บทที่ 11

แหล่งน้ำห่างบ้านสกุลซวีไกลเล็กน้อย ตอนซวีชิงหย่วนและหลี่อวิ้นยกน้ำกลับ พ่อแม่ซวีและชิงเหมยนั่งอยู่หลังประตู ดูท่ากำลังรอพวกเขาอยู่

"พวกเรากลับมาแล้ว ชิงเหมยหุ้งข้าวเสร็จแล้วใช่ไหม?" หลี่อวิ้นถามด้วยรอยยิ้ม

"หุ้งสุกแล้ว รอพี่ใหญ่และพี่สะใภ้กลับมาอยู่ พวกพี่กินก่อน" ซวีชิงเหมยลุกขึ้นเดินตามหลี่อวิ้นไปที่ห้องครัว

ซวีชิงหย่วนวางถังไม้ใส่น้ำในห้องครัว ก็ยืนอยู่ข้างประตู

หลี่อวิ้นเปิดฝาหม้อ ดูเนื้อและน้ำเดือดปุด ๆ กลิ่นหอมเนื้อละมั่งภูเขาน้ำแข็งลอยเข้าจมูก นางได้กลิ่นแล้วน้ำลายไหล "เสร็จแล้ว กินข้าวกันเถอะ"

หลี่อวิ้นพูดจบ คิดจะไปหาถ้วยตักตักข้าว ถึงพบว่าแม้แต่ถ้วยตะเกียบเหมือน ๆ กันไม่กี่ชุดสกุลหลี่ก็ไม่มี

"พี่สะใภ้ พวกพี่กินก่อนเถอะ พวกเราไม่หิว" ซวีชิงเหมยยืนดมกลิ่นกลืนน้ำลายอยู่มุมหนึ่งในห้องครัว

“ในบ้านมีผู้ใหญ่ น้องสาวสามี น้องชายสามี จะให้พวกเรากินก่อนได้ที่ไหน ถ้วยตะเกียบไม่พอละก็ ไม่เป็นไรข้าคิดหาวิธี” หลี่อวิ้นขมวดคิ้ว ในความเป็นจริงนางก็คิดหาวิธีไม่ได้

ลบนางและซวีชิงหย่วน ในบ้านยังมีอยู่ห้าคน ทำไมมีแค่สี่ถ้วย? นางไม่เข้าใจจริง ๆ

“เอาแบบนี้ น้องชายสามีสองคนใช้ด้วยเดียวกัน ไม่พอกินค่อยตักในหม้อ ข้ากับพี่ใหญ่เจ้าใช้ถ้วยเดียวกัน ที่เหลือ...”

หลี่อวิ้นยังพูดไม่จบ ซวีชิงเหมยชิงพูดก่อนว่า "ที่เหลือข้าใช้กับท่านแม่หนึ่งถ้วย ท่านพ่อใช้ถ้วยคนเดียวเถิด!" ซวีชิงเหมยพูดอย่างรวดเร็ว คิดถึงจะได้กินเนื้อ ในใจตื่นเต้นสุด ๆ

“ใช่ ท่านพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ให้ท่านใช้คนเดียว”

ก่อนหน้านี้ก็คงใช้แบบนี้กระมัง หลี่อวิ้นคิดอยู่ ไม่รู้จะได้ไปในเมืองตอนไหน ซื้อพวกถ้วยตะเกียบ แต่คิดแล้วนางน่าจะไม่มีแม้แต่เงินเหวินเดียวจะซื้ออะไรได้

ซวีชิงหย่วนยืนฟังภรรยาและน้องสาวตนคุยกัน ในใจอบอุ่นมาก ใครไม่อยากให้ครอบครัวปรองดอง มีความสุขแข็งแรง และเจริญรุ่งเรือง

หลังจากหลี่อวิ้นตักเสร็จพูดกับหลี่อวิ้นว่า "เจ้ารีบไปเรียกพี่ชายสองคนของเจ้า ข้ายังไม่เจอพวกเขาเลย"

"พวกเขาไม่มีเสื้อผ้าสะอาดสวม ไม่กล้าออกมาเจอหน้า" ซวีชิงเหมยพูดเสียงเบาอย่างจนใจ

ครอบครัวยากจน มีเสื้อผ้าไม่มาก กลับคลอดลูกชายสองคนเปลื้องเสื้อผ้า ในบ้านไม่มีเงินซื้อเสื้อนวมใช้สวมในหน้าหนาวให้พวกเขา

ตอนหลี่อวิ้นและซวีชิงหย่วนไม่มา พวกเขาสองคนยังเดินอยู่ในบ้านได้ หากพวกเขามาแล้ว ซวีชิงเฟิงและซวีชิงอวี่จะต้องซ่อนอยู่ในห้อง พูดอะไรก็ไม่ยอมออกมา

“งั้น ไม่ออกห้องละก็ ชิงเหมยยกอาหารนี่เข้าไปในพวกเขาเถอะ หากไม่พอข้าค่อยตักให้พวกเขา” หลี่อวิ้นลังเล ในเมื่อพวกเขาไม่มีเสื้อผ้าสวมออกห้อง นางก็ไม่บังคับ ให้ชิงเหมยยกเข้าไปให้พวกเขากินแล้วกัน

หลี่อวิ้นยกเนื้อแกะตุ๋นชามหนึ่งไปห้องโถง วางตรงหน้าพ่อซวีก่อน "ท่านพ่อ ท่านลองชิมดู รสชาติน่าจะใช้ได้ เพียงแต่ในบ้านมีชามน้อยจนน่าสงสาร ท่านแม่และชิงเหมยใช้ด้วยกัน ข้ากับพี่หย่วนใช้ด้วยกัน” หลี่อวิ้นพูดก็มองไปทางแม่ซวี แววตาแฝงคำขอโทษ

แม่ซวีรีบโบกมือ สีหน้ายิ้มเขิน นางไม่รู้จะเข้ากับลูกสะใภ้ลูกชายคนโตที่เปลี่ยนนิสัยกะทันหันคนนี้อย่างไร "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเจ้ากินก่อนเลย"

"ตักมาแล้ว กินข้าวก่อนเถอะ" ซวีชิงหย่วนพูดประโยคหนึ่งอยู่ข้าง ๆ แม่ซวีไม่ปฏิเสธอีก

ทั้งสกุลซวี ดูเหมือนมีพ่อแม่อยู่ ที่จริงพวกเขาไม่มีพลังพูดสยบเหมือนซวีชิงหย่วนพี่ใหญ่ บางทีเพราะซวีชิงหย่วนตัวโต หน้าตาย ทุกคนกลัวเขาถึงเชื่อฟังคำที่เขาพูด หลี่อวิ้นคิดอยู่ในใจ

ชามที่หลี่อวิ้นตัก ไม่ได้เอาเปรียบใคร ในทุกชามเต็มไปด้วยเนื้อแกะเต็มชาม ให้พ่อแม่ซวีกินอยู่บนโต๊ะเล็ก นางกับซวีชิงหย่วนนั่งกินตรงประตู ซวีชิงหย่วนถือชาม หลี่อวิ้นเข้าใกล้เขากินข้าวกันแบบนี้

ซวีชิงหย่วนเลือกตักมันฝรั่งในชามกินเอง เนื้อแกะที่เหลือทั้งชาม ดูเงียบไม่พูด ที่จริงใส่ใจหลี่อวิ้นมาก เนื้อแกะอร่อย หลี่อวิ้นก็ดูแลตัวเองด้วยดี กินคำโตหลายชิ้น กินอิ่มเต็มท้อง นางเข้าใกล้อยากดื่มน้ำแกง "เจ้าวางต่ำลงหน่อย ข้าอยากดื่มน้ำแกง"

ซวีชิงหย่วนถือชามป้อนจ่อปากนาง "ระวังหน่อย"

“ข้ารู้แล้ว น้ำแกงไม่ร้อนแล้ว พี่หย่วนรีบกินเถอะ กินเสร็จเรายังต้องกลับบ้าน เสี่ยวหนานเสี่ยวเป่ยยังรออยู่ที่บ้าน” หลี่อวิ้นจับข้อมือของเขา ดื่มสองอึกใหญ่ น้ำแกงไม่เค็ม กลิ่นหอมดื่มง่าย

ซวีชิงหย่วนรับเสียงต่ำ หลี่อวิ้นกินอิ่มแล้ว ก็วางตะเกียบลงเร่งให้ซวีชิงหย่วนกิน

รอกินหมดชาม หลี่อวิ้นก็ไปตักอีกถ้วย "พี่บาดเจ็บต้องกินเยอะหน่อย"

ซวีชิงหย่วนแค่เงยมองนาง ตั้งแต่เข้าบ้านนางมักจะพูดตนได้รับบาดเจ็บ พ่อแม่ต้องได้ยินแน่ กลับไม่เห็นถามอย่างเป็นห่วง กลับเป็นนางที่คิดถึงตนตลอดเวลา

พ่อซวีกินอย่างพอใจ เกือบสิบกว่าปีแล้วไม่ได้กินเนื้อแกะ ครั้งนี้กินหนำใจแล้ว ได้กินเนื้อแกะอร่อยสักมื้อ ยังกินจนอิ่ม ถึงหนาวแข็งตายในหน้าหนาวก็คุ้มค่าแล้ว

ถึงแม้แม่ซวีไม่พูด สายตากลับผ่อนคลายกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย บนใบหน้าซวีชิงเหมยก็มีรอยยิ้ม หลี่อวิ้นมองพวกเขา บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ก็คือคำเดียว 'ยากจน'

หลังกินข้าวเสร็จ หลี่อวิ้นเป็นห่วงเด็กสองคนที่บ้านจริง ๆ คิดว่าสมควรกลับไปแล้ว

"ชิงเหมย ในหม้อยังเหลือไม่น้อยพวกเจ้าเก็บไว้กิน ตอนนี้หน้าหนาววางอยู่ช่วงหนึ่งคงไม่เสีย เติมเกลือเยอะหน่อยกันไว้ก่อนแล้วกัน ข้ากับพี่ใหญ่เจ้ากลับก่อนแล้ว" หลี่อวิ้นสั่งเสร็จก็จะกลับ

ซวีชิงหย่วนกินข้าวเสร็จ ช่วยครอบครัวตัดฟืนยกไปวางที่ห้องครัว ได้ยินคำพูดจะกลับของหลี่อวิ้น ถึงหยิบเนื้อแกะผ่าครึ่งที่วางอยู่ข้างนอกกำลังจะจากไป

"ทำไมพี่ไม่คุยกับพ่อแม่พี่หน่อย เนื้อแกะที่เหลือยังเอาไว้ให้พวกเขาหน่อยไหม?" หลี่อวิ้นมองดวงตาสามคู่ในบ้านจ้องพวกเขา แต่ไม่พูดอะไร จ้องพวกเขาตาแบ๋วรู้สึกใจอ่อนนิด ๆ

“ไม่ไว้ เนื้อแกะนี้เป็นของเจ้า”

เดิมละมั่งตัวนี้ถูกแย่งไปแล้ว เป็นผู้หญิงตรงหน้าแย่งกลับมา ให้คนที่บ้านกินครึ่งหนึ่งก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือต้องเอากลับหมด

“งั้นหนังนี้ก็เอาไว้เถอะให้พ่อแม่ใช้ ถึงอย่างไรข้ามีเสื้อผ้าเพียงพอ” หลี่อวิ้นเงยหน้ามองเขา

"ตามใจเจ้า"

หลี่อวิ้นถึงอุ้มหนังแกะวิ่งมาถึงในบ้านยื่นให้ชิงเหมย "หนังแกะเจ้ารับไว้ ใช้ทำเสื้อกั๊กให้พ่อแม่ จะได้อบอุ่นขึ้น"

ชิงเหมยรับมาอย่างเอ๋อ ๆ รอนางได้สติ หลี่อวิ้นและซวีชิงหย่วนก็ออกบ้านไปแล้ว สองคนกลางพื้นหิมะดูเข้ากันเป็นพิเศษ ตามระยะทางที่เดินไปไกลของพวกเขา เหลือเพียงจุดดำเล็ก ๆ สองจุด

"ท่านพ่อท่านแม่ พี่สะใภ้คนนี้ดีกว่าคนก่อน ข้ารู้สึกเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน" ชิงเหมยหันหน้าทางพ่อแม่ซวีอย่างเบลอ ๆ

"ไม่สนว่าเป็นใคร ไม่สนว่าเปลี่ยนเป็นใคร เห็นแล้วดีกว่าก่อน สุภาพกับพวกเรา เรียกพี่ใหญ่ว่าพี่หย่วนทุกคำ ข้าฟังก็รู้สึกสบาย ขอแค่ใช้ชีวิตมีความสุข เรื่องอื่นข้าก็ไม่ยุ่งกับพวกเขา ตอนนี้เห็นนางดีขึ้น และคู่ควรกับเงินที่พี่ใหญ่เสียไปกับนาง เฮ้อ หากไม่ใช่ในบ้านไม่มีที่นา ไหนเลยจะใช้เงินสิบตำลึงขอภรรยาคนเดียว บ้านใครไม่ใช่สองสามตําลึงก็ขอภรรยาสวย ๆ ได้แล้ว”

“พี่สะใภ้ข้าไม่ขี้เหร่ อยู่ในหมู่บ้านพวกเขาถือว่าสวยสุดแล้ว สวยกว่าพี่สาวสองคนของพี่เขาอีก”

"เจ้ารู้ได้อย่างไร?" แม่ซวีมองและถามชิงเหมย

"ข้าได้ยินเถาฮัวพูด ญาติของเถาฮัวเป็นคนหมู่บ้านเซียวเฮย"

หมู่บ้านเสี่ยวเฮยก็คือหมู่บ้านแม่ของหลี่อวิ้น และพ่อแม่ซวีทั้งครอบครัวเป็นคนหมู่บ้านซวี แต่ว่าบรรพบุรุษพวกเขาอยู่นอกหมู่บ้าน ห่างหมู่บ้านไม่ไกล แต่ไม่นับว่าเป็นคนในหมู่บ้าน เพราะว่าที่ดินรวมถึงที่นาของครอบครัวพวกเขาถูกยึดไป เวลาถูกยึดนานเกินไปอยากได้คืนเป็นเรื่องยากมาก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป