บทที่ 2 2

ผ้าถูกฉีกร่น ก่อนจะยีผมที่เกล้าขึ้นอย่างสวยงามนั่นเล็กน้อยจนดูยุ่งๆ แล้วเข้าห้องน้ำ หยดน้ำใส่ตามดวงตาและแก้มของตัวเองจนชุ่มๆ พร้อมกลับขึ้นเตียงมานอนเคียงข้างร่างสูงใหญ่

มนสิชาใจเต้นตึกตัก ด้วยไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ได้แต่นอนตาแข็ง เกร็งไปทั้งตัวเพื่อพร้อมตั้งรับกับสถานการณ์ น้ำที่หล่อนหยอดใส่ตาก็พลอยเหือดแห้งเพราะเขายังไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาตื่นเลยแม้แต่น้อย

เมื่อไม่เห็นว่าเขาจะตื่นเสียที หญิงสาวจึงคลายความเครียดลงแล้วเผลอม่อยหลับไป มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนมือใหญ่ของใครคนหนึ่งเขย่าต้นแขนอย่างแรง

“ตื่น…ตื่นสิเว้ย”

เสียงเรียกและแรงเขย่าทำให้หล่อนลืมตาตื่น สิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกคือใบหน้าคมเข้มของผู้ชายวัย 29 ปี แม้หน้าจะหล่อเหลา ทว่าดวงตากลับฉายชัดถึงความไม่พอใจ

“ตื่นแล้วเรอะ รีบจัดเสื้อผ้าให้ดีแล้วไปจากบ้านผมซะ ผมจะบอกกับคู่นอนทุกครั้งว่าห้ามอยู่บนเตียงกับผมจนถึงเช้า และคุณก็ไม่ใช่คู่นอนของผม แต่กลับมานอนข้างผมทั้งคืน”

มนสิชาหน้าซีด แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่ยอมถอยง่ายๆ ยันกายลุกนั่งแล้วใช้ผ้าห่มคลุมช่วงอกเพื่อปิดบังชุดวับๆแวมๆนั่นให้รอดพ้นจากลูกตาคมวับที่กำลังจ้องมองมาอย่างเชือดเฉือน

“ทำไมจะไม่ใช่คู่นอน เมื่อคืนคุณหื่นแค่ไหน คุณลืมแล้วหรือคะ ?”

“ผมไม่เคยลืม ต่อให้เมาแค่ไหนก็จำทุกอย่างได้ เมื่อคืนผมจัดงานวันเกิดให้คุณแม่ คุณเป็นใคร ผมก็ไม่รู้จัก แต่คุณเป็นคนสวย คุณเข้ามาเสนอผมเอง ผมถึงยอมพาคุณเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันทำอะไรคุณ ผมก็หลับไปก่อน”

“ไม่จริง ! คุณพูดแบบปัดความผิดให้พ้นตัวชัดๆ” หญิงสาวตะโกนก้อง หยดน้ำใสรื้นคลอหน่วยตาคู่สวย “คุณไม่ได้หลับ”

“ผมหลับ…และสาเหตุที่ผมหลับก็คงเป็นเพราะคุณขาดเสน่ห์ ออกไปจากบ้านผมซะ” ชายหนุ่มไล่เสียงเครียด มองเมินไปทางอื่น แม้จะยอมรับว่าหล่อนมีเรือนร่างเย้ายวน และมีใบหน้าที่สะสวยดึงดูดเพศตรงข้าม ทว่าเขาไม่เคยคิดจะเชื่อใจผู้หญิง

ผู้หญิงทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน ขอเพียงมีความสะดวกสบายมอบให้หล่อน พวกหล่อนเหล่านั้นก็จะยินดีถวายให้เขาทุกสิ่งแม้กระทั่งความสาว แต่หากวันใดที่เขาไม่มีอะไรเหลือติดตัว ผู้หญิงที่เคยพร่ำว่ารักเขานักหนาก็จะตีจากอย่างไม่เหลียวแล

ประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาสอนให้เขาแกร่งกล้าและไม่คิดจะไว้ใจใครง่ายๆอีกต่อไป !

“ฉันเสียสาวให้คุณไปแล้ว คุณต้องรับผิดชอบฉัน อย่ามาปัดความรับผิดชอบแบบนี้นะ คุณเห็นแก่ตัวที่สุด”

เมื่อถูกกล่าวหาว่า‘เห็นแก่ตัว’ ชายหนุ่มก็ตาลุกวาว เขาจับไหล่บางสองข้างของหล่อนบีบอย่างแรง เสียงห้าวถามกระชากเหมือนไม่สบอารมณ์

“เสียสาวงั้นรึ ? คุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอไงว่าผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าๆอย่างคุณจะยังซิง อย่ามาหลอกผมซะให้ยาก อ้อ แล้วที่บอกจะให้ผมรับผิดชอบน่ะหมายความว่าไงมิทราบ”

มนสิชาปากสั่น กลัวเขาในตอนนี้ที่สุด แต่ความจำเป็นสะกดให้หล่อนต้องเชิดหน้าแล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้ราบเรียบที่สุด

“จ่ายฉันมา 5 แสน แล้วฉันจะไปจากชีวิตคุณ จะไม่เอาผิดคุณในเรื่องนี้”

“5 แสน !” ตาคู่คมเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจุดรอยยิ้มหยันตรงมุมปากได้รูป “อ้อ ที่แท้ก็หวังเงินนี่เอง  ความจริงเงิน 5 แสน ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอกครับ แต่ผมไม่อยากให้เงินผู้หญิงเห็นแก่ได้อย่างคุณ รู้ไว้ด้วยว่าผมจะไม่ให้คุณแม้แต่บาทเดียว ออกไปจากห้องนอนของผมซะ”

หญิงสาวหน้าเผือด ไม่คิดว่าเขาจะหัวแข็งเช่นนี้ แต่หล่อนก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เพราะได้กลั้นใจพูดออกไปว่า

“ถ้างั้นคุณก็ต้องให้ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ เลือกเอาว่าจะยอมแต่งงานกับฉันหรือจะจ่ายมา 5 แสนบาท ! ”

เขมปัจน์อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเหมือนเห็นเป็นเรื่องตลกมากกว่าจะเกรงกลัวในคำขู่นั้น เขาพ่นคำร้ายกาจใส่หน้าหล่อนว่า

“เป็นคำขู่ที่น่าขันที่สุดเท่าที่ผมเจอมา ฟังให้ดีนะคุณคนแปลกหน้า ผมจะไม่มีวันจ่ายเงินให้คุณสักแดง และก็จะไม่มีวันยอมให้คุณใช้นามสกุลร่วมกับผมด้วย”

ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันอย่างเคืองขุ่น แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ผิด กระนั้นหล่อนก็ไม่อาจทิ้งโอกาสนี้ไปได้ ด้วยเหตุจำเป็นที่บีบคั้นหัวใจทำให้หล่อนต้องทำทุกอย่างแม้จะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินก็ตาม

มือเล็กคว้าหมับที่มือใหญ่ซึ่งวางบนต้นไหล่ของหล่อนแล้วตะโกนเสียงดัง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป