บทที่ 30 EP 04 เจ้ากรรม นายเวร [6]

ผมกับไอ้จอมทัพแยกกันตรงทางแยกเพราะผมจะไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไอ้จอมทัพน่าจะเดินออกไปคุยกับไอ้เต้ล่ะมั้ง ผมเห็นมันเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ที่เหมือนจะเห็นว่าไอ้เต้ยืนอยู่

“พรุ่งนี้มึงหาข้อแก้ตัวกับพี่ทัพเอาเองก็แล้วกัน”

อ้อ เหตุผลที่ไอ้เต้ยังยืนเฝ้าบาร์อยู่ก็เพราะไอ้อินเทลแอบมาคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำนี่เอง

“กูรับปากกับมึงไว้แล้ว ก็ไม่ได้บอกหรอกน่า อีกอย่างมึงไม่เป็นไรแน่นะ พี่เขาดูเป็นห่วงมึงมากเลยนะเว้ย”

ผมก็ดูออกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นห่วงไอ้โอบมาก ถ้าเลิกกันแล้วกลายเป็นคนอื่นไปซะยังจะทำใจง่ายกว่า แต่นี่ดูเหมือนเขาจะยังวอแวและคอยเป็นห่วงเป็นใยมันตลอด ไม่แปลกหรอกที่ไอ้โอบมันจะมูฟออนไม่ได้น่ะ

“เออๆ แค่นี้ก่อนนะ กูรีบไปเฝ้าบาร์ละ เดี๋ยวพี่ทัพสงสัย แม่ง ห่าอะไรก็กู จบเรื่องเมื่อไหร่มึงต้องเอาธูปเทียบมาขอขมากูเลยนะ แล้วถ้ากูโดนพี่ทัพไล่ออกมึงต้องรับผิดชอบ แค่นี้นะไอ้ควาย” ไอ้อินเทลทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ที่มันกล้าทำเสียงแบบนั้นโดยไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาได้ยินก็เพราะมันอยู่ในห้องน้ำพนักงานน่ะ ซึ่งปกติแล้วถ้าผมมาที่นี่ผมก็เข้าห้องน้ำพนักงานนี่แหละ ไม่อยากไปเบียดเสียดกับห้องน้ำของลูกค้าข้างนอก

“อุ้ย! พี่ศิลา” ไอ้อินเทลเบิกตาโพลง มันทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น

“กูมาเข้าห้องน้ำ” ผมแสร้งบอกยิ้มๆ ไม่ได้ถามและยังไม่คิดจะพูดอะไร มองออกว่าอีกฝ่ายเริ่มร้อนใจ แต่ก็ยังทำทีเป็นเดินสวนมันเข้ามาในห้องน้ำอย่างใจเย็นอยู่ดี

“เอ่อ พี่ศาลาครับ”

“ว่าไง” ผมถามเสียงเรียบพลางรูดซิปกางเกงลง ชำเลืองหางตามองไปที่ไอ้อินเทลนิดหน่อยเพราะกำลังอยากรู้ว่ามันจะพูดอะไร

“เอ่อคือ…”

“กูไม่ยุ่งเรื่องของพวกมึงหรอก แต่จะทำอะไรก็นึกถึงไอ้ทัพมันบ้างก็แล้วกัน ในสายตามันก็มองพวกมึงเป็นน้องนั่นแหละ”

“ผมรู้ครับ แต่ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ไอ้โอบมัน…”

“มึงไม่ต้องบอกกูหรอก กูกับไอ้โอบเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไอ้ทัพเสียอีกที่เป็นนายจ้างมัน ถ้าไอ้จอมทัพไม่รู้ กูว่ากูก็ไม่จำเป็นต้องรู้” ผมตัดบท พูดจบก็รูดซิปกางเกงขึ้น ติดกระดุมกางเกงเรียบร้อยก็หันกลับมามองหน้าไอ้อินเทลเต็มๆ ตาพลางเดินมาเปิดก๊อกน้ำล้างมือ

“ครับ” ไอ้อินเทลตัดบทสั้นๆ มันจ้องผมอยุสักพักก่อนจะเดินกลับออกไปเงียบๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรกระทั่งอยู่ๆ มันก็หันกลับมาอีกรอบลทั้งที่เกือบจะก้าวพ้นประตูห้องน้ำออกไปแล้ว

“อะไรของมึง”

“เปล่าครับ ผมไปก่อนก็แล้วกัน”

“ไอ้เหี้ยเทล” ผมนึกหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ มองก็รู้ว่ามันมีอะไรจะพูดแต่เสือกไม่พูด จะว่าเป็นเรื่องไอ้โอบที่ผมเป็นคนบอกไม่ให้มันพูดรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่แค่ไม่ชอบใจที่อยู่ๆ มันก็หันมามองหน้าแล้วบอกว่าเปล่า

“ผม…เฮ้อ เกลียดไอ้เชี่ยโอบฉิบลหายเลยโว้ยยย” ไอ้อินเทลอาละวาดลั่นห้องน้ำ มันทึ้งหัวตัวเองเหมือนจะหงุดหงิดเต็มทีทั้งที่ผมยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมันสักนิด จะว่ามันโมโหไอ้โอบแต่ที่ยืนอยู่กับมันตรงนี้คือผมต่างหาก

“เอาเถอะ ถ้าพี่ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร คิดเสียว่าเสียงผมเป็นเสียงฉี่ที่พี่บังเอิญมาได้ยินก็แล้วกัน อีกอย่างผมไม่ได้โกหกพี่ทัพนะ ไอ้โอบมันไม่สบายจริงๆ ไม่สบายตัวแล้วก็คงไม่ค่อยสบายใจด้วย”

“อะไรของมึง” ผมถามทั้งที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด อยู่ดีๆ ไอ้อินเทลมันก็ดันบอกให้ผมคิดว่าเสียงมันเป็นเสียงฉี่ ไหนจะยังเรื่องที่ไอ้โอบไม่สบายตัวไม่สบายใจอะไรของมันอีกก็ไม่รู้

“เหตุผลที่ไอ้โอบมันลางานก็เพราะว่ามัน…มัน…มัน…”

“มันอะไร” ผมถามด้วยความหงุดหงิดบ้าง ไม่รู้ว่าตอนนี้มันกับผมใครจะหงุดหงิดกว่ากัน

“มันไม่สบายครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใครที่ไหนมา โดนชกปากแตกมาเมื่อวันก่อน มันกลัวพี่จะแวะมาที่ร้านแล้วเห็นมันไม่หล่อมันก็เลยลางาน แค่นี่แหละครับที่ผมจะบอก” ไอ้อินเทลพูดปาวๆ เหมือนอัดอั้น พูดจบมันก็ยกมือไหว้ผมแล้วเดินหนีผมไปเสียเฉยๆ ทิ้งให้ผมยืนงงกับสิ่งที่มันเพิ่งจะพ่นออกมาด้วยความรู้สึกที่งงและสับสนยิ่งกว่าเดิม

‘ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใครที่ไหนมา โดนชกปากแตกมาเมื่อวันก่อน มันกลัวพี่จะแวะมาที่ร้านแล้วเห็นมันไม่หล่อมันก็เลยลางาน แค่นี่แหละครับที่ผมจะบอก’

‘ไปมีเรื่องกับใครที่ไหนมาก็ไม่รู้’

‘โดนชกปากแตกมาเมื่อวันก่อน’

‘มันกลัวพี่จะแวะมาที่ร้านแล้วเห็นมันไม่หล่อมันก็เลยลางาน’

เหมือนผมถูกไอ้อินเทลท่องคาถาสะกดเอาไว้ เพราะจนถึงตอนนี้ทุกอย่างที่มันพูดก็ยังวิ่งวนอยู่ในหัวของผมซ้ำๆ ไม่หยุด ยิ่งคิดตามก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะรู้สึกเหมือนไอ้อินเทลมันจะกล่าวหาว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไอ้โอบต้องลางานอยู่กลายๆ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เกี่ยวด้วยเลยสักนิด

ว่าแต่ไอ้โอบมันไปมีเรื่องกับใครมาถึงขั้นถูกชกปากแตก

แล้วไอ้ที่ลางานนี่เพียงเพราะกลัวว่าผมจะมาแล้วเห็นว่ามันถูกชกมางั้นน่ะเหรอ

“ไอ้โง่!” ผมได้แต่ทิ้งคำสบถเอาไว้ในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมา

ในหัวของผมตอนนี้มีแต่เรื่องบ้าบอคอแตกของไอ้โอบทั้งที่ตั้งใจจะมานั่งดื่มเบียร์ชิลๆ คุยกับไอ้จอมทัพสักหน่อยแล้วกลับไปนอนสบายๆ

แม่งเอ๊ย ตัวไม่อยู่ก็ยังจะทิ้งเรื่องเอาไว้ ลูกน้องผมรึก็ไม่ใช่ ทำไมผมต้องมารับรู้ปัญหาของมันตลอด ตกลงว่ามันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผมรึยังไงกันมันถึงได้จองเวรผมไม่เลิก เฮ้อ~

บทก่อนหน้า
บทถัดไป