บทที่ 21 ฝันว่าเป็นปลา
"พี่รอง นั่น! ท่านไปสู้กับสุนัขที่ใดมา ไยสภาพจึงเป็นเช่นนี้" ซั่วหยางรีบประคองพี่ชายให้นั่ง ก่อนจะรินน้ำชาให้ดื่ม
"ก็ที่ตำหนักเจ้านี่แหละ"
"หือ? สุนัขตำหนักข้าหรือ?" ซั่วหยางย่นคิ้วมุ่ยครุ่นคิด พลางนึกได้ว่าตรงทางเดินเล็กที่องค์ชายรองใช้สัญจรเข้าออกในตำหนักนี้ เป็นพื้นที่ที่เขาอนุญาตให้ซีเวยปลูกผัก
"อ้อ นึกออกแล้ว ท่านคงเจอนางแล้วสินะ" ร่างใหญ่ยกยิ้มดังว่าอยากอวดภรรยา
"อืม ตำหนักเจ้าดูครึกครื้นขึ้นมากนะ"
"ท่านก็แต่งชายาสักคนสิ จะได้ครึกครื้นเช่นนี้บ้าง"
"ไม่ล่ะ ข้าไม่อยากวุ่นวายกับทางโลก มีเพียงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ข้าก็มีความสุขมากแล้ว" องค์ชายรองหลับตาพนมมือเมื่อได้เอ่ยถึงพระธรรมที่เขาคลั่งไคล้
"แล้วท่านมีเรื่องอันใด ถึงได้มาหาข้าถึงที่นี่"
"เรื่องงานของข้านั่นแหละ อยากจะขอไหว้วานให้เจ้าช่วยส่งคนไปจัดการให้ที ข้าต้องเข้าปฏิบัติปิดวาจาเป็นเวลา 7 วัน จึงอาจจะทำให้การส่งคนล่าช้า เจ้าจะว่าอย่างไร พอจะช่วยข้าได้หรือไม่" องค์ชายรองยื่นหนังสือรายชื่อที่นำมาด้วยให้กับซั่วหยาง
"ให้รับคนตามรายชื่อนี้ ส่งไปโซ่วโจว อย่างนั้นหรือ ได้สิ ไม่มีปัญหา"
"ดีจริง ขอบใจมาก เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"
"เอ่อ พี่รอง ข้ามีเรื่องอยากจะถาม"
"อันใดหรือ?"
"คนที่ถูกส่งไปโซ่วโจว สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้หรือไม่"
"เป็นธรรมเนียมที่ทำกันมาหลายปี คำสั่งของฝ่าบาท ไม่อาจขัดขืนได้ ไม่เช่นนั้นครอบครัวของผู้ถูกเลือกจะต้องโทษฐานกระด้างกระเดื่อง"
"อ้อ เป็นเช่นนั้นหรือ"
เมื่อซั่วหยางได้ฟังคำตอบจากพี่ชาย ก็เหมือนกับว่าทางสว่างที่จะแบ่งเบาปัญหาหนักใจของพระชายาเขา วูบหายไปเกือบครึ่ง แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องหาทาง ช่วยจัดการปัญหาเรื่องนี้ของนางให้สำเร็จจงได้ แม้เมื่อก่อนจะอยู่ลำพังได้มาโดยตลอด แต่หากเรื่องนี้มาพรากนางไป เขาแล้วละก็ เขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า จะใช้ชีวิตในวันต่อไปเช่นไร
..........
ละอองไอน้ำร้อนลอยคลุ้งจนกระจกใสเป็นรอยฝ้า กลิ่นกลีบดอกไม้หอมที่ถูกโปรยลงไปในอ่างน้ำอาบ ระคนปนกับกลิ่นละมุนของน้ำนม จรุงจิตให้ผู้สูดกลิ่นผ่อนคลาย แต่ไม่ใช่กับคนที่แช่ตัวอยู่ในตอนนี้เป็นแน่
"โอ๊ย! โอ๊ะๆๆ เบาๆ หน่อย ข้าเจ็บนะ"
ซีเวยโอดครวญเมื่อถูกขัดถูตามเนื้อตัว รู้สึกเหมือนดังว่าเนื้อหนังกำลังจะหลุดออกจากกระดูก
"คนดื้อก็ต้องเจอแบบนี้แหละเพคะ อาจิ้ง เอาเกลือมาเพิ่มอีก"
หลี่หมัวมัวละลายเกลือชะโลมผิวแช่ตัวไว้ เกล็ดเกลือแม้จะช่วยชะล้างทำความสะอาดได้ดี แต่ก็ทำให้ระคายเคืองแสบผิวเช่นกัน
"ฮือๆๆ แสบๆๆ อย่าเพิ่งถูได้หรือไม่ แช่ไว้ก่อน นะๆ ให้เกลือละลายก่อน ข้าสัญญาว่าจะไม่ไปไหน จะแช่ตัวนิ่งๆ ดีๆ นะๆๆ" ซีเวยทำเสียงออดอ้อนวิงวอน สีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้
"ก็ได้เพคะ พวกเราก็จะไปล้างตัวกันก่อน เดี๋ยวจะกลับมาใหม่ ห้ามพระชายาออกไปเพ่นพ่านที่ไหน หากยังทรงดื้อดึงไม่ฟังกัน หม่อมฉันกลับอาจิ้นและอาจู จะไม่เล่นเป็นเพื่อนพระชายาอีก"
"ได้ๆ ข้าให้สัญญา"
เมื่อตกลงกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ซีเวยก็ถึงกับถอนหายใจยาว โล่งใจที่จะได้พักเหนื่อยสักครู่
การปลูกผักวันนี้ สนุกและเหนื่อยไปพร้อมกัน ช่วงเวลาดีๆ ที่ขาดหาย ดูเหมือนว่าจะถูกทดแทนด้วยการมาอยู่ที่นี่
น้ำในอ่างอุ่นสบาย ซ้ำกลิ่นหอมอ่อนก็ยังช่วยให้ผ่อนคลาย ร่างบางจึงเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
"ซีเวย ข้าเข้าไปได้หรือไม่"
ไร้เสียงสะท้อนใดตอบกลับมา ซั่วหยางที่ยืนรออยู่หน้าประตู จึงถือวิสาสะเข้าไปในห้องนั้นโดยที่ไม่ต้องรอให้มีใครอนุญาต
ภายในห้องเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงอะไร พลางให้นึกเอะใจว่านางคงไม่อยู่ จึงคิดที่จะเดินจากไป แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นหากจะผิด ก็คงผิดที่จมูกของเขาเอง ที่ยอมให้กลิ่นละมุนหอมอ่อนนั้นชักจูงไปโดยง่าย เขาเดินตามกลิ่นนั้นไปจึงรู้ได้ว่านางกำลังอาบน้ำอยู่
"อ๊ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ไว้...ข้าจะมาใหม่นะ" ซั่วหยางยืนนิ่งเลิ่กลั่ก ด้วยไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี แต่ช่วงเวลาเพียงวูบเท่านั้น ก็ยังทำให้เขาสังเกตได้ว่า มีบางอย่างผิดปกติ ไม่มีเสียงขานรับใดๆ เขาจึงลองเรียกนางอีกทีเพื่อความมั่นใจ
"ซีเวย!"
ความเงียบทำให้เขารนร้อน ซั่วหยางจึงถือวิสาสะบุกเข้ามาในห้องอาบน้ำ และทันใดนั้นเอง ร่างที่นอนนิ่งในอ่าง กำลังจะไหลจมลงไปในน้ำ ซั่วหยางรีบร้อนที่จะเข้าไปประคองหัวน้อยๆ ของนางให้ตั้งตรงอยู่ต่อ แต่ด้วยความรีบร้อน ทำให้เขาถลาพลาด กระโจนตัวลงไปอยู่ในอ่างด้วยกันกับนาง
"ตู้ม!"
แรงกระเพื่อมของน้ำในอ่างค่อยไปลดระดับความแรงจนแทบนิ่งสนิท บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง แต่ทว่า...ใต้น้ำนั้น...!?
'เกิดอะไรขึ้นกับข้า ทำไมรู้สึกเหมือนกับว่าหายใจในน้ำได้เล่า นี่ข้ากำลังฝันว่าข้าเป็นปลาอยู่หรือ'
คนนอนใช้สติพยายามแยกแยะระหว่างความจริงกับความฝัน เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะขาดใจ ก็เผยอปากดูดดึงลมอุ่นเข้าสู่ปอด แต่แล้วก็ต้องมารู้สึกตัวว่า ลมอุ่นที่นางดูดฉวยเอามายึดครองนั้น กำลังถูกดูดชิงกลับคืน
