บทที่ 7 บทที่ 6
บทที่ 6
“ไม่ว่าจะคุณหรือผู้หญิงคนนั้น! ก็ไม่มีสิทธิในชีวิตหนู!!” ร่างเล็กวิ่งขึ้นชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเขาจะได้ยินเสียงปิดประตูดังโครม
พิณะนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองสักพัก...ริมฝีปากหยักยกยิ้ม ก่อนจะสั่งให้ทินไปเปิดไวน์ดีๆ มาสักขวด
“ได้หรอครับ...” ทินหมายถึงว่าไวน์ตรงนั้นเปิดได้หรอ?
“ได้...ปกติธาวิชไม่ใช่คนหวงของอะไร”
แก้วทรงสูงสีใสด้านในมีไวน์แดงรสชาติดีอยู่ครึ่งแก้ว มือหนาจับก้านแก้วและควงวนมันนานนับนาที ไฟในห้องโถงสลัวลงตามช่วงเวลาที่ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว ดวงตาคมจ้องมองแก้วไวน์ที่ถูกรินเทไว้ตรงหน้าอีกใบ…
“ผมเกลียดพี่ก็จริงอยู่...แต่ก็ไม่เคยคิดว่าพี่จะมามีจุดจบแบบนี้” มือหนาเอื้อมไปชนแก้วไวน์ตรงหน้า ก่อนจะกระดกเข้าปากจนหมดแก้ว
“พี่จะกลับมาทำไม...ไม่ได้ติดต่อกันเป็นสิบๆ ปี” เขาหัวเราะออกมาและมองตรงไปที่โซฟาข้างหน้า...ไม่มีแม้ใครสักคนจะอยู่ในห้องโถงรับแขกนี้นอกจากเขา
“ตอนผมเจอพี่เมื่ออาทิตย์ก่อน...ผมทั้งดีใจ และเสียใจ แม้มันจะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว ผมก็ยังคงเสียใจที่พี่ทำกับผมแบบนั้นพี่วิช...” ไวน์แดงในขวดถูกรินลงแก้ว...แก้วแล้ว แก้วเล่า
“แต่ผมก็ดีใจนะ ที่ได้เห็นชีวิตพี่เป็นแบบนี้...พี่คงจะนอนตายตาไม่หลับ เหมือนผมที่กินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเดือนๆ” ดวงตาคมหลับตาลงและทิ้งศีรษะลงกับพนักพิงด้านหลัง และหัวเราะออกมาราวกับมีความสุขนักหนา และหางตากลับมีน้ำตาไหลออกมา
#2 อาทิตย์ก่อนเกิดเหตุ
‘มาอีกแล้วครับพ่อเลี้ยง’ เป็นทินที่เดินมาบอกว่าคนที่เขาเกลียดที่สุดมาขอพบ
‘ไล่มันกลับไป!’
‘ผมอยากให้พ่อเลี้ยงลองคุยกับคุณธาวิชดู...เขามีเรื่องเดือดร้อนที่พ่อเลี้ยงเท่านั้นจะช่วยได้’ ริมฝีปากหยักยกยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าธาวิชมันกำลังมีปัญหาอะไร ชีวิตมันแขวนไว้บนเส้นด้าย...อิทธิพลมืดกำลังจะกลืนกินมัน หากมันไม่เปลี่ยนจุดที่มันยืน! หรือถ้าเปลี่ยนก็คงไม่ทันแล้ว!
‘ขอบคุณที่ให้เขาพบนะณะ’ หลังจากยืนตากแดดไปชั่วโมง พิณะ รุ่นน้องที่เคยรักกันตายแทนกันได้ ก็ยอมให้เขาที่เป็นพี่ชายที่เฮงซวยเข้าพบ
ไม่เหลือเค้าโครงเดิมของเด็กชายนักกีฬาขี้ก้างอีกแล้ว มีเพียงร่างสูงใหญ่ของผู้ชายวัยกลางคน...ไม่เจอกัน 20 ปี เขาเปลี่ยนไป ดูดี น่าเกรงขาม สมคำร่ำลือ…
‘กูไม่ใช่เพื่อนมึง...อย่ามาเรียกกูสนิทแบบนั้น’ ธาวิชได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
‘มีอะไรก็พูดมา! กูไม่ได้มีเวลามาสุงสิงกับคนแบบมึง!’ เขาบอกเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น...มันอาจจะจริง ความโกรธเคืองที่มีต่อธาวิชน้อยลงแล้ว แต่กับผู้หญิงคนนั้นยังคงมากล้นเช่นเดิม
ยิ่งรู้ว่าเธอคลอดลูก และพอปางไม้ธาวิชมีปัญหา เธอก็ทอดทิ้งลูกสาววัยแบเบาะไป และปล่อยให้ธาวิชเลี้ยงลูกคนเดียว เพราะเธอไปเจอสามีชาวฝรั่งเศส และย้ายไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่มดลูกยังไม่เข้าอู่ดี และไม่เคยกลับมาอีกเลย จน 1 ปี ให้หลังนี้...
‘กูรู้ว่ากูทำผิดกับมึงมากมาย...และมันอาจจะสายไป หากกูจะมาขอโทษมึงตอนนี้’ พิณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน มองคนที่เอ่ยพูดประโยคนั้นตรงหน้าด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ขอโทษงั้นหรอ?
‘กูไม่เคยมีความสุขเลย...และเสียใจ ที่เสียน้องและเพื่อนที่ดีอย่างมึงไป กูเสียใจจนถึงทุกวันนี้นะณะ’
‘แล้วยังไงวะ?’ พิณะถามเสียงขึ้นจมูก! ธาวิชกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น
‘กูกำลังจะตาย...กูคิดว่ากูคงอยู่ได้อีกไม่นาน’
‘หึ! ถ้ามึงจะอ้อมโลกไม่พูดออกมาสักที! มึงก็ไสหัวไปซะ! กูรำคาญ!!’
‘กูมีลูกสาวคนเดียว...หากกูเป็นอะไรไป ฝากมึงดูแลเธอได้ไหมณะ’ พิณะยกยิ้ม และหัวเราะออกมา มือหนาหมุนปากกาหมึกซึมในมือเล่น
‘ไปฝากคนอื่นเถอะ!’ เขาตัดร่อนอย่างไม่เหลือเยื่อใย
‘กูไว้ใจมึงแค่คนเดียว...มึงคนเดียวที่จะปกป้องลูกกูได้’
‘มั่นใจอะไรขนาดนั้น...กูอาจจะเอาลูกมึงส่งขายต่างประเทศก็ได้ ได้ข่าวว่าทั้งสวยและขาวเลยนิ...เลี้ยงดูอย่างกับไข่ในหิน ผู้ชายสักคนก็ไม่เคยให้เขาใกล้ เก็บเธอไว้อยู่แต่ในบ้าน’
‘..........’ พิณะสืบเรื่องเขามาหมดแล้ว
‘ณะ...กูขอร้อง กูไม่มีใครแล้ว มึงก็รู้ไอ่เดชมันไม่ปล่อยกูไปแน่! มันจะเอาปางกู...และทั้งลำพูนไม่มีใครช่วยกูเลย ตัวกูตายกูก็ไม่เสียดายหรอก ห่วงก็แต่แก้วตา’ ธาวิชเอ่ยอย่างร้อนใจ ล่าสุดที่โดนขู่ฆ่า คือถ้าไม่ยอมเปิดทางให้มันได้ตัดไม้เถื่อนมันจะฆ่าเขาและเอาแก้วตาไปทำเมีย!
‘ทางสีขาวมันก็แบบนี้...มึงก็กินอุดมการณ์มึงไปสิ ทีงี้จะมาขอให้กูช่วย ตอนแย่งผู้หญิงกูไป สนใจหัวกระบาลกูที่ไหน!’ มือหนาทุบลงโต๊ะเสียงดังลั่น!
‘เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว ลืมมันไปซะทีได้ไหม แล้วมึงดูสิ...เป็นบุญของมึงไหม ถ้าวันนั้นมึงได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ป่านนี้คนที่เสียใจคงเป็นมึงแล้วไม่ใช่กู!’
‘นี่กูต้องขอบใจมึงไหม!! แย่งแฟนกูไป หายหัวไปเป็นสิบๆ ปี ตอนนี้ไม่มีที่พึ่งมาขอให้กูช่วย...ช่วยดูแลลูกมึงกับแฟนเก่ากูเนี่ยนะ!! ใจมึงมันได้จริงๆ’ เขาหยัดตัวลุกขึ้นและเท้าเอวอย่างเดือดดาล!
‘มึงรู้ไหมตอนนี้กูคิดอะไร? กูอยากจะระเบิดสมองมึงให้กระจุย!’ อาวุธปืนสีดำขนาดเล็กจ่อเข้าที่กลางศีรษะธาวิช
‘กูเคยช่วยชีวิตมึง...มึงลืมหรอ! งั้นกูขอทวงบุญคุณที่เคยช่วยมึงตอนจมน้ำ...ถ้าไม่มีกู! มึงจะได้มายืนเอาปืนเล็งกระบาลกูแบบนี้ไหม!’ เขาลุกขึ้นทั้งที่ปืนจ่อหัวอยู่แบบนั้น! ถ้าหากพิณะจะฆ่าเขาจริง คงฆ่าตั้งแต่ 20 ปี ที่แล้ว ไม่รอจนถึงวันนี้!
‘ก็เพราะบุญคุณไง! กูถึงไม่ฆ่ามึงและปล่อยมึงไว้เป็นสิบๆ ปี!’
‘กูยกทั้งปางให้เลย ไม่เอาหรอ! กูมีชีวิตอยู่อีกไม่นานหรอกณะ...ขอร้องล่ะ ดูแลแก้วตาให้หน่อย อาทิตย์หน้ากูจะส่งเธอมา อย่างน้อยก็เห็นแก่วันดีๆ ที่เรามีให้กันได้ไหม!’
‘ถ้ามึงจะเอาคำว่าบุญคุณมาแลกกัน! ได้! แต่มึงตายไปมึงคงนอนตายตาไม่หลับหรอก!!’
‘พิณะ’ มอง ‘ธาวิช’ เพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นสิบๆ ปี มันเป็นพ่อเลี้ยงลำพูน เขาพ่อเลี้ยงเชียงราย รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เราสนิทกันมาก กินนอนอยู่ด้วยกัน แต่เหตุผลที่เราต่างแยกย้ายไปคนละทางก็คือเรื่องผู้หญิง...มันแย่งแฟนเขาไป
‘กูขอร้อง...และขอโทษกับทุกสิ่งที่ผ่านมา’ ร่างสูงของธาวิชคุกเข่าลงตรงหน้าเขา พิณะมองมันที่ก้มหน้านิ่ง สองมือยกขึ้นพนมกลางอกและไหว้เขาค้างอยู่แบบนั้น...
‘ขอร้องเถอะณะ...คนเดียวที่กูไว้ใจคือมึงนะ ถ้าหากให้แก้วตาไปอยู่กับแม่เธอ กูไม่รู้ว่าแก้วตาจะต้องเจออะไรบ้าง’ ธาวิชเอ่ยออกมาเสียงสั่น ก่อนจะเงยหน้าสบตากับอดีตเพื่อนรักอย่างขอร้อง
‘เอารูปลูกสาวมาดูสิ...ถ้าน่ารักถูกใจ กูอาจจะรับไว้ดูแล’ ริมฝีปากหยักยกยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นน้ำตาสีใสไหลออกจากดวงตาธาวิช เขาสะใจที่สุดท้ายมันก็ต้องคลานเข้ามาขอโทษเขา!
ธาวิชเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะล้วงหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องหรูในกระเป๋ากางเกง และส่งให้กับพิณะที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงหน้า เขาไม่มีทางเลือกแล้ว
‘..........’ ดวงตาคมจ้องมองภาพที่อยู่ในมือถือ ใจเขากระตุกวูบ เมื่อเจอสายตาและรอยยิ้มของคนในโทรศัพท์ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือคืนคนที่นั่งอยู่ที่พื้นไป
‘น่ารักดี...’
‘สัญญาว่าก่อนว่าจะปกป้องแก้วตา ให้เธอได้กินอิ่ม นอนหลับ ได้มีการศึกษาที่ดี...’
‘ก็ต้องดูว่าเธอจะทำให้กูถูกใจรึเปล่า’ ร่างสูงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม ก่อนจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องเข้ามา
‘กูยังไม่ตัดสินใจ...แต่มึงจะส่งลูกสาวมาให้กูเช็คของก่อนก็ได้กูไม่ติด..20 กับ 40 กำลังดีเลย’ พิณะหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน!
ธาวิชกัดกรามแน่น! เขาไม่มีที่พึ่งและรู้ดีว่าพิณะ แค่พูดไปแบบนั้นตามนิสัยของมัน แต่เขาก็ไม่คิดว่าพิณะจะใจแข็งแบบนี้! และการที่เขายอมคุกเข่าขนาดนี้ พิณะยังขอเวลาคิดอีก!!
‘ถ้ากูตายไป...ถือว่าชีวิตแลกชีวิต ฝากแก้วตาด้วย’
ธาวิชเดินจากไปแล้ว...แต่พิณะยังคงถือแก้วไวน์และมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง...ไร่ชาฉุยฟงที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
เขามันพวกผูกใจเจ็บ...
เจ็บนี้มันลึกกกก ลึกกกลงกลางใจ
ใจบางมากกก พ่อเลี้ยงงง มาเลี้ยงหนูกะได้ค่าาา
