บทที่ 13 คนเยอะเมืองยุ่ง
ตลาดในเมืองซินเซียง
จางหย่งเก็บซ่อนจดหมายลับที่ได้มาจากสำนักแม่สื่อไว้กับอก เขารีบเร่งที่จะกลับวังในทันที ความคืบหน้าเรื่องความสัมพันธ์ของพระชายารองกับฮองเฮา อาจจะคลี่คลายด้วยจดหมายฉบับนี้ ไม่มากก็น้อย
"ช่วยด้วย ช่วยกันจับโจรเร็ว!!!"
เมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ เขาก็รีบรุดไปในทันที
"ปล่อยข้าเถอะ ข้าไม่ใช่ขโมย" เด็กหนุ่มที่นอนหงายอยู่บนพื้นถนน วิงวอนขอร้องต่อเจ้าของกระบี่เงาวับ
"ช้าก่อนๆ อย่าทำเขา" สตรีนางหนึ่งวิ่งแหวกฝูงชนเข้ามาหน้าตาตื่น นางใช้มือปัดปลายกระบี่ออกจากคน ทำให้บาดเฉือนปลายนิ้วนางจนเลือดออก
"แม่นาง เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่"
จางหย่งรีบเก็บกระบี่ก่อนจะนั่งคุกเข่าดูบาดแผลที่มือนาง คนร้ายได้ทีลุกวิ่งหนีไป จางหย่งจะไล่ตามแต่นางกลับดึงรั้งกอดขาเขาไว้
"ปล่อยเขาไปเถิด"
"ท่านหมอ ท่านเป็นผู้เสียหายนะ ทำไมไม่ให้ใต้เท้าผู้นี้จัดการเขาและนำของมาคืนท่าน" ชาวบ้านนางหนึ่งเอ่ยถามกับหมอหญิงที่กำลังกอดขาองครักษ์หนุ่ม รั้งไม่ให้ติดตามผู้ร้ายไป
"แค่สมุนไพรไม่กี่ต้น อย่าตามเอาผิดเขาเลย คนที่จะมาขโมยสมุนไพรก็คงจะทำไปเพื่อคนป่วย หากเขาถูกจับไป ใครจะดูแลคนป่วยเล่า"
ชาวบ้านได้ฟังเหตุผลของหมอหญิงก็เข้าใจในเจตนาดีของนาง ต่างยกย่องหมอ สมแล้วที่เป็นหมอเลื่องชื่อของเมือง
"ท่านหมอลู่หนิงอัน น้ำใจท่านช่างประเสริฐนัก สมแล้วที่เป็นหมอเทวดา"
"อย่าถึงกระนั้นเลย ข้ามีคู่ควรกับคำนั้นหรอก"
"หมอลู่ช่างถ่อมตน ทั่วทั้งเมืองนี้จะมีผู้ใดเก่งไปกว่าท่านได้อีก"
"มีสิ ศิษย์พี่ข้าไง" หนิงอันยกยิ้มแต่นัยน์ตาดูเศร้า เมื่อนึกถึงศิษย์พี่ของตน แต่ก็ต้องหลุดออกจากห้วงของความคิด เมื่อจางหย่งแกะมือนางออกจากขาเขา แล้วประคองให้ลุกยืน
"ยังเจ็บอยู่ไหม ข้าจะพาท่านไปหาหมอ"
"ก็ข้านี่ไง หมอ"
จางหย่งเลิ่กลั่ก ด้วยลืมนึก
"อ้อ จริงด้วย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นความผิดข้าอยู่ดี ให้ข้าไปส่งท่านนะ"
ลู่หนิงอันพยักหน้ารับ ด้วยเข้าใจดีว่าเขาคงไม่สบายใจ หากไม่ได้ทำอะไรให้นางเลย นางจึงเปิดโอกาสให้เขาได้ไถ่โทษตามที่ร้องขอ
องครักษ์หนุ่มเดินเคียงข้างคอยดูแลนางไม่ห่างกาย เช่นเดียวกับสายตาเขาที่จ้องนางไม่ห่างตาช่วงเวลานี้ เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ต้องนำเบาะแสที่ได้ เร่งเข้ารายงานต่อท่านอ๋องสาม
..........
"ตรงนั้นเขามุงดูอะไรกัน เราไปดูดีไหม"
"อย่าดีกว่าท่านแม่ เดี๋ยวชุดข้าก็เปื้อนเหงื่อไคลพวกชาวบ้านกันพอดี"
เลี่ยงหรูและเฟยเจิน แต่งเติมความงามและหรูหรามาเต็มพิกัด เครื่องประดับวับวาวทั้งผ้าไหมเนื้อละเอียด ทรงเครื่องเดินตลาดจนใครๆ ก็ต้องเหลียวมอง ซึ่งเครื่องประดับและแพรพรรณที่สวมใส่อยู่นี้ก็ล้วนเป็นของกำนัล ที่อ๋องสามนำมามอบให้ในวันนั้น
พวกนางมุ่งหน้าไปยัง 'เจียฟางโหลว' โรงเตี๊ยม 9 ดินแดน ที่ดีที่สุดในแว่นแคว้นนี้ ที่นั่นจะมีลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางไปจนระดับสูง และมีห้องพิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญซึ่งต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น เมื่อคิดจะจับปลาใหญ่ก็ต้องลงทุนมากหน่อย
"ท่านแม่ ข้างามหรือยัง"
"เจินเอ๋อร์ เจ้างามเหนือสตรีใดในแผ่นดินแล้ว พร้อมหรือไม่?"
"พร้อมเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นไปกันเลย ช้าก่อน!"
"มีอันใดอีกหรือท่านแม่"
"เจินเอ๋อร์ ตรงนั้นมีสีชาดมาใหม่ แวะสักหน่อยเถอะ ไม่เสียเวลามาก เจียฟางโหลวไม่หนีไปไหนหรอก" เลี่ยงหรูดึงชวนลูกสาวคนงาม แต่เหมือนว่า สายตานางจะติดสะดุดอยู่ที่ใครบางคน
"ท่านแม่ ท่านไปเถอะ ข้าว่าอากาศตรงนี้ดี รอตรงนี้ดีกว่า"
เฟยเจินยกยิ้มดังมีแผนการ นางเดินข้ามไปยังร้านเครื่องประดับที่ฝั่งตรงข้าม
คนขายก็เอ่ยทักทายต้อนรับนางเป็นอย่างดี นางจึงชี้ไปที่ปิ่นเงินชิ้นหนึ่ง แต่สายตากลับจับจ้องมองไปยังบุรุษวัยกลางคนผู้หล่อเหลาทรงสง่า ที่นั่งคิดบัญชีอยู่โต๊ะถัดไป
"โอ๊ย! งานหยาบเช่นนี้ เอาออกมาขายได้อย่างไร ดูสิ บาดมือข้าแล้ว" เฟยเจินโวยวายเรียกร้องความสนใจ และนางก็ทำมันได้สำเร็จ
เถ้าแก่ฉีรีบตรงรี่เข้ามาในทันที เขาดันลูกน้องที่กำลังขอโทษขอโพยลูกค้าให้ออกห่าง เพื่อเขาจะได้แก้สถานการณ์ได้สะดวก
"คนของข้าทำงานสะเพร่า ต้องขออภัยแม่นางด้วย"
"ฮึ พี่ชาย ข้าเจ็บเหลือเกิน ดูสิ เป็นเช่นนี้แล้วท่านจะรับผิดชอบข้าอย่างไร" น้ำเสียงออดอ้อน สายตาวิงวอนของแม่เสือน้อยฝึกหัด ฉายชัดถึงความนัย บุรุษงามที่ผ่านโลกมากว่าครึ่งชีวิต มีหรือจะไม่เข้าใจนกกระจอกเช่น
นาง
"พี่ชายหรือ อายุข้าเป็นพ่อเจ้าได้เลยนะ" สายตาฉ่ำวาวทรงเสน่ห์ของเขา โปรยคืนกลับมา ทำให้นางนั้นแทบละลาย
"แต่ข้ามีพ่ออยู่แล้ว ข้าไม่ได้อยากเป็นลูกท่านเสียหน่อย"
"อืม ไหนข้าดูมือเจ้าสิ"
เฟยเจินวาดมือกรีดกราย ยื่นออกไปให้แก่เขา อันวิชาใดที่นางร่ำเรียนมาจากมารดา วันนี้ นางจะงัดมันออกมาใช้ให้หมด เนื้อรออยู่เบื้องหน้าเช่นนี้ จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร
เพียงมือหนาลูบไล้มือน้อยอย่างแผ่วเบา จิตใจสาวก็วูบหวิวด้วยไม่เคยถูกสัมผัสจากชายใด เฟยเจินหักใจ ค่อยๆ ถอนมือออกด้วยรักษากิริยา มิใช่ไม่อยากต่อสานความรู้สึก และดูเหมือนว่าการทำเช่นนี้ มันจะได้ผล
"เจ้าอยากให้ข้าชดใช้ด้วยเงิน หรือว่า...มีสิ่งอื่นที่อยากได้" สายตากรุ้มกริ่มหวานอ้อน ดังเชื้อเชิญแม่เสือสาวให้เข้ามากัดกิน แต่เสือฝึกหัดเช่นนางกลับตื่นเต้นประหม่า จนแทบอยากสลายร่างหายไปในเวลานี้ นางทำใจดีเข้าสู้ ตอบโต้สายตารุกของเขา
"ส่งเครื่องประดับที่คิดว่าเหมาะกับข้าสักชิ้น มาให้ข้าที่จวนก็พอ"
เฟยเจินวางถุงหอมที่มีชื่อปักของตนไว้ให้เขาแล้วเดินจากไป เถ้าแก่ฉีหยิบถุงหอมใบนั้นขึ้นมา แล้วใช้หัวแม่มือลูบตรงรอยปักตัวอักษรเบาๆ
"เฉิน เฟย เจิน เจ้าไม่รู้หรือ ว่าไฟมันร้อน!"
