บทที่ 8 Chapter 1 ผีรุ่นแรก [7]

“เมื่อกี้นี้ผมโดนท่านยมบาลจับมา ท่านบอกว่าจับดวงวิญญาณของผมมาผิด และผมมีเวลาแค่สิบวันในการหาวิธีกลับเข้าร่างของตัวเอง หมอคิดดูสิว่าจับผมมาผิดแล้วไม่คิดจะรับผิดชอบสักนิด แถมยังมีหน้ามาบอกว่าผมมีเวลาแค่สิบวัน บอกตรงๆ ว่าผมตกใจก็เกินสิบวันแล้ว”

ในที่สุดผมก็พูดออกไปจนหมด ทุกอย่างที่ผมเคยคิดเอาไว้พังทลายลงมาเพียงเพราะตอนนี้ผมคงไม่มีโอกาสได้กลับไปทำมันให้สำเร็จได้อีกแล้ว เมื่อกี้นี้แม้กระทั่งกอดแม่ของตัวเอง ผมยังทำไม่ได้เลย

“นายอยากทำอะไรก่อนตาย”

คำถามที่ได้ยินทำให้ผมรู้สึกโกรธจนแทบจะควันออกหู รีบหันขวับกลับไปมองคนถาม แต่แล้วก็ต้องแปลกใจอีกรอบเมื่ออยู่ๆ หมอก็นั่งลงข้างๆ ผม และยังคงยกมือขึ้นมาวางไว้บนบ่าของผมเหมือนเดิม

หมอนั่งเหยียดขายาวๆ ของตัวเองออกไปในท่าทีสบายๆ ต่างจากผมที่เอาแต่นั่งกอดเข่าตัวเองราวกับผีอมทุกข์

“ฉันถามว่านายอยากทำอะไรก่อนตาย”

“ผมตายไปแล้วนะหมอ ทำไมหมอถามอะไรไม่คิดเลย”

“นายตายไปแค่ครึ่งเดียว เพราะหัวใจของนายยังเต้นอยู่” หมอหันมาบอกผมอย่างนั้น

ถึงมันจะจริงอย่างที่หมอบอกว่าหัวใจของผมยังเต้นอยู่ แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ได้ต่างกันเลยในเมื่อการที่ผมเร่ร่อนอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้ต่างจากคนที่ตายไปแล้วอยู่ดี

ผมหยิบจับอะไรไม่ได้ ไม่มีใครมองเห็นผม พูดกับใครก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครได้ยิน แบบนี้มันจะต่างจากคนที่ตายไปแล้วจริงๆ ตรงไหน

“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะทำอะไรก็ได้ที่ฉันอยากจะทำ”

“ผมอยากกลับเข้าร่าง” ผมตอบแบบไม่คิด เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่ผมต้องการในตอนนี้

“ฉันหมายถึงฉันจะทำอะไรก็ได้ที่ตอนมีชีวิตอยู่...ฉันทำไม่ได้ หรือว่ายังไม่มีโอกาสได้ทำต่างหาก”

“ผมอยากทำหลายอย่าง แต่ว่าผมบอกหมอแล้วไงว่าผมมีเวลาแค่สิบวัน แค่ให้หายตกใจผมยังทำไม่ได้เลย” ผมประชดแล้วนั่งห่อไหล่หมดอาลัยตายอยาก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยสิ้นหวังมาก่อนแบบนี้ในชีวิตเลยจริงๆ

“อ้าวหมอ จะกลับแล้วเหรอ”

“แล้วนายจะให้ฉันอยู่กับผีไม่มีสมองแบบนายทำไม” หมอด่าผมทำไม?

“ถ้าอยากจะนั่งรอความตายก็เรื่องของนายเถอะ เวลาของฉันมีค่ามากกว่าจะมานั่งสมเพชผีแบบนาย วันๆ ฉันเห็นคนตายมาเยอะ แต่ไม่เคยเห็นใครนั่งรอความตายแบบนายสักคน”

ผมทำได้แค่นั่งนิ่งเมื่อโดนหมอด่าด้วยภาษาสุภาพแต่บาดลึก ผมไม่ได้โง่จนไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่หมอพูดหรอก แต่ผมแค่ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ตอนนี้ผมต้องนอนมั้ย ต้องกินอาหารหรือว่าขับถ่ายรึเปล่า

โถ~~ ชีวิตผีฝึกหัดที่น่าสงสาร

“หมอ!”

แล้วผมก็ตัดสินใจเรียกหมอเอาไว้เพราะถ้าช้ากว่านี้หมอคงเปิดประตูเดินหนีผมไปอีก ใจดำชะมัด ไม่คิดจะง้อผีแบบผมบ้างรึไง

“หมอจะช่วยผมใช่มั้ย”

“ปกติแล้วฉันช่วยแต่คน”

“แปลว่าผมเป็นผีรุ่นแรกที่หมอจะช่วย”

ผมรีบพูดเองเออเองแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะรีบเดินตามหมอมาที่หน้าประตูห้องโดยไม่รอให้หมอปฏิเสธ อย่างน้อยการที่หมอเดินกลับมาหาผมก็แปลว่าหมอต้องสงสารผมบ้างล่ะน่า

“ถ้าก่อเรื่องอีก นายจะได้เปลี่ยนจากเจอหมอคนเป็นเจอหมอผีแน่”

“ผมสัญญาว่าผมจะเป็นผีเด็กดี น่าร้ากกก น่ารัก”

ผมรีบยิ้มอ้อน สรุปว่าอย่างน้อยสิบวันที่เหลือของผมๆ ก็ยังมีหมอให้พูดคุยด้วย ดีกว่าอมน้ำลายจนบูดเพราะพูดกับใครไม่ได้เลยก็แล้วกัน ^^

บทก่อนหน้า
บทถัดไป