บทที่ 12 ไร้หัวใจ ตอนที่ 5
ความอายไม่มีหลงเหลือไว้ในสมองของณัฏฐนิชตอนนี้อีกแล้ว คงมีแต่ความอยากรู้อยากเห็น และอยากไต่เต้าให้ไปถึงสิ่งสูงสุดที่เธอรอคอยเท่านั้น
สองมือเล็กกอบกุมความใหญ่โตเอาไว้ค่อยๆ ใช้ลิ้นแตะจากส่วนปลายจนถึงล่างสุดวนเวียนจนรอบครั้งแล้วครั้งเล่า ความกล้าที่มีในตัวผลักดันให้เธออ้าปากแล้วครอบครองแก่นกายนั้นทันที โดยค่อยๆ อมกลืนเข้าไปทีละน้อยแต่ก็ได้เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ มันช่างมีขนาดมหึมานักทั้งขนาดและสัดส่วน
หญิงสาวรู้สึกจุกอัดในลำคอจนรู้สึกหายใจไม่ออก อยากจะคายสิ่งนั้นออกมาเหลือเกินแต่ติดที่คนตัวใหญ่กดศีรษะเอาไว้ไม่สามารถขยับเขยื้อนถอยออกได้
ความใหญ่โตยังคงดุนดันอยู่ในโพรงปากอุ่นสร้างความเสียวสยิวให้แก่เจ้าของ แต่คนตัวเล็กเริ่มจะหายใจไม่ออกเข้าไปทุกทีแล้วเมื่อมันยิ่งขยายจนคับปากไปหมด ลิ้นเล็กพยายามผลักดันสิ่งแปลกปลอมออก แต่เมื่อมันได้สัมผัสกับแก่นชายกลับกลายเป็นการเพิ่มความซาบซ่านให้ชายหนุ่มเข้าไปอีก ลิ้นน้อยๆ ที่ทั้งเล็กและนุ่มกว่ามากสร้างความกระสันรัญจวนทุกครั้งที่มันขยับเข้าแตะต้อง
“อื้อ...” คนตัวเล็กเริ่มประท้วง พยายามผลักดันสิ่งแปลกปลอมออกจากปากเมื่อหายใจเอาอากาศเข้าปอดได้น้อยลงทุกที
“กระดกลิ้นให้ต่ำลงสิจะได้ไม่เหนื่อย” ปากหนาพร่ำสอนคนตัวเล็กที่ยังอ่อนประสบการณ์ให้จัดเจนยิ่งขึ้น ณัฏฐนิชขยับจากท่านอนตะแคงพยุงให้เป็นกึ่งนั่งกึ่งนอนเพื่อจะได้สะดวกขึ้นสองมือเล็กจับตรงโคนขาเป็นที่ยึดเหนี่ยว แล้วกระดกลิ้นให้ต่ำตามคำบัญชา อคิราห์ดันตัวส่งแก่นกายเข้าไปถึงลำคอทันทีเมื่อทางสะดวกขึ้น
สะเอวสอบขยับโยกเข้าออกรับกับจังหวะมือที่กดใบหน้าเข้าหากลางลำตัว หญิงสาวเริ่มเรียนรู้และจับจังหวะเองได้จึงใช้ปากขบเม้มดูดดึงแล้วคายเข้าคายออกสลับกันไปมา เสียงครวญครางของอคิราห์ดังก้องราวกับถูกทรมานจนแสนสาหัสทุกครั้งที่ตัวตนถูกบีบรัดจากริมฝีปากบาง
“ณัฏฐนิชเธอ...เธอมันร้ายกาจนัก อืม...” ชายหนุ่มขยับอ้าขาให้กว้างขึ้น ยกคนตัวเล็กให้ใบหน้าเข้ามาประชิดกลางหน้าขา แล้วใช้สองมือดันเข้าดึงออกศีรษะทุยอย่างลืมตัว
“ไม่ไหวแล้ว...อืม ฉันทนไม่ไหวแล้ว” อคิราห์พ่นวาจาออกมาเพียงเท่านั้นก็ถอดถอนความเป็นชายจากอุ้งปากเธอทันที พลิกตัวให้หญิงสาวอยู่ในท่านอนหงายแล้วพาตัวเองขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ สอดแขนเข้าใต้ข้อพับขายกขึ้นแล้วโยกไปด้านหน้า ร่องอุ่นร้อนชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำผึ้งที่ประพรมทั่วสรรพางค์ถูกเผยให้เห็นถนัดตา
กุหลาบสีเย้ายวนฉ่ำชื้นเต้นตุบตามจังหวะหัวใจเรียกร้องให้ชายหนุ่มไม่อาจรั้งรอสิ่งใด มือหนาวนกลับมาจับตัวตนที่เปียกชื้นจ่อตรงร่องหลืบเร้นทันที สะโพกสอบดันตัวเองไปข้างหน้าสุดกำลังส่งมอบแก่นกายแกร่งให้ความเป็นหญิงของเธอโอบอุ้มเอาไว้จนสุดทางรัก
ณัฏฐนิชเจ็บแสบตรงส่วนที่ถูกล่วงล้ำ ถึงแม้ความพร้อมจะมีมากมายเพียงใดแต่ด้วยเคยถูกคุกคามมาเพียงครั้งเดียวกายสาวจึงยังเปิดทางไม่เต็มที่ยังเล็กและคับแคบอยู่มาก แต่กระนั้นคนตัวใหญ่ก็ไม่คิดปราณี โพรงสาวที่ตอดรัดเขาจนแทบหายใจไม่ออกยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้เขาเดินหน้าไปไม่ยั้ง
“คุณคีม...เจ็บ...” เสียงเล็กกระท่อนกระแท่นทั้งยังแหบพร่า รวมไปถึงหน้าตาที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บจุกไม่สามารถฉุดรั้งสัตว์ร้ายที่กำลังจู่โจมโรมรันเหยื่อตัวน้อยได้เลย
“ณัฏฐนิช แน่นมาก แน่นเหลือเกิน...พระเจ้าเธอกำลังฆ่าฉัน” อคิราห์ครางลั่นด้วยความสมใจอย่างที่สุดเมื่อได้ขยับกายเข้าออกจากกลีบผกา หญิงสาวเองก็ทอดทิ้งความเจ็บปวดไว้เบื้องหลังเมื่อความกระสันซ่านเข้ามาเยือนมากขึ้นทุกทีๆ บวกกับยาที่ทานเข้าไป เธอยกสะโพกให้สูงขึ้นรับการรุกรานของเขาอย่างเต็มที่ พร้อมส่งเสียงครวญครางแข่งกับเสียงแหบห้าว
“คุณคีมรัน...อ๊ะ” ณัฏฐนิชร้องลั่นกับความสยิวกับสิ่งที่เขาส่งมอบให้และเธอได้รับมันเต็มๆ ช่องทางรักตอดตุบทุกครั้งที่ถูกโรมรัน จังหวะขยับเข้าออกหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์ที่เดือดพล่าน สองกายประสานรับและรุกอย่างรู้จังหวะความสัมพันธ์ที่แนบแน่น
“อืม...ณัฏฐนิช” เสียงแหบห้าวครางกระหึ่มราวสัตว์ร้ายที่เจ็บหนัก วางขาทั้งสองข้างลงแนบกับที่นอนถอดถอนกายจากกลีบผกาสาวแล้วจับเธอพลิกให้อยู่ในท่านอนคว่ำจับสะโพกกลมมนยกสูงขึ้น หัวเข่าสองข้างกลายเป็นที่รองรับน้ำหนักตัว ส่วนช่วงลำตัวก็ยังคงนอนราบกับที่นอนมีเพียงสะโพกกลมกลึงเท่านั้นที่ลอยเด่นอวดท้าสายตา
ชายหนุ่มจับโคนขาสองข้างแยกออกจากกันพอประมาณ ส่วนตัวเองก็ยืนขึ้นแล้วย่อตัวให้ความเป็นชายอยู่ตรงปากทางที่กำลังจะบุกเข้าหาเขาสอดแทรกแก่นกายเข้าหาช่องทางหฤหรรษ์พุ่งตัวเข้าครั้งเดียวจนสุดลำรัก
“คุณ...คุณคีม คุณคีม” หญิงสาวผู้ถูกรุกรานโดยไม่ทันตั้งตัวหวีดครางรับกับจังหวะโรมรันที่ชายหนุ่มกระแทกตัวเข้าหา อคิราห์ใช้สองมือจับช่วงเอวคอดเล็กดึงเข้าหาตัวในขณะที่สะโพกสอบก็โยกรับเต็มกำลัง เกมรักปะทุดุเดือดจนทั้งสองเหงื่อกาฬไหลท่วมตัว ช่องทางอุ่นร้อนที่ชุ่มชื้นตอดรัดความเป็นตัวตนของอคิราห์จนแทบสิ้นใจหลายต่อหลายครั้ง ชายหนุ่มลดตัวใช้เข่าวางลงบนที่นอนแล้วโน้มตัวเข้าหาร่างเล็ก มือสองข้างกอดรัดคนใต้ร่างเอาไว้ซุกไซ้หาความหอมกรุ่นตามซอกคอขาว มือข้างหนึ่งผลักใบหน้าให้ตะแคงเข้าหาด้วยที่เขากำลังใช้จมูกและปากนัวเนียอยู่ ริมฝีปากบางสีชมพูที่บวมเจ่อถูกฉกจูบแล้วลิ้นหนาใหญ่ก็แทรกเข้าควานหาความหวานนุ่มของโพรงปากสาว
อคิราห์ดูดดึงลิ้นเล็กพัลวันก่อนที่มือทั้งสองข้างจะกลับมาทำหน้าที่ครอบครองทรวงอกอวบอีกครั้งบีบขยำคลำเคล้นจนแทบแหลกคามือ ณัฏฐนิชที่ถูกรุกรานจากทุกด้านเสียวซ่านจนเกินคำบรรยาย ช่วงเอวคอดกิ่วส่ายไปมายกสะโพกมนเขาหาความเป็นชายที่กำลังกระหน่ำตัวเข้าออกในช่องทางรักอย่างโหยหา คล้ายจะบอกเขาว่าเธอต้องการมากกว่านี้ เร็วกว่านี้ และแรงยิ่งกว่านี้เพื่อให้มันพาไปเยือนแดนวิมานที่กำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้า
“อื้อ...อื้อ!!” เสียงครางในลำคอที่ไม่สามารถเล็ดรอดผ่านริมฝีปากหนาที่ประกบทับอยู่ได้บ่งบอกว่าเธอได้เข้าสู่ห้วงเหวลึกดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรแห่งความสุขสมเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเองก็รับรู้ได้จากการที่ผนังกายสาวตอดกายแกร่งของเขาสองสามครั้งและน้ำทิพย์ที่รินไหลอาบตัวตนตามจังหวะขับเคลื่อน อคิราห์ปลดปล่อยปากบางให้เป็นอิสระจากการถูกรุกรานแล้วเพิ่มแรงโรมรันเข้าไปอีก
“คุณคีมขา...”
“ถึงตาฉันแล้วณัฏฐนิช” ชายหนุ่มขยับกายเข้าออกด้วยความรุนแรงและเร็วสุดกำลังชายชาตรีช่วงเวลาตอนนี้ต่อให้ฟ้าถล่มหรือแผ่นดินทลายก็ไม่อาจฉุดรั้งความต้องการของเขาเอาไว้ได้อีกแล้วแม้แต่เสี้ยววินาที
“อืม...ที่รัก...” และแล้วสายธารแห่งเชื้อพันธุ์ก็ถูกปลดปล่อยเข้าไปในตัวหญิงสาวจนเอ่อล้นส่วนที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ไหลเปื้อนตามโคนขาขาวละมุน พร้อมๆ กับมีเสียงครางระงมดังก้องทั่วห้องพักสุดหรู สองกายที่ยังสอดประสานกันอยู่ทรุดฮวบลงราบกับที่นอนในท่านั้น เสียงหอบหายใจเหมือนกับวิ่งระยะทางไกลปะปนกับเสียงครางฮือในลำคอ อคิราห์พลิกให้หญิงสาวใต้ร่างนอนหงายส่วนตัวเองก็ทาบทับด้านบนตะโบมจูบปากแดงที่บวมเจ่อจากพิษรักเมื่อสักครู่จนเจ้าของรู้สึกเจ็บแสบซ้ำเข้าไปอีก เมื่อถูกรุกรานอีกครั้งสัญชาตญาณบอกเธอว่าชายหนุ่มกำลังจะมอบบทเรียนรักบทต่อไปให้กับเธออีกคราแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะผ่านเกมกามมาเพียงไม่กี่นาทีแท้ๆ
อคิราห์ใช้ช่วงเวลาเสพสมกับร่างบอบบางอย่างคุ้มค่า เขาไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดจากกรงสวาทแม้แต่สักเสี้ยววินาที
ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า...
เนิ่นนานจนแทบลืมวันเวลา
ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ถูกวางยา...
