บทที่ 2 2
ปัง ปัง
มุกระวียกมือปิดหู ตกใจสุดขีด ปล่อยกระเป๋าแล้ววิ่งไปหลบหลังสันทรายใกล้ๆ กับคนขับรถ ไม่นานเสียงรถจี๊ปก็ดังใกล้เข้ามาก่อนที่เครื่องยนต์จะหยุดลง
“เอาทรัพย์สินมีค่าของพวกมันออกมาให้หมด”
หัวหน้าโจรตะโกนบอกเป็นภาษาท้องถิ่น มุกระวีใจสั่นยกมือไหว้พนมขอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เธอมีชีวิตรอดกลับไปด้วยเถิด
“นี่คุณขับรถพาเรามาตายแท้ๆ ฉันไม่น่าซวยเลือกทัวร์ของคุณเลย” มุกระวีหวาดกลัวจนต่อว่าคนขับรถ พลางขดตัวให้เล็กลง เธอเห็นโจรไปค้นทรัพย์สินลูกทัวร์คนอื่นก็ยิ่งหวาดกลัว เดี๋ยวอีกสักพักต้องมาถึงตัวเธอแน่
“ผมขอโทษด้วย แต่ปกติพื้นที่ตรงนี้ไม่มีโจรทะเลทราย พวกมันถูกกวาดล้างไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นทางการไม่ให้เราพานักท่องเที่ยวมาทัวร์หรอกคุณ” คนขับยังมีแก่ใจอธิบาย ทั้งที่หวาดกลัวโจรเช่นกัน
“สรุปว่าฉันซวยเอง” มุกระวีอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เธอเห็นลูกทัวร์ที่มาด้วยกันตรงนั้นถูกโจรค้นเอากระเป๋าสตางค์ออกไปจนหมด จนกระทั่งมันเหลือบมาเห็นเธอเข้า
“ตรงนั้นยังมีอีกคน”
มุกระวีเบิกตาโต พวกมันกรูกันเข้ามาหาเธอ ไม่ทันที่จะวิ่งหนีก็ถูกพวกมันสามคนล้อมไว้ “นี่กระเป๋าสตางค์ของฉัน เอาไปเลย แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” มุกระวีโยนกระเป๋าสตางค์ไปให้แม้จะเสียดายเงินที่รวมๆ กันแล้วเกือบหมื่นหนึ่งแต่ตอนนี้ต้องเอาชีวิตรอดก่อน
“ฮ่าๆ ฉันไม่ได้อยากได้แค่เงินแล้ว แต่อยากได้ตัวของน้องสาวคนสวยไปด้วย” โจรคนหนึ่งที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น มันพูดเป็นภาษาท้องถิ่นที่มุกระวีฟังไม่ออก แต่เห็นแค่แววตาหิวกระหายกับท่าทางเอาลิ้นเลียริมฝีปากก็พอจะเดาได้ว่ามันต้องการอะไรจากเธอ
มุกระวีหวาดกลัวสุดขีด หมุนตัวออกวิ่งไปทางด้านหลังที่ไม่มีโจรดักทางไว้ แต่วิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็ถูกมือสากระคายกระชากแขนให้หมุนตัวกลับมา
กรี๊ด
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” มุกระวีดิ้นรน มือไม้ตบตีไปตามตัวโจร จนมันเขม็งมอง เพราะมือเล็กๆ ฟาดใส่ใบหน้าเข้าเต็มรัก
มันฟังภาษาของเธอไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ “หยุดดิ้นได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียเวลามาก ถ้ายอมเป็นเมียฉันดีๆ แล้วเธอจะมีชีวิตต่อไป” เสียงโจรบอกแล้วอุ้มร่างสาวสวยที่นานๆ จะตกถึงท้องขึ้นพาดบ่า ตั้งใจว่าจะหาความสุขสักประเดี๋ยว
“หัวหน้าครับ ผมว่าเราต้องรีบหนีแล้วนะครับ มันจะเสียเวลา” ลูกน้องคนหนึ่งปราดเข้ามาบอกหัวหน้าโจร แต่กลับถูกถีบจนล้มคว่ำ
“กูจะมีความสุขกับอีนังคนสวย อย่ามาขวางทาง มึงไปเฝ้าต้นทางไว้”
หัวหน้าโจรที่อดอยากปากแห้งมานานบอกลูกน้อง ก่อนจะหันมาสนใจสาวสวยที่อุ้มพาดบ่าไว้ “อีกเดี๋ยวฉันจะทำให้น้องสาวคนสวยไปทัวร์สวรรค์เองนะจ๊ะ” มันบอกเสียงหื่นกระหายแล้วโยนร่างของมุกระวีเข้าไปในรถ
มุกระวีกระถดตัวหนีด้วยความกลัว มองสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัดมันของมันอย่างรังเกียจ “ปล่อยฉันไปเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย”
ฉากนี้เธอเคยเห็นบ่อยในฉากละคร แต่เอาจริงๆ พอเกิดขึ้นในสถานการณ์จริงมันไม่สนุกเลย เพราะในละครพระเอกจะต้องโผล่เข้ามาในฉากนี้ แต่นี่ชีวิตจริงเธอจะถูกจับขึงพรืดกลางทะเลทรายอันร้อนระอุอย่างนี้เหรอ สวรรค์โหดร้ายกับสาวโสดอย่างเธอมากเกินไปแล้ว
“อย่าพูดมาก นอนลงไป” โจรร้ายสั่งเสียงเหี้ยม มันรู้ว่าต้องรีบหนีตำรวจที่จะตามมาอีกในไม่ช้า แต่ผู้หญิงคนนี้ก็สวยและหน้าอกใหญ่จนทำให้นึกอยากฟัดให้หนำใจเสียก่อนแล้วค่อยไป
หัวหน้าโจรตามไปคร่อมร่างมุกระวี แต่ถูกถีบออกมาจนล้มลง “แรงเยอะนักนะคนสวย”
ท่าทางกักขฬะของมันทำให้เธอนึกรังเกียจแล้วออกแรงดิ้น ผลักมันอย่างสุดแรง แต่ร่างกายของมันทั้งใหญ่และเหม็น เธอจึงเลือกถีบหน้ามัน
“โอ๊ย” เสียงเจ็บปวดร้องลั่น มันฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าสวยของมุกระวีจนหน้าหัน “นังตัวแสบ”
“รังแกผู้หญิง ไอ้ชั่ว” มุกระวีด่ากราดแต่โจรร้ายไม่ฟังเสียง มันถอดผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าเหี้ยมเกรียม มีหนวดเครารกครึ้ม มองดูน่ากลัว
“ปากเก่งใช่ไหม ฉันจะทำให้คนสวยหยุดพูดแล้วเอาแต่ร้องครางไม่หยุด”
“อย่านะ อย่าเข้ามา ปล่อยฉันไปเถอะ” มุกระวีพยายามกระถดตัวหนี แต่มือสากระคายไร้ความปรานีของโจรร้ายก็กระชากเธอเข้าไปหาแล้วกระตุกเสื้อผ้าเธอจนขาดวิ่น
กรี๊ด
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันเป็นกะเทยไม่ใช่ผู้หญิง”
มันชะงักไปครู่หนึ่ง เป็นจังหวะให้มุกระวีหายใจได้คล่องขึ้น
‘หรือมุกนี้จะได้ผล’
จากนั้นมันก็ไหวไหล่ “พูดอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่อง เธอต้องการให้พวกฉันมาสนุกกับเธอพร้อมๆ กันเลยเหรอ”
มุกระวีตกใจเมื่อท่าทีที่ชะงักไปไม่ได้ทำให้มันหยุด แต่โจรร้ายกำลังรุกคืบมา “แต่ขอฉันฟาดเธอให้อิ่มก่อนคนสวย จากนั้นเธอถึงจะได้ผัวคนต่อไป”
เสียงทุบรถดังปังติดๆ กันทำให้โจรร้ายที่กำลังกลัดมันหันไปมอง
“หัวหน้า ตำรวจมาแล้ว เราต้องรีบหนีแล้ว”
