บทที่ 2 ตอนที่ 2
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองรูปถ่ายใบเล็กในมือใหญ่สีแทนของตัวเองนิ่ง คิ้วสีเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเคลือบแคลง ผู้หญิงคนที่เขาเห็นเมื่อตอนบ่าย... ที่โรงแรมทำไมถึงได้ดูสวยสดและดูดีกว่าในรูปมากมายนัก ทั้งๆ ที่เป็นคนๆ เดียวกันแท้ๆ ผู้หญิงคนเดียวกันที่มองยังไงก็ไม่เหมือนกันสักนิด
เฮ้อ...
เสียงถอนใจถูกปลดปล่อยออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบสีสดแรงๆ พร้อมๆ กับรูปถ่ายในมือปลิวร่วงหล่นลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า ใกล้ๆ กับแก้วใบสวยและขวดเหล้า เดนนิสหรี่ตามอง แต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจมันอีก นอกจากลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานใส ทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงประเทศอื่นเลยแม้แต่น้อยสะท้อนเข้ามาในสายตา กรามแกร่งที่ตอนนี้เขียวครึ้มไปด้วยไรหนวดขบกันแน่น
จะยังไงก็ช่าง... ในเมื่อแองเจลล่า โรเจอริโอ เดินเข้ามาหากับดักที่เขาวางล่อเอาไว้แล้ว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้เจ้าหล่อนหลุดลอยออกไปจากอุ้งมือโดยไม่ขยี้ให้แหลกอย่างเด็ดขาด เจ้ามาร์คอส โรเจอริโอ มันจะต้องได้ลิ้มรสของการถูกลูบคมจนถึงแก่นเลยทีเดียว
รอยยิ้มร้ายกาจผุดพรายขึ้นที่มุมปากหยักสวยของเดนนิส โอซิลอย่างมหาศาล สมองอันชาญฉลาดที่ได้รับฉายาว่าบิลเกตต์สองเต็มเอี๊ยดไปด้วยแผนการลากแม่แองจี้น้องสาวสุดที่รักของศัตรูมาขยี้ให้แหลกคามือ
“ต่อให้มีปีก... ก็หนีฉันไม่พ้นหรอกแองจี้...”
คนตัวโตที่ภายในร่างกายนั้นอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหนั่นละสายตาจากภาพงดงามในยามราตรีของมหานครตรงหน้า เดินกลับมาภายในห้องรับแขกกว้างบนเพ้นเฮ้าส์ราคาแพงระยับของตัวเอง มือใหญ่ที่ตั้งใจจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม แต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะชายหนุ่มหันเหไปให้ความสนใจกับขวดเหล้าแทน
เดนนิสยกขวดเหล้าราคาแสนแพงขึ้นเทกรอกลงไปในลำคอจนพร่องไปกว่าครึ่งขวด จากนั้นจึงวางมันลง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลตอนนี้มืดดำไม่ผิดจากคืนเดือนดับเลยแม้แต่นิดเดียววาววับน่ากลัว
“พรุ่งนี้เราจะได้พบกัน แองเจลล่า โรเจอริโอ...”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อปานเทพของเดนนิส โอซิลมากมายนัก และมันก็บอกให้รู้ว่าเขาไม่มีทางรามือแน่หากศัตรูคู่อาฆาตไม่พินาศย่อยยับไปต่อหน้า
“นางฟ้าของไอ้มาร์คอส...”
นาริกาถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงเคาะประตูเบาๆ ที่หน้าห้องสวีทบนโรงแรมหรู หญิงสาวในชุดนอนขาวสะอาดราคาแพงระยับผุดลุกขึ้นนั่ง มือบางยกขึ้นขยี้ดวงตาสีดำขลับของตัวเองอย่างงัวเงีย สมองยังไม่ตื่นตัวนักขณะจ้องมองแขกผู้มาเยือนแต่เช้าตรู่
สาวใช้คนแรกเดินเข้ามาพร้อมๆ กับอ่างล้างหน้า ส่วนอีกสองคนเดินตามหลังมาในมือมีชุดสวยที่ถูกห่อเอาไว้อย่างดีและตะกร้าสานใบเล็กที่หล่อนเดาได้ไม่ยากว่าข้างในเต็มไปด้วยอุปกรณ์แต่งหน้ามากชิ้นอยู่ในนั้น ทุกคนก้มหน้าทำความเคารพให้กับหล่อน แสดงกริยานอบน้อมเหมือนกับที่หล่อนเคยแสดงกับแองเจลล่าตัวจริงไม่มีผิดเพี้ยน
“เอ่อ...”
“คุณแองจี้ต้องแต่งตัว และเตรียมตัวลงไปเดินข้างล่างได้แล้วค่ะ สายของเรารายงานมาว่าเดนนิส โอซิลกำลังเดินทางมาที่นี่...”
แม้ว่าจะอยู่ในห้องหับอันรโหฐาน แต่สาวใช้ตรงหน้าที่รู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้เป็นอย่างดีก็ยังไม่วายเรียกชื่อหล่อนว่าแองจี้ทุกคำ คงเป็นเพราะมาร์คอสกำชับมาล่ะมั้ง
นาริกาถอนใจยาวๆ ขณะค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงนอน สาวใช้สองคนที่อยู่ด้านหลังรีบวางข้าวของในมือและช่วยมาประคองหล่อน
“ไม่ต้องช่วยก็ได้ค่ะ ริก้า... ทำเองได้”
“แองจี้...” หัวหน้าสาวใช้นามว่าวาเลนเน้นเสียงดุ มองหล่อนอย่างตำหนิ จนหญิงสาวต้องรีบแก้ตัวอีกครั้งด้วยความลนลาน
“แองจี้... เดินเองได้...”
“ไม่ได้หรอกค่ะ พวกเราจะต้องทำทุกอย่างเหมือนกับคุณแองจี้คือเจ้านายจริงๆ เพราะหากเรื่องนี้เกิดผิดพลาดขึ้นมา พวกเราจะรับไม่ไหว และพวกเราต้องตกงานแน่หากถูกเดนนิส โอซิลจับได้ว่าคุณคือแองจี้ตัวปลอม”
นี่คือคำพูดสุดท้ายของบรรดาสาวใช้สองคนที่ประคองหล่อนมาส่งที่หน้าห้องน้ำ นาริกาพ่นลมออกจากปากอีกครั้งเมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลงและตัวเองได้อยู่ตามลำพัง
สมองใคร่ครวญต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างหนัก และก็มองเห็นหายนะของตัวเองเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ใบหน้างามซีดเผือดเมื่อในหัวอัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัว มือบางรีบปลดชุดนอนเนื้อบางเบาออกจากกาย จากนั้นก็เดินไปหยุดใต้ฝักบัวขนาดใหญ่ ละอองน้ำกระเซ็นใส่ตลอดทั้งร่างเมื่อหล่อนหมุนมันให้เปิดออก ความเย็นของน้ำทำให้ร่างบางสะท้านยะเยือก แต่กระนั้นมันก็ยังไม่สาหัสเท่ากับความเย็นชาที่ผู้ชายไร้หัวใจ ดุกระด้างอย่างเดนนิส โอซิลจะโยนใส่หน้าหล่อน ยามเมื่อรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางของมาร์คอสจนไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้
หล่อนไม่อยากทำ...
แต่ไม่มีทางเลือก...
