บทที่ 8 ปล้นจูบ (200%)

“ยิ้มอยู่คนเดียวแบบนี้ แอบ ‘คิดลึก’ กับผมอยู่หรือเปล่าเนี่ยยาหยี” เสียงทุ้มนุ่มหูที่เอ่ยสัพยอกอย่างรื่นรมย์ชิดหน้าผากมน ทำให้อารดาตัวเกร็งและหน้าแดงซ่าน พร้อมกันนั้นสติของเธอก็กลับมาอีกครา

“บ้า!” คนโดนล้อค้อนจนตาคว่ำ แล้วก้มหน้างุด

จากนั้นมืออบอุ่นที่สัมผัสบริเวณฝ่าเท้าบอบบางอย่างอ่อนโยนระคนทะนุถนอมก็ทำให้อารดารู้สึกเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สุดท้ายก็เคลิ้มไป

“ถึงแม้จะปิดปลาสเตอร์ตอนแผลไม่สะอาด แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะเสี่ยงให้เชื้อโรคเข้าแผลเพิ่มมากขึ้น พอกลับถึงบ้านคุณก็รีบเอามันออก แล้วทำความสะอาดแผลให้ดีก็แล้วกัน อ้อ…และที่สำคัญอย่าลืมทายาด้วยละ” พอรู้ตัวอีกทีเขาก็ปิดปลาสเตอร์ลงที่แผลของเธอเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ…ขอบคุณนะ” อารดาช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกล่าวออกมาอย่างเก้อเขิน ก่อนจะพยุงกายลุกขึ้น ส่วนเขาก็ผุดลุกยืนเต็มความสูง โดยไม่ลืมเกี่ยวรองเท้าสีแดงติดมือขึ้นมาด้วย

“ความจริงแล้วเท้าคุณก็บวมอยู่เหมือนกัน แต่ผมว่าคุณทนใส่รองเท้าไปให้ถึงบ้านก็ดีนะ แผลจะได้ไม่อักเสบเพราะฝืนเดินเท้าเปล่า เอ๊ะ…หรือว่าจะให้ผมอุ้มไปส่งที่บ้าน แต่ผมคิดค่าบริการแพงหน่อยนะยาหยี มันอาจจะเป็นจูบ หรือไม่ก็…” เธอเกือบจะเคลิ้มไปกับความน่ารักและมีน้ำใจของเขาจนตลอดรอดฝั่งอยู่แล้ว ถ้าในตอนท้ายพ่อเจ้าประคุณไม่วายปากเสียชวนหน้ามืดขึ้นมาอีกครา

“พอๆๆ หยุดพล่าม แล้วส่งรองเท้ามาให้ฉันเสียที ถ้าคุณอยากให้ฉันใส่มันกลับบ้านอย่างที่พูดจริงๆ” หญิงสาวพยายามสะกดโทสะอย่างสุดความสามารถ แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าเรียบนิ่ง

ตอนแรกเธอคิดว่าจะไม่สนใจไยดีรองเท้าแล้ว แต่ในเวลานี้อารดากลับต้องการมันมากเหลือเกิน นั่นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้เท้าสวยๆ มีรอยราคีมากไปกว่านี้ เธอเป็นห่วงตัวเองหรอกนะ ไม่ใช่เพราะคำพูด ‘เหมือนจะ’ ดูดีแต่สอดไส้ความร้ายกาจของเขา

“โอเค ก็ไม่อยากได้สักหน่อย เพราะผมไม่นิยมใส่รองเท้าผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าช่วยถอดก่อนจะขึ้นเตียงทำกิจกรรมเข้าจังหวะก็ว่าไปอย่าง” เขาพูดพลางยื่นรองเท้าให้

“ฉันคงไม่จำเป็นต้อง ‘ขอบคุณ’ หรอกมั้ง” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงขึ้นจมูก ขณะยื่นมือไปกระชากรองเท้าจากเขาอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำเพียงยักไหล่เบาๆ

“ไม่เป็นไร เพราะผมก็พอจะเข้าใจว่า ‘เด็ก’ สมัยนี้มักจะไม่ค่อยมีมารยาท” ถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากพ่อหนุ่มร่างยักษ์ทำให้คนฟังถึงกับหน้าม้าน

“ฉันไม่ใช่เด็ก!” คราวนี้อารดาแผดเสียงเถียงคอเป็นเอ็น เรียกรอยยิ้มขบขันให้ผุดพรายขึ้นที่มุมปากหยัก เดเรคไม่นึกเลยว่าแม่สาว ‘หน่อมแน้ม’ จะร้ายใช่เล่น ดูเหมือนเขาจะประเมินเธอต่ำไปหลายอย่างเลยทีเดียว

“แต่พฤติกรรมของคุณมันบ่งบอกว่ายังเด็ก” พ่อตัวโตพยายามไล่ต้อนให้อารดาจนมุม ยิ่งเห็นเธอออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงเขาก็ยิ่งนึกคึกคะนองเป็นเท่าทวี

“เอ๊ะ…คุณนี่มันยังไงนะ กวนประสาทฉันอยู่ได้” คนที่ถูกกล่าวหาว่า ‘ยังเด็ก’ ชักสีหน้า พร้อมยกมือขึ้นเท้าสะเอว แล้วหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้ระบบควบคุมตัวเองของเธอพังยับเยินจนไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว

“เด็กหนอเด็ก เถียงไม่สู้ก็โวยวายซะงั้น” เดเรคว่าอย่างยิ้มๆ แต่กระนั้นก็ยังทำให้อารดากำหมัดตัวสั่นเทิ้ม นึกอยากจะซัดไอ้ผู้ชาย ‘เฮงซวย’ ให้เลือดกลบปากนัก

“สรุปคือ คุณจะยืนลอยหน้ายียวนฉันอยู่แบบนี้ทั้งคืนใช่ไหม” หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างข่มกลั้นอารมณ์เต็มอัตรา หญิงสาวก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าประกายตากลับวาวโรจน์ บ่งบอกให้รู้ว่าเธอพร้อมจะกระโจนเข้าเล่นงานเขาทุกขณะจิต

“แล้วคุณว่าไงล่ะ” คำถามที่ฟังดูใสซื่อราวกับไม่ได้ตั้งใจกวนโมโหนั้น ทำเอาอารดาถึงกับกัดฟันกรอดและหน้ามืดไปวูบหนึ่ง ก่อนจะพยายามอดทนอดกลั้นอย่างสุดความสามารถ

“ฉันไม่พิสมัยการต่อปากต่อคำกับคนกวนประสาทอย่างคุณ ฉะนั้นทางใครทางมัน โอเค?” ท้ายประโยคเจ้าของใบหน้าเรียบตึงจงใจขึ้นเสียงสูง พลางเชิดหน้าคอแข็ง

“โอเค…ผมไปก่อนนะเด็กน้อย ใจจริงก็อยากจะไปส่งให้ถึงประตูบ้านอยู่หรอก แต่วันนี้มันดึกมากแล้ว แถมผมมีนัดกับสาวสวยเซ็กซี่ซะด้วยสิ อ้อ…ลืมบอกไปอีกอย่าง ปากคุณหวานเป็นบ้า ว่างๆ ผมจะหาเวลาแวะมาจูบใหม่ก็แล้วกันนะ” ท้ายประโยคพ่อหนุ่มขี้เล่นจับจ้องกลีบปากอิ่มที่เขารู้ดีว่าหวานล้ำมากเพียงใด พร้อมหลิ่วตาหว่านเสน่ห์ให้ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ายิ้มเผล่จากไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนอ้าปากค้าง

“ไอ้คนทุเรศ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้จอมฉกฉวย ไอ้คนหล่อจอมชีกอ ไปตายซะ!” ครั้นได้สติอารดาก็แผดเสียงด่าทอไล่หลังอย่างคับข้องใจเหลือคณา ก่อนจะยกหลังมือเกลี้ยงเกลาขึ้นถูไถริมฝีปากอวบอิ่มที่โดนเรียวปากร้ายกาจประทับตีตราแรงๆ จนแสบร้อนไปหมด

“ฮึ่ย…ฉันจะถือว่านี่เป็นประสงค์ของพระเจ้าก็แล้วกัน” หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เจ้าของใบหน้างอง้ำก็พยายามคิดบวก เพื่อให้ตัวเองไม่สติแตกมากไปกว่านั้น หากแต่ยังไม่วายก้มลงสวมรองเท้าด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดก่อนจะเดินโขยกเขยกกลับบ้านที่อยู่สุดซอย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป