บทที่ 19 EP 03 เป็นพี่เป็นน้อง [1]
“อยากกินอะไรก็สั่งเลยแล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจ”
“ผมเคยเป็นคนดีแบบนั้นด้วยเหรอครับ” ผมถามยิ้มๆ ก่อนจะก้มมองรายการอาหารในเมนูที่ถืออยู่ในมือ พร้อมกับที่ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบวนที่ท้องเพราะกำลังรู้สึกหิวพอดี
นี่เกือบจะบ่ายสองโมงแล้วแต่ผมยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย จริงๆ เมื่อครู่นี้พวกพี่ๆ เขาก็ถามผมอยู่หรอกนะว่าหิวหรือว่าอยากกินอะไรก่อนรึเปล่า เขาจะสั่งมาเลี้ยงแต่ผมอยากทำงานให้เสร็จก่อน ผมมีนัดสำคัญที่ไม่อยากผิดเวลาและไม่อยากให้เขาต้องมารอนาน
“ข้าวผัดทะเลกับปีกไก่ทอดเกลือครับ” แล้วผมก็เลือกสั่งเมนูง่ายๆ เพราะหิวมาก ไม่อยากเสียเวลารออะไรที่ต้องใช้เวลาทำนานหรอก
“เครื่องดื่มรับเป็นน้ำอะไรดีคะ”
“เอาเป็น...”
“น้ำเปล่าครับ”
ผู้ชายตรงหน้าสั่งแทนผมเสร็จสรรพ ผมที่กำลังจะอ้าปากสั่งน้ำอัดลมเย็นๆ มาดื่มให้ชื่นใจสักหน่อยเลยได้แต่ยิ้มแห้งแล้วปิดเมนูในมือลงอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะส่งเมนูคืนให้กับพนักงานไปแต่โดยดี
เฮ้อ น้ำเปล่าก็น้ำเปล่าสิ
“แล้วพี่จะไม่สั่งอะไรมากินสักหน่อยเหรอครับ ถึงผมจะรู้ว่าพี่คงกินมื้อเที่ยงตรงเวลาแต่ถ้าให้ผมนั่งกินคนเดียวผมก็เขินแย่”
“พี่น้องกันมีอะไรต้องเขิน” เขาว่ายิ้มๆ ผมไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่คิดจะใส่ใจ แม้จะไม่ได้สบายใจนักกับคำว่าพี่น้องที่เขาพูดออกมาอย่างตั้งใจจะย้ำก็ตาม
“ตกลงว่าพี่มีอะไรอยากจะพูดกับผมงั้นเหรอครับ”
“ไม่เจอกันตั้งนาน เราคุยเรื่องอื่นกันก่อนก็ได้นะโอบ พี่เองก็อยากจะรู้เรื่องของเราบ้างเหมือนกัน”
“เรื่องของผมมันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจสักหน่อยนี่ครับ” ผมแย้งขึ้นเบาๆ
“แต่พี่สนใจ”
“แต่...”
“งานเป็นยังไงบ้าง เพื่อนร่วมงานดีรึเปล่า เงินเดือนพอใช้มั้ย หรือว่ามีปัญหาอะไรอยากให้พี่ช่วยบ้างมั้ยโอบ”
คำถามจากผู้ชายตรงหน้าทำให้ผมได้แต่ยิ้มทั้งที่ส่ายหัวไปมา ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงผม แต่ผมมั่นใจว่าผมดูแลตัวเองได้
“ไม่มีครับ ผมโตแล้ว เรียบจบแล้ว มีงานทำแล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกน่า ผมดูแลตัวเองได้”
“แต่พี่…”
“พี่พูดเรื่องของพี่มาดีกว่าครับ” ผมตัดบท ไม่มีอารมณ์จะนั่งฟังเขาพูดถึงความเป็นห่วงผม หรือนึกชื่นชมซาบซึ้งกับน้ำใจของเขาหรอก นาทีนี้คิดเพียงว่าหากผมคุยกับเขาไปด้วยพร้อมกับกินข้าวไปด้วยก็คงจะใช้เวลาไม่นานสักเท่าไหร่ พอเสร็จเรียบร้อยผมก็น่าจะได้กลับไปนอนเอาแรงสักหน่อยแล้วค่อยลุกออกไปทำงาน
ผู้ชายตรงหน้ามองผมด้วยสายตาดุๆ เจือความระอาออกมาเหมือนเคย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ในสายตาของเขา ผมก็ยังเป็นเด็กที่เขาต้องคอยช่วยเหลือเสมอๆ ทั้งที่ช่วงเวลานั้นมันผ่านมานานมากแล้ว
“พี่…จะแต่งงาน”
เพล้ง!
แก้วน้ำในมือของผมร่วงลงไปแตกที่พื้น
“โอบ”
“ขอโทษครับ มือผมลื่นน่ะ” ผมบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันหน้าออกมาอีกทางแล้วค่อยๆ พ่นลมหายใจออกทางปาก พนักงานของร้านรีบวิ่งมาทำความสะอาดพื้นพร้อมกับเก็บเศษแก้วพวกนั้นออกไป และไม่นานก็มีแก้วเปล่าใส่น้ำแข็งใบใหม่กลับมาเปลี่ยนให้
“โอเคนะ”
“ครับ ผมโอเค ว่าแต่…เมื่อไหร่ครับ” ผมถามยิ้มๆ ทั้งที่หัวใจยังเต้นไม่เป็นปกติเลยด้วยซ้ำ
บอกตามตรงว่าผมค่อนข้างตกใจที่อยู่ๆ ก็ได้รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้ข่าวคราวหรือแม้แต่เจอกับผู้โชคดีคนนั้นมาก่อน
“เดือนหน้าน่ะ
บทจะทุกอย่างจะลงเอยนี่มันก็เร็วไปหมดจริงๆ
