บทที่ 6 พี่น้อง
จวนแม่ทัพเฉิน
"พี่ใหญ่ ท่านฟังผิดหรือไม่ นางเสียจริตเช่นนั้น จะแต่งกับอ๋องได้อย่างไร ต้องเป็นการเข้าใจผิดกันแน่ ข้าจะไปรับตัวนางกลับมา" เลี่ยงรุ่ยโวยวายใหญ่โต เมื่อทราบข่าวว่าซีเวยแต่งเข้าตำหนักอ๋องไปแล้ว เขาเพียงไปหาความสำราญนอกจวนเพียงไม่กี่วัน ก็ต้องกลับมาพบกับข่าวร้ายที่ยากจะทำใจได้
"ข้าคิดหาวิธีตั้งนาน จู่ๆ ท่านพี่ก็มอบโอกาสทองให้ข้า จะไม่ให้ข้ารีบคว้าไว้ได้อย่างไร ตั้ง 6 ปีเชียวนะ ที่ข้าต้องทนอยู่กับคนบ้าเช่นนาง จะให้ข้าตามนางกลับมาเพื่ออะไรกัน" เลี่ยงหรูเอ่ยค้าน
"ถึงอย่างไรข้าก็รักของข้า ข้าจะจุดธูปฟ้องท่านพ่อท่านแม่ ว่าท่านทำลายหัวใจดวงน้อยๆ ของข้า จนแหลกสลาย"
"เพ่ย! รักหรือ? เจ้าเข้าหานางไม่เคยสำเร็จ เลยนึกท้าทายมากกว่า วันๆ เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในหอสุรา เกี้ยวนารีไม่สร้างประโยชน์ ยังจะรู้จักรักใครเป็น" เลี่ยงหรูตวาดใส่ผู้เป็นน้องชายอย่างรู้ทัน
"พี่ใหญ่ ท่านก็พูดเกินไป อย่างน้อยข้าก็ทำประโยชน์จนท่านได้ครองจวนนี้เพียงหนึ่งเดียวเชียวนะ ท่านอย่าลืมสิ" เลี่ยงรุ่ยผู้เป็นน้องชาย เอ่ยลำเลิกบุญคุณที่ได้ช่วยพี่สาวกำจัดมารหัวใจอย่างสวีซิ่ว แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ทำให้นางสูญเสียสามีไปด้วย
"ฮึ หนึ่งเดียว ผู้โดดเดี่ยวนะสิ ครั้งล่าสุดที่เจอเขา ก็คืองานศพท่านแม่เขา ข่าวมาว่ากกกอดกับนางลับๆ ในค่ายจนเท่าทุกวันนี้ ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของข้า ชื่อเสียง เงินทอง มีแล้วดีอย่างไรเล่า เมื่อไร้ความรักจากสามีทุกสิ่งก็สิ้นความหมาย"
"เช่นนั้น สินที่มาจากอ๋องสาม ข้าขอสักครึ่งนะ จะไปทำทุน"
"ไม่ได้! สินเหล่านั้นคือสิ่งที่ข้าสมควรได้จากการอดทนเลี้ยงดูนางอย่างยากลำบากมาหลายปี เจ้ามีจวนให้อยู่ มีเงินให้ใช้ ก็นับว่าดีมากมายเท่าไรแล้ว เลิกคิดถึงนางแล้วไปอ่านตำราเสีย"
"ข้า 27 แล้ว ยังจะให้วิ่งสอบอันใดอีก ขออยู่รับใช้ท่านจะดีกว่า"
"เช่นนั้น เงินของเดือนหน้า ก็ไม่ต้องรับก็แล้วกัน"
"อ้อ วันนั้นข้าอ่านค้างไว้ถึงบทไหนนะ ต้องรีบไปอ่านแล้ว" เมื่อพูดเรื่องเงิน เลี่ยงรุ่ยทำทีนึกคิดแล้วเดินออกจากห้องโถงไป
....................
ซีเวยยิ้มกว้างให้กับเช้าวันแรกที่ปราศจากคนจวนเฉิน แม้จะยังไม่ใช่อิสระที่แท้จริง แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ดูแย่ อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกทุบตี หรือคอยนอนระแวงว่าจะมีใครแอบย่องเข้ามาในตอนกลางคืน
"ขนมของข้าหรือ? สามีใจดีรักษาคำพูดด้วย น่ารักที่สุดเลย" บนโต๊ะในศาลาริมน้ำ ถูกจัดวางเรียงด้วยขนมหลากสีหลายชนิด หลี่หมัวมัว ก็ถึงกับยิ้มตาม เพราะไม่เคยเห็นอ๋องสามเอาอกเอาใจผู้ใดเช่นนี้มาก่อน
"พระชายารอง นี่อาจิ้งกับ อาจู จากนี้ไป นางทั้งสองจะเป็นสาวใช้ข้างกายท่าน" หลี่หมัวมัวพาสาวใช้ฝาแฝดสองนางมามอบให้
"คำนับพระชายารอง" ซีเวยหรี่ตาจ้องสาวใช้ทั้งสองอย่างพินิจพิเคราะห์ พวกนางสองคนเหมือนกันราวกับว่าแกะออกมาจากแม่พิมพ์ เป็นเรื่องยากที่จะจำแนกพวกนางทั้งสองได้ชัด
"อาจิ้ง อาจู คนไหนจิ้ง คนไหนจู"
"หม่อมฉันอาจิ้งเพคะ" "หม่อมฉันคืออาจูเพคะ"
"อ้อ เอ่อ เจ้าคืออาจู ส่วนเจ้าคืออาจิ้ง"
"ไม่ใข่เพคะ นี่อาจู หม่อมฉันอาจิ้ง" ซีเวยแค่นยิ้ม ด้วยสถานการณ์เบื้องหน้า ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับนาง นางจึงเรียกรวมทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อจบปัญหา
"อ่อ เอาหละ อาจิ้งอาจู หน้าที่ของเจ้าสองคนคือเล่นเป็นเพื่อนข้า ดีหรือไม่ นั่งลงๆ กินขนมด้วยกันกับข้าเร็ว" สาวใช้ทั้งสองหันมามองหน้าหมัวมัว ก่อนจะตอบออกไปพร้อมกัน
"เอ่อ หม่อมฉันมิกล้าเพคะ"
"กินเถอะ เยอะขนาดนี้ข้ากินไม่หมดหรอก หมัวมัว ท่านก็ด้วยนะ กินสิ" ทุกคนยืนยิ้มให้กับนางโดยไม่เอ่ยปาก ทำให้นางจำต้องปล่อยผ่าน
ซีเวยหยิบขนมขึ้นมาดมทีละจานๆ ปากก็ชมเปาะว่าหอมน่ากิน แต่แท้ที่จริงแล้ว นางกำลังทดสอบกลิ่นของพืชมีพิษที่เจือปนมากับอาหาร
"ก็ได้ๆ ไม่บังคับพวกเจ้าก็ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะกินแล้วนะ อ้า..ม" ยังไม่ทันได้กลืนขนมลงท้อง ก็ได้เวลารับแขกอีกแล้ว ตอนนี้ซีเวยเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้ว ว่าบ้านใหม่แห่งนี้จะดีกว่าจวนเฉิน
"นึกไม่ถึงว่าพี่สะใภ้สามจะมีความสามารถในการกินถึงเพียงนี้" เสียงทักทายจากสตรีที่ดูจากอายุอานามแล้ว ก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาง
"คำนับองค์ชายห้า ลี่มี่กงจู่" หมัวมัวและสาวใช้ทำความเคารพผู้มาเยือน
"พวกท่านเป็นใคร กินขนมกับข้าไหม ข้าแบ่งให้ได้นะ" ซีเวยพิจารณาญาติสามีผู้มาเยือน ก็เห็นถึงความไม่ปกติ ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว การมาเยี่ยมเยือนครั้งนี้ คงไม่สู้ดีเท่าใดนัก
"ใบหน้าก็งดงามพอดูได้ นับว่าพี่สามไม่ขาดทุนเท่าใดนัก ที่พวกข้ามาวันนี้ก็แค่มาแสดงความยินดีกับพี่สะใภ้ จากนี้ก็เป็นคนกันเองแล้ว" ลี่มี่กงจู่ฉายแววตาเหยียดหยามมาเต็มประดา นางกอดอกยืนพูด มิได้ให้ความเคารพดังที่เอ่ยเรียกพี่สะใภ้เลยสักนิด
"อ้อ น้องสามี เจ้าก็งดงามน่ารัก" ซีเวยว่าพลางเดินไปดึงหยิกแก้มทั้งสองข้างของลี่มี่กงจู่ ลี่มี่ไม่ทันตั้งตัวจึงหลบมือไม่พ้นโดนหยิกจนแก้มแดง นางสะบัดหน้าหนีแล้วหันมาจ้องกลับด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่ยังดี ที่องค์ชายห้าคว้าแขนห้ามนางเอาไว้ก่อน
"ส่วนเจ้า หน้าตาดูไม่ค่อยฉลาดเลย แต่ก็เหมาะสมกับเจ้าดี"
"นี่เจ้า!" ครานี่เป็นลี่มี่ที่ดึงชายแขนเสื้อพี่ชายเอาไว้ ทั้งคู่ขบกรามกัดฟันแน่น ยังแสร้งยิ้มแต่นัยน์ตาขุ่นเคือง
