บทที่ 4 พบกันอีกครั้ง (50%)
“พี่ดอมมีอะไรจะพูดกับคาร่าเหรอคะ หรือทนคิดถึงคาร่าไม่ไหว จนต้องลากออกมาอยู่กันตามลำพังถึงที่นี่” คนถูกลากออกมาเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน เพราะทนแรงกดดันจากความอึดอัดไม่ไหว ยิ่งเห็นเขาหันหลังให้และกำหมัดแน่นเธอยิ่งเหมือนจะหายใจไม่ออก
“เฮอะ…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยแม่คุณ แค่ฉันใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอเพียงเสี้ยวนาที มันก็น่าสะอิดสะเอียนมากพอแล้ว” โดมินิกใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างร้ายกาจ คาร่าเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น แต่เธอก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ หัวใจไม่รักดีมันเป็นของเขาซะแล้ว
“งั้น…พี่ดอมก็คงลำบากหน่อยนะคะ ที่จะต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคาร่าไปตลอดชีวิต เพราะคาร่าจะเกาะแบบไม่ปล่อยแน่” ทั้งที่เจ็บแปลบในอกกับวาจากระแทกแดกดัน คาร่าก็ยังปั้นหน้ายิ้มหน้าระรื่น ก่อนจะใช้วาจาจัดจ้านโต้ตอบอย่างทัดเทียมกัน
“คิดเหรอว่าฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ ฝันสูงไปแล้วมั้งแม่คุณ” โดมินิกเค้นเสียงอย่างขุ่นข้องหมองใจ ไม่รู้ว่าเธอจะอะไรกับเขานัก ทั้งที่เขาออกจะแสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอมาเป็นเมีย แต่แม่คุณยังตามตอแยเขาอย่างหน้าด้านๆ ผู้หญิงประเภทนี้หรือที่เขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก บอกได้คำเดียวว่าไม่….ฝันไปเถอะ ไม่มีทาง
“ก็เอาซี้…หากพี่ดอมกล้าปฏิเสธคำสั่งของป้าซาร่า” น้ำเสียงแหลมปรี๊ดของคาร่าท้าทายอย่างอวดดี โดยยกเอามารดาของชายหนุ่มขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการเอาชนะในครั้งนี้
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย อยากมีผัวจนตัวสั่น” โดมินิกสาดคำอันแสนน่ารังเกียจใส่คาร่าอย่างไม่คิดจะรักษาความป็นสุภาพบุรุษ
“คาร่าก็อยากรู้เหมือนกัน หากคุณป้ารู้ว่าพี่ดอมกำลังติดแม่สาวเอเชียอยู่ คุณป้าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง” คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากรั้นๆ ทำเอาโดมินิกถึงกับควันออกหู คาร่าช่างบังอาจนัก กล้าติดตามเรื่องส่วนตัวของเขา จนถึงขนาดรู้ว่าเขากำลังตามเทียวไล้เทียวขื่อจอมใจอยู่
“แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน คนอย่างเธอมันรนหาที่เองทั้งนั้น” ข่มขู่เสียงเย็น พร้อมใช้สายตาหยามหยันมองไปทั้งสรรพางค์กายของคู่หมั้นสาว
“แล้วถ้าคาร่าไม่เชื่อคำเตือน พี่ดอมจะทำยังไงกับคาร่าไม่ทราบ” ลอยหน้าท้าทายเสือร้ายอย่างไม่หวั่นเกรง เพราะแม่สาวน้อยคิดว่ายังไงตัวเองก็มีคนหนุนหลังอยู่แล้ว
คนไม่ชอบโดนท้าเกิดอาการของขึ้นในบัดดล ชายหนุ่มไม่ได้ตอบโต้ด้วยวาจา แต่เลือกที่จะเอาคืนเธอด้วยการกระทำที่เหนือกว่า เพียงชั่วพริบตาร่างของคนช่างยั่วอารมณ์ก็ปลิวไปปะทะแผงอกกว้าง พร้อมกับวงแขนแกร่งล็อคกายทั้งสองให้เข้าแนบชิดจนหายใจรินรดกัน สีหน้าแตกตื่นทำให้เขาถึงกับแสยะยิ้มที่มุมปาก โดมินิกโฉบริมฝีปากหยักจุมพิตลงทันฑ์ริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างแรง
จงใจบดคลึงกลีบปากสวยอย่างกระแทกกระทั้นจนแทบชอกช้ำ คาร่าระดมกำปั้นน้อยทุบที่ไหล่กว้างพัลวัน แต่ก็ไม่ทำให้เขากระเทือนได้แม้แต่น้อย ชายหนุ่มยังคงตะโบมจูบเธอไม่หยุดหย่อน มือใหญ่ตรึงปลายคางมนที่เอาแต่ส่ายสะบัดให้รับจุมพิตเร่าร้อนได้อย่างถนัดถนี่ จากที่คิดจะลงทัณฑ์กลายเป็นละเลียดเอาความหวานฉ่ำภายในโพรงปากอิ่มอุ่นจนถ้วนทั่ว ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงร่านอย่างเธอจะยังหลงเหลือความหวานอยู่ คาร่าอ่อนระทวยไปกับจุมพิตแรกในชีวิตสาว ยอมแย้มริมฝีปากรับจุมพิตเจนจัดอย่างไม่อาจหักห้ามใจ
“ฮึ…แค่จูบก็ทำเป็นเคลิ้มแล้วเหรอ ร่านดีนี่!” รอยยิ้มหยันผุดขึ้นที่มุมปากสีแดงสด ผลักร่างบางด้วยความแรง จนคาร่าเสียหลักลงไปนั่งจุมปุกอยู่กับพื้น หากมันไม่ใช่หญ้าป่านนี้ก้นของเธอคงจะระบมไปแล้ว
คำด่าทอแบบซึ่งๆ หน้า ทำให้ใบหน้างามชาวาบเหมือนโดนตบฉาดใหญ่ ความโกรธมันบังตาจนเห็นคนร่างสูงใหญ่ตรงหน้าตัวกระจ้อยร่อยเท่ามด หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วรี่เข้าหาร่างใหญ่ของคนที่กำลังยืนแสยะยิ้มด้วยความสมเพช ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อบาดใจอย่างไม่คิดจะออมแรง
เพี๊ยะ!!!
“นี่คือรางวัลของคำพูดสั่วๆ ของคนที่ฉันเคยคิดว่าเป็นผู้ดีแบบคุณ คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่อาศัยอยู่ในสลัม” สรรพนามที่เคยใช้เรียกอย่างสนิทสนมแปรเปลี่ยนไปในทันที คาร่าลดมือลงเปลี่ยนมากำหมัดไว้แนบลำตัว กัดฟันต่อว่าเขาด้วยความแค้นเคืองในท้ายประโยค
“อยากตายนักหรือไง ถึงได้กล้ามาด่าฉันด้วยวาจาสถุลแบบนั้น” ย่างสามขุมเข้าหาร่างที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า พริบตาเดียวร่างสูงใหญ่ประหนึ่งยักษ์ปักหลั่นก็มายืนค้ำหัวของคาร่า มือหนาจิกลงไปบนไหล่มนโดยไม่คิดจะผ่อนแรง
“ไม่ได้อยากตายหรอกค่ะ ฉันแค่ทนความร้ายกาจของผู้ชายอย่างคุณไม่ไหว ก็เท่านั้นเอง” ทั้งที่เจ็บเจียนน้ำตาเล็ด แต่คาร่าก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันทนความเจ็บจากแรงมือที่กำลุงขยุ้มหัวไหล่ของตน เงยหน้าเค้นลมหายใจออกมาเป็นคำพูด ตอบโต้กลับอย่างไม่หวั่นเกรง
“ถ้าทนผู้ชายอย่างฉันไม่ไหว ก็ยกเลิกงานแต่งซะสิ เพราะหากเธอยังดันทุรังให้งานแต่งซังกะบ๊วยเกิดขึ้นอีกล่ะก็ เธอจะทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นซะอีก” ทุกคำที่โดมินิกเปล่งออกมา มันมีทั้งการท้าทายและออกคำสั่งผสมผสานกันไปในน้ำเสียงกร้าวกระด้างนั้น
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันว่าทะเลาะกันแบบนี้ก็ดี เผื่อว่าชีวิตคู่ของเราจะมีสีสันซู่ซ่า จนคนอื่นเขาอิจฉาตาลุกเป็นไฟ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงหวานหยด แถมยังปั้นหน้ายิ้มยั่วยวนกวนอารมณ์ จนคนมองต้องบดกรามแล้วบดกรามอีก
ถึงแม้ชายหนุ่มจะดุด่า กระแทกแดกดันด้วยถ้อยคำชวนให้เจ็บปวดหัวใจ คาร่าก็เลือกที่จะอดกลั้น และปั้นหน้ารับอย่างไม่รู้สึกรู้สา เพราะอย่างน้อยในช่วงเวลาที่เขาดุด่าว่ากล่าวและขับไล่ไสส่งอย่างไม่เกรงใจ ความสนใจทั้งหมดของเขาก็ตกอยู่ที่เธอแต่เพียงผู้เดียว
“เฮอะ…ที่แท้ก็อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่ไม่มีใครเอา เลยคิดจะมาจับฉัน มันไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอแม่คุณ” รอยหยันปรากฏขึ้นทั้งในดวงตาและริมฝีปาก
ฉาด!!!
นี่เป็นครั้งที่สองที่คาร่ากล้าที่จะตอบแทนวาจาดูแคลนด้วยฝ่ามือของตัวเอง เธอไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ใช้วิธีนี้โต้ตอบเขา ความเจ็บจากลูกตบเพียงน้อยนิดที่เขาได้รับจากเธอ มันเทียบกันไม่ได้เลยกับถ้อยคำอันร้ายกาจจากเขาที่สาดซัดใส่อย่างไม่คิดจะผ่อนปรน
