บทที่ 5 ปล้นจูบ (125%)
“เอ๊ะ…ผมบอกว่ามีก็มีสิ และคุณก็ต้องรอผม ไม่งั้นผมจะตามคุณไปถึงบ้านเลยเชียว” พ่อเจ้าประคุณแถไปเรื่อย เพราะยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าทำไมเขาจึงไม่อยากไปจากเธอในตอนนี้
“ชิ…คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงจะมาสั่งคนอย่างฉันได้” สาวแสบย่นจมูก และขมุบขมิบปากเข่นเขี้ยว ก่อนจะฉุนเฉียวหนักเมื่อเขาเอ่ยสำทับอีกครา
“ห้ามไปไหนนะ เพราะถ้าไม่รอ คุณจะไม่ได้รองเท้าสวยๆ คู่นี้คืน” เหตุที่หยิบยกเอารองเท้าขึ้นมาข่มขู่ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงทุกคนคงจะรักและบ้ารองเท้าไม่ต่างกัน
จากนั้นพ่อหนุ่มจอมโอหังที่ถือรองเท้าในมือก็กลับหลังหัน แล้วเรียกลูกน้องไปคุยถึงเรื่องของคนร้ายตรงริมถนน ซึ่งห่างจากจุดที่เธอยืนอยู่พอสมควร เดเรคไม่ลืมสั่งให้คนของตนไปจัดการลากคอไอ้ชาติชั่วที่คิดจะลูบคมเขามาสั่งสอนให้หลาบจำและรู้สำนึก ว่าอย่าบังอาจมาเล่นนอกกติกาแบบหมาหมู่กับคนอย่างเดเรค เบอร์ยาน็อฟสกี้ ตบท้ายด้วยการสั่งให้ลูกน้องไปรอที่หน้าปากซอย เพราะคิดว่าคนร้ายคงไม่หวนกลับมาอีกแล้ว
ฝ่ายอารดานั้นยอมกัดฟันสละรองเท้าคู่สวยที่เพิ่งซื้อมา แม้ว่ารู้สึกเสียดายเงินอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ไม่คิดจะรออย่างที่พ่อคนเผด็จการออกคำสั่ง เพราะสาวเชยแต่มีสมองไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิตอยู่แล้ว พอเขาหันไปให้ความสนใจกับลูกน้อง เธอก็จ้ำอ้าวเท่าที่สังขารจะอำนวย ด้วยเกรงว่าพ่อคนกวนประสาทจะตามมาราวีอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเธอเสียแล้ว
“เฮ้…จะรีบไปไหนล่ะยาหยี เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ” เดเรควิ่งตามร่างอ้อนแอ้นมาจนเกือบจะถึงท้ายซอยเลยทีเดียว ชายหนุ่มนึกแปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่จริงเขาควรจะไปจากเธอตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำ ทว่าหนุ่มเพลย์บอยตัวร้ายกลับอยากจะยื้อเวลาให้ได้อยู่กับอีกฝ่ายให้นานเท่านานอย่างน่าประหลาด
เมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ อารดาจึงกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน ก่อนจะจำใจหันขวับกลับมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น ดวงหน้าหวานใสหงิกงอเป็นม้าหมากรุก
“ดีใจมากเหรอที่ผมตามมา ถึงได้ทำหน้าแบบนั้น” พ่อคนหลงตัวเองเลิกคิ้วยวนยั่ว
“ฮึ่ม!” หญิงสาวทำเสียงคำรามกลั้วลำคอระหง ในใจก็ได้แต่พยายามนับหนึ่งให้ถึงสิบ ขณะกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดนูนเด่นที่บริเวณหลังมือเกลี้ยงเกลา
“มองผมตาเป็นมันแบบนั้น นึกอยากลอง ‘ส่วนอื่น’ ของผมขึ้นมาล่ะสิ” พ่อหนุ่มมาดกวนแสร้งโฉบริมฝีปากเซ็กซี่มาเฉียดพวงแก้มสุกปลั่ง พร้อมดึงเอาบางคำในบทสนทนาก่อนหน้านี้ขึ้นมากระเซ้า ก่อนจะหลุดหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายผงะด้วยท่าทางตื่นตระหนก จากนั้นเขาก็ถือวิสาสะยึดข้อมือเรียวเล็กทั้งคู่เอาไว้ในอุ้งมือใหญ่ข้างที่ว่างจากการถือรองเท้าส้นสูงสีแดงโดนใจ
“ปล่อย!” คนถูกกระทำเค้นเสียงแข็งออกคำสั่งพลางสะบัดมือเร่าๆ
“ไม่ปล่อย”
“ไอ้คนบ้า ไอ้คนกวนประสาท ไอ้ผู้ชายเฮงซวย คุณจะยั่วโมโหฉันเกินไปแล้วนะ!” เจ้าของน้ำเสียงขุ่นคลั่กระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหมดสิ้นความอดทน ปกติอารดาจะเป็นคนค่อนข้างสุขุมเยือกเย็น ที่สำคัญตั้งแต่เกิดยังไม่เคยด่าใครไฟแลบแบบนี้เลยสักครั้ง แต่เขากลับทำให้เธอฟิวส์ขาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเธอก็จะไม่ขอทนกับผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตาคนนี้อีกต่อไป!
“แน่ะ…พูดไม่เพราะอีกแล้ว”
“ฉันจะพูดซะอย่าง แล้วคุณจะทำไม” คนตัวเล็กลอยหน้าสวนกลับอย่างกวนๆ
“ผมไม่ทำไมหรอกทูนหัว ก็แค่เป็นห่วง ปากจัดแบบนี้…เลยกลัวว่าคุณจะหาผู้ชายมาสอยลงจากคานไม่ได้ เพราะเกิดคุณตกนรกแล้วยมบาลถามว่าทำไมถึงตายทั้งที่ยังเวอร์จิ้น ถ้าคุณควานหาคำตอบไม่เจอ เดี๋ยวจะถูกลงโทษด้วยการไม่ให้ไปผุดไปเกิด” เสียงกลั้วหัวเราะที่ดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้ดวงตาสีนิลแทบลุกเป็นไฟ
“ฉันทำดีมาทั้งชีวิต จะต้องได้ขึ้นสวรรค์ ไม่เหมือนกับคุณที่คงขยันทำเลวเป็นอาจิณ และ ‘คนเลว’ อย่างคุณตายไปจะต้องตกนรกเท่านั้น” ในตอนท้ายอารดาฟันธงอย่างเสร็จสรรพ
“อ้าว…คนเลวมันหน้าตาหล่อเหลาเอาการเหมือนผมเหรอทูนหัว งั้นตายไปสาวๆ ทั่วทั้งประเทศคงเสียดาย ‘ของดี’ และ ‘ลีลาเด็ด’ แย่” พ่อคนกวนประสาทยังคงลอยหน้าต่อปากต่อคำไม่เลิก ลมหายใจผ่าวระอุที่รินรดหน้าผากมนทำให้หญิงสาวไม่อาจทนนิ่งดูดายได้อีกต่อไป
“ไอ้คนหลงตัวเอง ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า หูหนวกหรือไงฮะ!” อารดาก่นด่าและดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากอุ้งมือใหญ่สุดฤทธิ์ประหนึ่งนางม้าพยศ
“โอเค…ปล่อยก็ปล่อย” อยู่ๆ เขาก็ยอมรามือจากเธออย่างง่ายดาย ส่งผลให้แม่สาวแสบทำหน้าเหวอ สัญชาตญาณร้องเตือนให้เธอคว้าสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นหลักยึด ทว่ามันกลับสายไปเสียแล้ว
“ว้าย!” เสียงหวานหลุดอุทานออกมา ชั่วพริบตาร่างแน่งน้อยก็เสียหลักหงายหลังล้มลงไปก้นกระแทกกับพื้นถนนแข็งๆ ก่อนจะสูดปากครางลั่นด้วยความเจ็บ
“อูย…สะโพกฉัน”
“ท่าสวยดีนี่” เดเรคลอยหน้าล้อเลียนอย่างนึกขัน ก่อนที่พ่อคนโอหังแต่กวนเข้าไส้จะไล่สายตาคมกริบลงไปพบกับสิ่งที่ทำให้เขาแสนอัศจรรย์ใจ…ความเซ็กซี่ร้ายกาจที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชุดราตรีสีพาสเทลนั่น โอ้…พระเจ้า! ไม่น่าเชื่อว่าแม่ผู้หญิงหน้าบ้านๆ นมแบนๆ คนนี้จะใส่จีสตริงสีแดง! ให้ตายสิ! มันเป็นสีที่เขาคลั่งไคล้มากซะด้วย
‘ถึงหน้าตาจะไม่เท่าไร แต่เนื้อในน่าลิ้มลองเป็นบ้า’ ความคิดของพ่อกระทิงเปลี่ยวเปลี่ยนไปทันที หลังจากที่ได้เห็นจีสตริงสีแดงชวนใจสะท้าน
“ไอ้คน…” เธอยังไม่ทันจะอ้าปากก่นด่าให้สาแก่ใจ จอมกะล่อนก็สวนขึ้นเสียก่อน
“ว้าว…ร้อนแรงหลบในซะด้วยแฮะ!” ชายหนุ่มอุทานลั่น นัยน์ตาสีเฮเซลจับจ้องที่เรือนกาย ‘ส่วนล่าง’ อันน่าดึงดูดใจของเธอไม่กะพริบ และนั่นก็ทำให้อารดาอดเบนสายตาตามไม่ได้
