บทที่ 4 หน้าที่สามีภรรยา

"เปิดประตู!"

เสียงออกคำสั่งที่หน้าประตู ทำให้ซีเวยต้องรีบเช็ดปาดคราบน้ำตาออกจากใบหน้า นางกลับขึ้นมานอนระเกะระกะบนเตียง แสร้งสลบเมามายเช่นดังก่อนหน้า เจ้าบ่าวชุดแดงร่างใหญ่เดินมาหยุดยืนที่ข้างเตียง พร้อมกับหัวใจของนางที่หยุดเต้นเช่นกัน ยิ่งเขายืนนิ่งนาน ตัวนางก็พลันประหม่าจนไม่กล้าหายใจ

"นั่นใคร เจินเอ๋อร์หรือ ข้าไม่มีขนมแบ่งให้เจ้าแล้ว อย่าตีข้านะ ไว้ท่านพ่อกลับมาข้าจะขอกับท่านพ่อให้เจ้า อย่าตีข้านะ" ร่างบางหลับตาพึมพำดังคนละเมอ

"เฮ้อ! เจ้ามันก็คิดถึงแต่เรื่องกิน จะโดนคนพาลตีตายเพราะของกินเข้าสักวัน"

น้ำเสียงที่ได้ยินดูคุ้นหูยิ่งนัก ซีเวยจึงดีดตัวขึ้นมาจากเตียง เพื่อเปิดเปลือกตามองดูหน้าของผู้มาเยือนให้แน่ใจ

"หือ ทำไมเป็นท่านล่ะ ท่านองครักษ์ ท่านสวมชุดแดงเช่นนี้ ท่านก็จะแต่งงานเช่นกันหรือ"

"ใช่ ข้ากำลังจะแต่งงาน"

"อ้อ อย่างนี้นี่เอง งั้นข้า...ข้ายินดีกับท่านด้วย สตรีใดกันนะช่างโชคดียิ่งนัก"

"เจ้าไง"

"หา! ไม่ได้นะ ข้าต้องแต่งกับท่านอ๋อง จะให้แต่งกับท่านได้อย่างไร" หญิงสาวโบกมือส่ายหน้าแรงหัวแทบคะมำ จนเขาต้องใช้สองมือประคองช่วยหยุด

"ข้านี่แหละ อ๋องสาม อู๋ซั่วหยาง สวามีของเจ้า"

ซีเวยนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ เมื่อลองคิดทบทวนไตร่ตรองดู ก็เห็นได้ว่ามีความเป็นไปได้มากถึงเก้าในสิบส่วน ตั้งแต่เมื่อแรกที่เจอ เขาก็บุกชิดจับมือถือแขน ซึ่งผิดวิสัยของทหารหลวงที่เคร่งทำเนียม อีกทั้งกิริยาวางท่าโอ้อวด ไร้ความหวั่นเกรงใดๆ แม้เขาจะดูมีคุณธรรมอยู่บ้าง แต่แววตาแพรวพราวของเขาตอนนี้ ก็ยังดูไม่น่าไว้วางใจ

"พระชายา ยังรู้สึกวิงเวียนอยู่ไหม" ซั่วหยางเอ่ยถามด้วยเห็นสภาพเหยือกสุรามงคลที่ล้มกลิ้งไปกับพื้น และจอกสุราที่ยังติดคาอยู่ในมือนาง ชี้ชัดว่านางกำลังเมา

"อืม" หญิงสาวทำตาปรือพยักหน้ารับ

"แล้วเจ้ารู้หรือไม่ ชายหญิงแต่งงานกันแล้วต้องทำสิ่งใด" ดวงตานางเบิกกว้าง แต่พยายามเก็บอาการ หัวใจเต้นสั่นระรัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

ซีเวยพยายามระดมความคิดในขณะที่จิตใจกระเจิดกระเจิงด้วยความระหวั่นพรั่นวิตก นางคิดเพียงจะจัดการกับเขาเช่นดังตอนที่นางจัดการกับเลี่ยงรุ่ย น้าชายของเฟยเจิน ที่เคยเข้ามาตีติดหมายจะรังแกนาง

"ว่าอย่างไร เจ้ารู้หน้าที่ของสามีภรรยาหรือไม่ ที่บ้านเจ้าสั่งสอนมาแค่ไหนกัน"

ซั่วหยางถามซ้ำดังมีความนัย ซีเวยแสร้งใช้นิ้วถ่างตาเพื่อมองดูสีหน้าท่าทางของเขาอีกครั้ง

อันว่าการรบต้องรู้เขารู้เราจึงจะเป็นหนทางแห่งการมีชัย สายตาของซั่วหยาง มิได้มองนางอย่างเสน่หา แต่กลับจ้องเค้นคล้ายดังกำลังสอบสวนนักโทษ

"สามีภรรยา ก็คือคนคนเดียวกัน กินขนมด้วยกัน เล่นว่าว ตกปลา ใช้เวลาร่วมกัน ที่สำคัญ ต้องรู้จักเห็นอกเห็นใจ รับฟังแบ่งปันเรื่องราวของกันและกัน"

"แล้วอย่างไรต่อ"

"ไม่มีแล้ว ข้าท่องมาแค่นี้"

"เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ เป็นภรรยาก็ต้องมีบุตร สตรีจะมีบุตรได้ก็ต้องนอนร่วมเตียงกับบุรุษ เจ้าเต็มใจหรือไม่"

'เจ้าอ๋องบ้า กำลังทดสอบข้าชัดๆ หากข้าปฏิเสธ ก็จะถูกจับได้ว่าแกล้งเสียจริต ไม่ได้ ข้าจะมาพังเพราะเรื่องแค่นี้มิได้เด็ดขาด'

"ได้สิ เดิมที นี่ก็เป็นเตียงนอนของท่าน เราสองคนแบ่งพื้นที่กันนอน ก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว มาสิ มานอนข้างๆ ข้า" ซีเวยเอ่ยชวนเขาด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ แสร้งแสดงใจกล้าท้าทาย

'ไม่เกรงบุรุษจริงๆ ด้วย ฮองเฮาร้ายกาจจริงๆ ฝึกใช้ได้แม้กระทั่งคนสติไม่ดี'

ซั่วหยางประมวลผล แอบสรุปภายในใจ เขามั่นใจมากว่า ภายใต้หน้ากากงดงามใสซื่อนี้ ต้องมีสิ่งชั่วร้ายแอบแฝงอยู่เป็นแน่ แต่ถึงกระนั้นก็อยากจะลองดูอีกสักครั้ง ว่านางจะร้ายได้สักแค่ไหน

ร่างใหญ่เดินเข้ามาใกล้ กดนางให้เอนนอนล้มลงบนเตียง แล้วโน้มหน้าเข้าชิดใบหน้านวลของนาง ทำเอาคนตัวเล็กใจสั่นระรัว ระคนกลัวจนแทบอยากกรีดร้อง แต่จำต้องแสดงสีหน้ายิ้มหยาดเยิ้มเชิญชวน ข่มใจเข้าสู้ เพราะดูจากนิสัยแล้ว คนผู้นี้มิวางใจสิ่งใดโดยง่าย หากหลีกเลี่ยงเขาจะรุกใส่ แต่หากท้าทาย เขาจะคิดว่ามีกลลวงแฝง

หญิงสาวหลับตาพริ้ม ท่าทีใจเย็น เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างนาง พร้อมเหยียดยิ้มเย้ยที่มุมปาก ดังว่าเป็นผู้มีชัย

'ฮึ หมายจะร่วมเตียงกับข้าอย่างนั้นหรือ มันไม่ง่ายขนาดนั้น ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก สาวน้อย แต่อาจจะต้องขอเสียงของเจ้า เพื่อส่งเจ้าคนที่อยู่ข้างนอกให้รีบกลับไปเสียที'

หญิงสาวหลับตาอยู่นาน แม้เขาจะชิดใกล้จนนางสัมผัสลมหายใจได้ แต่ท่าทีของนางก็ยังดูนิ่งไร้ความหวาดกลัว หากไม่ใช่คนเจนโลก ก็คงจะซื่ออย่างที่สุด

'ไม่เล่นใหญ่ คงไม่ยอมถอยสินะ'

ซีเวยไม่อาจกลั้นใจทนอยู่ในสภาวะอึดอัดเช่นนี้ต่อไปได้ นางจึงโอบแขนเอื้อมกดจุดที่กลางหลัง ทำให้เขาอ่อนกำลังชั่วขณะ จากนั้น นางก็กดพลิกกายเขาไว้ใต้ร่างแทน มือน้อยก็ล้วงคลำตามสาบเสื้อ ลึกไปถึงแผ่นอก

'โอ้ว แน่นเกินไปแล้ว ไยข้าจึงรู้สึกประหลาดได้ถึงเพียงนี้นะ' นางพลางนึกในใจเมื่อได้สัมผัสอกแกร่งของบุรุษ

"เจ้าทำอะไรข้า" ร่างใหญ่กัดฟันกระซิบเบา รู้สึกว่าตนอ่อนเปลี้ยจนไร้แรงต้าน พยายามกดเก็บความรู้สึกหวิวไหวที่กำลังคละคุ้งฟุ้งอยู่ในใจ

"ก็ทำหน้าที่สามีภรรยาอย่างไรเล่า" มือซนคู่นั้นยังคงคลำล้วงไม่หยุดเขาเองก็ได้แต่นอนนิ่งตัวเกร็ง ปล่อยให้นางลูบไล้เล่นตามพอใจ ด้วยไร้แรงฝืน

"อย่าแม้แต่จะคิด"

ในขณะที่ร่างใหญ่หายใจหอบถี่ จู่ๆ นางก็ดับอารมณ์ดิบของชายหนุ่มด้วยการกดจุดแล้วหยุดนิ่ง นางจ้องหน้าเขาทำหน้าเง้าหน้างอ ในขณะที่เขามีสีหน้าตื่นตระหนก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป