บทที่ 2 ภูตสวาท บทที่ 2
“โอ...เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่”
ชิรินกล่าวกับตัวเองก่อนหยิบขนนกที่สะท้อนประกายสีทองแวววาวบนพื้นขึ้นมาดู ร่างเล็กเลื่อนกล่องที่อยู่ใต้เตียงออกมาแล้วเปิดมันออกเพื่อจะวางขนนกอันนั้นรวมกับขนนกขนาดเท่า ๆ กันอีกหลายสิบอันไว้ในกล่องแล้วปิดมันไว้
จำนวนขนนกที่เธอเก็บเอาไว้เท่ากับจำนวนความฝันของเธอที่ได้เจอ...เขา
เขา...คือใครกัน
บทที่ 2
00.0 นาฬิกา ณ ร้านสะดวกซื้อ Dailly Mart
“ไม่ทราบว่าต้องการอะไรคะ?”
ชิรินเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนเคาน์เตอร์พร้อมทั้งเอ่ยถามร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีเข้มและสวมหมวกแก๊ปที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อตอนกลางดึก
“ไม่ทราบว่า...”
“ฉันอยากได้น้ำสักขวด”
เสียงนั้นตอบกลับมาโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยถามครั้งที่สองจบประโยค ชิรินยิ้มให้และเดินไปที่ตู้แช่ซึ่งอยู่ใกล้กัน เปิดประตูตู้แช่ออกและหยิบขวดน้ำแร่มาให้ชายหนุ่มแปลกหน้า เขาเลิกปีกด้านหน้าของหมวกแก๊ปขึ้นเล็กน้อยทำให้ชิรินเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนมากขึ้น
หญิงสาววัยยี่สิบซึ่งเป็นพนักงานกะดึกในร้านสะดวกซื้อชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นโครงหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่เข้ามาในร้านเพียงลำพังตอนกลางดึก โดยเฉพาะนัยน์ตาสีอำพันราวกับมีประกายสีทองฉาดฉายอยู่ภายในนั้น ชิรินบอกตัวเองว่าเธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นดวงตาคู่นี้จากที่ไหนมาก่อนทว่าก็นึกไม่ออก
มันเป็นดวงตาสดใสงดงามและทรงพลังราวกับมีมนต์สะกดตรึงเธอให้หยุดนิ่งไปชั่วครู่ แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องรีบดึงสติกลับคืนมาเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกไปจากร้าน
“เอ้อ...คุณคะ...คุณยังไม่ได้จ่ายเงินเลยนะคะ”
เขาหันกลับมาและทำสีหน้าประหลาดใจ “เงินหรือ?”
“ค่ะ...ใช่...คุณซื้อของคุณก็ต้องจ่ายเงินซีคะ”
“มันคือของแลกเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ?”
คำถามประหลาด ๆ นั้นทำเอาชิรินก็พลอยมึนงงตามไปด้วย หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน เขาเป็นคนหน้าตาดีก็จริงแต่เธอไม่แน่ใจในพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ เธอแค่ทำหน้าที่ของพนักงานอย่างถูกต้องเท่านั้น
“ก็...ใช่น่ะสิคะ คุณต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนถ้าจะเอาของในร้านนี่ออกไป”
เขาหันรีหันขวางก่อนหันมาจ้องหน้าพนักงานสาว “ผมไม่มีของที่คุณว่ามา มันคืออะไร”
ชิรินลืมเรื่องที่เธอรู้สึกคุ้นเคยกับบุรุษหนุ่มผู้นี้ไปเสียถนัดใจ ถ้าเขาไม่บ้าก็คงเพิ่งหลุดออกมาจากป่าดึกดำบรรพ์แน่ ๆ ชิรินคิด
“นี่ไงคะ...เงินน่ะ...มันมีลักษณะแบบนี้ไง”
หญิงสาวคลี่ธนบัตรดอลล่าห์ให้เขาดูแต่บชายหนุ่มก็ยังทำสีหน้ามึนงง
นี่มันมหานครนิวยอร์คนะ...ผู้ชายคนนี้อยู่ในเมืองนี้ได้อย่างไรถึงไม่รู้ว่าคนที่นี่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงิน
“โอเคค่ะ...ถ้าคุณไม่มี”
ชิรินรีบตัดบทเพราะเมื่อเหลือบมองนาฬิกามันเป็นเวลาเลยเที่ยงคืนมาเล็กน้อยแถมในร้านก็ไม่มีใครสักคน นอกจากเธอและ...ผู้ชายที่เหมือนหลุดออกมาจากป่าดึกดำบรรพ์คนนี้ คงจะดีกว่าถ้าเธอจะแก้ปัญหาด้วยการบอกเขาว่า
“โอเคค่ะ...ฉันให้คุณ น้ำแร่ขวดนี้ ฉันจะเป็นคนจ่ายเงินให้คุณเอง”
ชิรินเริ่มเกิดความประหม่าขึ้นมาเอง หญิงสาวบอกไม่ถูกว่าทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นแรงยามที่ดวงตาสีอำพันประกายทองแดงเจิดจ้าคู่นั้นจับจ้องมายังเธอ มันทำให้หญิงสาวหวั่นหวามอย่างประหลาดทั้งที่เพิ่งได้เจอเขาครั้งแรก แต่ชิรินก็ต้องรีบแก้ปัญหาเพราะเธอเองก็ชักไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาจะเป็นคนดีหรือร้าย ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีเงียบไปชั่วอึดใจก่อนเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์
“ขอบใจมาก”
เขาคลี่รอยยิ้มบนใบหน้าคมเข้มก่อนจะเดินกลับออกไปจากร้านสะดวกซื้อ ชิรินซึ่งเมื่อครู่เผลอกำมือตัวเองแน่นชะเง้อมองตามกระทั่งเขาหายลับไป
“แปลกคน”
หญิงสาวพูดกับตัวเองแต่กลิ่นกายและใบหน้าของเขายังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของหญิงสาวอย่างแปลกประหลาด เขาเหมือนใครคนหนึ่ง แต่ชิรินนึกไม่ออกว่าเป็นใคร
เขาอาจมาจากรัฐอื่น อาจมาจากหมู่บ้านในชนบทไม่เคยเข้ามาเมืองหลวง หรือถ้าไม่ใช่ ชิรินไม่กล้าคิดว่าเขาอาจเป็นคนโรคจิตประสาทไม่สมประกอบ แต่ท่าทาง รูปร่างหน้าตาดึงดูดและมีเสน่ห์นั้นไม่ได้บ่งบอกว่าเขาเป็นคนประเภทนั้น
ชิรินยังคงปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานร้านสะดวกซื้อกะดึกต่อไปจนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาตีสี่ หลังจากที่มีเพื่อนพนักงานมารับช่วงต่อหญิงสาวจึงรีบสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กและเดินกลับไปยังที่พักซึ่งอยู่ห่างจากร้านไปหลายช่วงตึก
เหตุผลที่เธอไม่เรียกแท็กซี่น่ะหรือ...ก็เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะหญิงสาวที่เดินทางมาจากเมืองไทยอาศัยอยู่ในมหานครใหญ่นี้เพียงลำพัง เธอมีภาระที่ต้องใช้จ่ายจิปาถะ ทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟและค่าอาหาร
เจ้าของร่างเล็กบางเดินไปตามเส้นทางที่เธอเดินอยู่ทุกวัน ซึ่งช่วงเวลาตีสี่ดูเหมือนจะเปลี่ยวเหงาไปบ้างแต่ชิรินก็เร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงที่พักไว ๆ หญิงสาวเดินไปอย่างเร่งรีบแต่ก็เริ่มมีบางอย่างผิดสังเกตเมื่อเธอรู้สึกว่ากำลังมีใครคนหนึ่งกำลังเดินตามเธอมา
