บทที่ 1 จุดเริ่มต้น (50%)

โรงแรมแกรนด์ โอเปร่า

ย่านบอร์ดเวย์ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ท่ามกลางความเจริญของเมืองที่ดาษดื่นไปด้วยตึกระฟ้า ยังมีโรงแรมเก่าแก่ทว่าโอ่อ่าและหรูหรา ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ถูกจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของโรงแรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าและนักท่องเที่ยว จากนิตยสารแนะนำที่กิน ที่เที่ยวและที่พักชั้นนำของโลก โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงนิวยอร์กซิตี้ มหานครเอกและเมืองที่เจริญที่สุดในโลก

แค่ชื่อของโรงแรมก็บ่งบอกและการันตีได้เป็นอย่างดีแล้วว่า เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่าขึ้นชื่อของอเมริกา บางคนเรียกที่นี่ว่าโอเปร่าเฮาส์ ซึ่งโอเปร่าเฮาส์ที่ว่านี้หาใช่โรงอุปรากรที่ซิดนีย์ ของประเทศออสเตรเลียแต่อย่างใด การแสดงโอเปร่าของทางโรงแรมแกรนด์ โอเปร่า จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกที่เข้าพักโรงแรมและผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการแสดงแขนงนี้จากทั่วทุกมุมโลก จะมีให้ชมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกอาทิตย์ ทุกรอบที่มีการแสดงบัตรจะถูกขายจนหมดเกลี้ยง ฉะนั้นโอเปร่าจึงถือเป็นตัวชูโรงของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้

วันนี้เป็นต้นสัปดาห์จึงไม่มีการจัดแสดงโอเปร่า ทำให้บรรยากาศภายในโรงแรมลดความคึกคักลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นแขกที่มาใช้บริการก็ยังหนาตาอยู่ไม่สร่างซา โดยเฉพาะในเวลาทานอาหารค่ำเช่นนี้ ห้องอาหารของโรงแรมคราคร่ำไปด้วยแขกระดับวีไอพี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ลากมากดี เศรษฐี ไฮโซ และคนมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม บางคนก็แต่งตัวมาโชว์ฐานะ อวดร่ำอวดรวย ไม่ต่างอะไรกับตู้เพชรเคลื่อนที่ มองแล้วชวนให้นึกขันอยู่ไม่น้อย

ขณะนี้จอมใจ ยอดหญิง วิศวกรสาวชาวไทย กำลังนั่งทานอาหารค่ำร่วมกับหนุ่มหล่อ ที่คอยเทียวไล้เทียวขื่อเธอตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา…โดมินิก ลิเบอรี มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เสเพลย์บอยชาวอังกฤษ ผู้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากและทำธุรกิจที่อเมริกา และเป็นคู่ค้ารายสำคัญของวาเลนติอาโน่ กรุ๊ป เขารู้จักกับจอมใจเมื่อสามเดือนที่แล้ว ผ่านทางงานที่ต้องติดต่อกันอยู่เป็นประจำ แค่แรกพบโดมินิกก็รู้สึกถูกชะตากับหญิงสาว และยิ่งได้ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเกิดความหลงใหลในความเป็นตัวตนของเธอมากเท่านั้น

อาหารเลิศรสบวกกับบรรยากาศแสนจะโรแมนติก คลอเคล้าด้วยดนตรีแจ๊สสุดคลาสสิค อันเกิดจากฝีมือการบรรเลงขั้นเทพของศิลปินร่วมสมัยผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อน และเป็นที่กล่าวขานของคนทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ เสียงอันไพเราะเพราะพริ้งจากบทเพลงที่กำลังบรรเลง เป็นตัวเรียกน้ำย่อยเสริมความอยากอาหารให้หลายๆ คนในห้องอาหารอันหรูหราแห่งนี้ การละเลียดอาหารช้าๆ ไปพร้อมกับการฟังเพลงในจังหวะเบาๆ มันช่างเป็นอะไรที่น่าอภิรมย์สำหรับหลายคนในที่นี้ยิ่งนัก ยิ่งถ้าได้ไวน์ชั้นดีมาขึ้นโต๊ะด้วยแล้ว นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ บ้างก็มีคู่รักออกไปเต้นรำโอบกอดและซบไหล่กันซึมซับบรรยากาศอันน่าจดจำ แต่จอมใจกลับไม่มีความรู้สึกเหล่านั้นเลยแม้แต่กระผีกเดียว

ใช่ว่าเธอจะขาดสุนทรียภาพทางอารมณ์ ตรงกันข้าม เธอเองก็ชื่นชอบการฟังเพลงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าแจ๊สจะไม่ใช่หนึ่งในประเภทดนตรีที่เธอพิสมัยก็ตาม ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ทุกอย่างดูกร่อย ก็มาจากการมาทานข้าวกับคนที่เธอให้คำจำกัดความแค่คำว่าเพื่อน ไม่มีทางจะขยับสถานะมาเป็นเพื่อนรู้ใจหรือในนามของคำว่าแฟนอย่างโดมินิก ใช่ว่าเธอจะไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพัง แต่มาวันนี้มันกลับดูแตกต่าง บรรยากาศชวนให้รู้สึกอึดอัดและกระอักกระอ่วนในเวลาเดียวกัน ตอนแรกที่ชายหนุ่มชวนมาดินเนอร์ใจหนึ่งสาวแสบก็อยากจะปฏิเสธ แต่ก็กลัวว่าพ่อหนุ่มหล่อจะเสียใจจึงได้ตกปากรับคำด้วยภาวะจำยอม

ก่อนหน้านี้จอมใจได้ไปเรียนรู้งานที่สำนักงานใหญ่ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นเวลาหกเดือน แล้วนำความรู้ที่ได้กลับมาต่อยอดร่วมกับทีมงานที่อเมริกา พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจนหมดแล้ว เธอก็ทำเรื่องขอย้ายไปประจำการที่บริษัทแม่ในอิตาลีทันที โดยให้เหตุผลว่าอยากจะลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่ดูบ้าง ประจวบเหมาะกับทางบริษัทแม่กำลังจะมีโปรเจคใหญ่เกี่ยวกับการวางโครงข่ายเซลล์เชื้อเพลิงที่ไนจีเรีย หัวหน้าของเธอจึงไม่คิดจะคัดค้านหรือเหนี่ยวรั้งลูกน้องเอาไว้ เพราะเห็นว่าคนมากความสามารถและมุมานะอย่างจอมใจ ยังมีโอกาสที่จะก้าวหน้าในสายงานได้อีกเยอะ หากเธอได้ทำงานในด้านที่ตัวเองถนัด

และเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่ทำให้จอมใจตัดสินใจว่าจะย้ายไปทำงานที่อิตาลีอย่างแน่นอน ก็คือพ่อหนุ่มหล่อที่กำลังนั่งละเลียดอาหารร่วมโต๊ะกับเธออยู่ ณ ขณะนี้นั่นเอง จอมใจไม่ใช่คนโง่ จึงรู้ว่าที่โดมินิกเข้ามาตีสนิทและคอยมารับมาส่ง บ้างก็ชวนไปเที่ยว ไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปดูอเมริกันฟุตบอลในสุดสัปดาห์ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะเขาแอบมีใจให้เธอ ซึ่งชายหนุ่มก็เลือกที่จะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด

จอมใจยอมรับว่าเมื่อได้รู้จักกับโดมินิก ชีวิตของเธอก็มีสีสันกว่าแต่ก่อนมากโข เขาทำให้วันหยุดสุดสัปดาห์อันน่าเบื่อกลายเป็นวันที่น่าตื่นเต้นมาตลอดระยะเวลาสามเดือน พาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะได้ทำในชีวิตนี้ แต่เขาก็เป็นได้แค่เพื่อนที่ดีคนหนึ่งสำหรับเธอเท่านั้น เพราะสาวแสบไม่คิดจะเปิดใจรับชายใดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะในตอนนี้หรือในอนาคตวันข้างหน้า เด็กกำพร้าไร้ญาติอย่างเธออยู่คนเดียวมาเนิ่นนานจนชินชา เกินกว่าจะหาใครมาร่วมเดินทางเคียงข้างเสียแล้ว

“จอมคุณจะย้ายไปทำงานที่อิตาลีจริงเหรอครับ” โดมินิกเอ่ยเสียงขรึม ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษฉายแววอาลัยอาวรณ์อย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเสียดายที่ตัวเองมาเจอเธอช้าไป หากพบกันตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่อเมริกาใหม่ๆ ไม่แน่ว่าตอนนี้ทั้งสองอาจจะเป็นแฟนกันไปแล้วก็ได้

“ค่ะดอม ฉันอยากลองทำอะไรที่มันท้าทายดูบ้าง และคิดว่าที่อิตาลีคงจะสนองความต้องการของฉันได้ไม่มากก็น้อย” จอมใจพยักหน้าหงึกหงัก ทำเสียงงึมงำเพราะยังมีข้าวอยู่เต็มปาก จนเขาอดที่จะอมยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ และนี่ก็เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งของเธอที่ทำให้เขาหลงใหล ความเป็นธรรมชาติที่ไม่เคยได้สัมผัสจากผู้หญิงคนไหนมาก่อน ทำให้หนุ่มเพลย์บอยคิดจะลองคบหาอย่างจริงจังกับสาวเจ้าดูซักตั้ง

บทถัดไป