดสำรวมตน อาซินเป็นภรรยาของข้า"
คู่มนุษย์ของราชาหมาป่า
"ฉันรอเธอมานานเก้าปี นั่นเกือบจะเป็นทศวรรษที่ฉันรู้สึกว่างเปล่าภายในตัวเอง ส่วนหนึ่งของฉันเริ่มสงสัยว่าเธอไม่มีตัวตนหรือเธออาจจะตายไปแล้ว และแล้วฉันก็พบเธอ อยู่ในบ้านของฉันเอง"
เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบแก้มของฉัน ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั่ว
"ฉันใช้เวลามากพอแล้วโดยไม่มีเธอ และฉันจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากเราจากกัน ไม่ใช่หมาป่าตัวอื่น ไม่ใช่พ่อขี้เมาของฉันที่แทบจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ - และไม่ใช่แม้แต่เธอเอง"
คลาร์ก เบลเลอวิว ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเป็นมนุษย์คนเดียวในฝูงหมาป่า - จริงๆ เลยนะ เมื่อสิบแปดปีก่อน คลาร์กเกิดจากความสัมพันธ์ชั่วคราวระหว่างหนึ่งในอัลฟ่าที่ทรงพลังที่สุดในโลกกับผู้หญิงมนุษย์คนหนึ่ง แม้จะอาศัยอยู่กับพ่อและพี่น้องลูกครึ่งหมาป่าของเธอ คลาร์กก็ไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของโลกหมาป่าเลย แต่พอคลาร์กวางแผนจะทิ้งโลกหมาป่าไปตลอดกาล ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อพบคู่ชีวิตของเธอ: กริฟฟิน บาร์โดต์ อัลฟ่าคิงคนต่อไป กริฟฟินรอคอยมาหลายปีเพื่อพบคู่ชีวิตของเขา และเขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่สำคัญว่าคลาร์กจะพยายามหนีจากชะตากรรมของเธอหรือคู่ชีวิตของเธอไปไกลแค่ไหน - กริฟฟินตั้งใจจะรักษาเธอไว้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรหรือใครจะขวางทางเขาก็ตาม
หัวใจแปรผัน
เธอตัดสินใจหย่าร้าง แต่อเล็กซ์รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนดีกับเธอ ในขณะนั้น เซบขอเธอแต่งงาน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรล้ำค่ามาให้และพูดว่า "แต่งงานกับฉันเถอะ ได้โปรด"
ด้วยความที่ลุงของอดีตสามีของเธอไล่ตามเธออย่างจริงจัง ชารอนจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจ เธอจะตัดสินใจอย่างไร?
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
ก้าวสู่ความรัก: หัวหน้าหวานใจรักแรก
สิ่งที่หยุนเสี่ยงอยากทำมากที่สุดเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีต คือการห้ามตัวเองในวัย 17 ไม่ให้ตกหลุมรักเซี่ยจวินเฉินวัย 18 ปี
แต่เมื่อวิญญาณวัย 26 ปีของเธอได้เข้าสิงร่างของเด็กสาววัย 17 อีกคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หยุนเสี่ยงคาดไว้เลย
หม่อซิงเจ๋อ บอสในอนาคตของเธอ ดันมาอาศัยอยู่ในบ้านที่เธออยู่ตอนนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชีวิตการอยู่ร่วมชายคาที่วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น
หนึ่งปีต่อมา
อุบัติเหตุรถชนที่ไม่คาดคิด พาหยุนเสี่ยงกลับไปยังวัย 26 ปีของเธออีกครั้ง
เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันที่สวยงาม พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม
แต่ตั้งแต่เธอปรากฏตัวต่อหน้าหม่อซิงเจ๋ออีกครั้ง
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สำหรับเธอ มันเป็นเพียงเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับหม่อซิงเจ๋อ เธอคือคนที่เขาหมกมุ่นมาตลอดเก้าปี
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดจากโลกของเขาอีกครั้ง
หม่อซิงเจ๋อจับมือหยุนเสี่ยงที่กำลังจะเดินจากไป กัดฟันพูดอย่างเดือดดาล "หยุนเสี่ยง ฉันรอเธอมาเก้าปี แค่ให้เธอรออีกเก้านาทีมันยากนักเหรอ?"
น้ำตาของหยุนเสี่ยงไหลอาบแก้ม "ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว"
หม่อซิงเจ๋อโกรธจนแทบคลั่ง เขาทุ่มเททุกวิถีทางก็เพื่อกักเธอไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตเท่านั้น
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก