บทที่ 5 ฮันนีมูนขม ตอนที่ 3
สองหนุ่มสาวที่ขับรถออกมาจากบ้านเลนเบิร์คยังคงเล่นสงครามเย็นมาตลอดทาง ไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาจากปากคนทั้งคู่ ณัฏฐนิชถึงจะอยากรู้เรื่องที่เขาคุยกับมารดาแต่เธอไม่ได้ปริปากถาม คงนั่งนิ่งเป็นหุ่นตุ๊กตาอยู่เช่นเดิม แต่เมื่อรถเลี้ยวออกนอกเส้นทางที่จะกลับบ้านเธอก็หันมองหน้าเขานิดหนึ่งคิดอยากสอบถามว่าจะพาไปไหนกันแน่ แต่เมื่อตรึกตรองถึงคำตอบก็เลือกที่จะนั่งเงียบดีกว่า
ผู้หญิงอย่างเธอมันไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับเขา อากาศที่เริ่มหนาวขึ้นเพราะดูท่าฝนจะตกลงมาอีกในไม่ช้า บวกกับแรงเป่าของแอร์ภายในตัวรถทำให้หญิงสาวต้องใช้มือกกกอดตัวเองเอาไว้เพราะความหนาว อาการป่วยของเธอเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว อคิราห์ยังคงขับรถไปเรื่อยๆ ถนนดูโล่งขึ้นเพราะห่างจากในตัวเมืองมาพอสมควร ชายหนุ่มทอดมองไปด้านหน้าเห็นศาลาที่พักริมทางหลังหนึ่งจึงชะลอรถเทียบจอด “ฉันจะไปทำธุระเธอคอยที่นี่ก่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มเอ่ยบอกอย่างไม่ใส่ใจ
“เอ่อ...มันเปลี่ยวนี่ค่ะ รัญกลัวให้รัญกลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ” ณัฏฐนิชต่อรองขณะมองไปรอบๆ สถานที่อันไม่คุ้นเคย
“แถวนี้มันมีแท็กซี่ที่ไหนกันล่ะ...ถ้าไม่รอก็เดินกลับไปก็แล้วกัน...ลงไปได้แล้ว” หญิงสาวยังคงลังเลไม่ยอมลงจากรถไปง่ายๆ ด้วยว่ากลัวกับสถานที่ที่ไม่รู้จักและฝนฟ้าก็ทำท่าจะตกลงมาแล้วด้วย
“ลงไปสิโว้ย!!!!”
เสียงตวาดลั่นทำเอาณัฏฐนิชสะดุ้งตัวสั่นงก สายตาดุมองมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อจนเธอต้องลนลานรีบเปิดประตูรถก้าวออกจากรถและเมื่อประตูปิดลงชายหนุ่มก็เร่งขับรถออกไปด้วยความเร็วจนล้อฟรีกับพื้นถนนเป็นรอยไหม้ดำณัฏฐนิชยืนมองน้ำตาคลอเบ้าในลำคอเจ็บจุกจนกลืนน้ำลายไม่ลง จะกลับก็ไม่รู้กลับยังไงจะรอก็กลัวเขาไม่มารับ ฝนเม็ดเล็กๆ เริ่มสาดลงมาปรอยๆ หญิงสาวจึงวิ่งเข้าไปในศาลาเพื่อหลบอาศัย สายตากวาดมองไปรอบๆ ด้วยความกลัวเธอตัดสินใจเลือกที่จะรอเขากลับมา
หวังว่าอคิราห์จะหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างไม่ทิ้งเธอไว้ที่นี่หรอกนะ...
ทางด้านชายหนุ่มผู้เลือดเย็นยังคงขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อมุ่งให้ไปถึงจุดหมายโดยไว วันนี้เขาเสียเวลามากกับการต้องจัดการผู้หญิงคนนั้น ไม่อย่างนั้นเขาควรจะมาที่นี่ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว รถเลี้ยวเข้าวัดแห่งหนึ่งตามทางที่ลูกศรชี้บอกจนมาถึงบริเวณที่มีโกศบรรจุเถ้ากระดูกตั้งอยู่เรียงราย
ชายหนุ่มจึงจอดรถเดินกางร่มลงมาตรงไปยังโกศสีขาวที่ตั้งอยู่ริมสุดติดกำแพงทันที รองเท้าสีดำสนิทจอดยืนบริเวณหน้าโกศที่มีรูปหญิงสาวหน้าตาสะสวยผมยาวในชุดสีขาวเพียงครึ่งตัวติดอยู่ สายตาคมดุที่มองณัฏฐนิชเมื่อครู่บัดนี้กลับดูอ่อนโยนยามที่ทอดมองไปยังหญิงสาวในรูป นี่คือสาเหตุที่เขาไม่พาณัฏฐนิชมาที่นี่ ชายหนุ่มไม่อยากให้วิญญาณคนรักต้องขุ่นมัวที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แค่นี้ก็ผิดต่อเธอมากแล้ว
“ขิงผมมาแล้วนะ...ขอโทษที่วันนี้ผมมาช้า เผอิญมีธุระจะต้องทำ คุณไม่โกรธผมใช่ไหม” แม้จะไม่ได้รับการตอบรับใดๆ เพราะมันมีเพียงความว่างเปล่า แต่เขาก็ยังส่งยิ้มอบอุ่นไปให้เธอ
“ผมจะมาลาคุณด้วย...คงไม่ได้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณสักระยะ คุณอยู่ที่นี่ไม่ต้องตามผมไปหรอกนะ ผมอยากให้คุณพักผ่อนไม่อยากให้คิดมาก ขิง...ผมกำลังทำให้คนที่มันทำให้คุณตายได้รับโทษ คุณจะต้องไม่ตายเปล่า ผู้หญิงคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ เขาทำให้คุณจากไป ผมก็จะทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น อยากตายก็ตายไม่ได้ อยู่ก็ทรมานยิ่งกว่าคนตายไปแล้ว อีกไม่นานผมจะกลับมา...ผมรักคุณนะขิง”
ชายหนุ่มล่ำลากับหญิงสาวในรูปตรงหน้าแล้วยืนมองเธออยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดเม็ด ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับไปที่รถ โดยไม่ได้หันกลับมามองว่าตรงกำแพงที่ติดกับโกศหญิงคนรักนั้น มีผู้หญิงในชุดสีดำสนิทกำลังเดินออกมาจากมุมมืด
เธอแสยะยิ้มเหมือนสะใจอะไรบางอย่างก่อนจะหันหลังเดินหายไปพร้อมกับสายฝนที่ตกหนักขึ้น...
