บทที่ 7 บทที่ 7

“แกไม่ต้องคิดแทนเขาหรอกนะเดย์ ถึงแกจะคิดอย่างที่เขาคิดฉันก็มองในทางตรงกันข้ามอยู่ดี ฉันเลี้ยงดูลูกของฉันได้ ฉันอยู่กับลูกคนเดียวมาตลอด แกก็เห็นอยู่แล้วเดย์ว่าชีวิตฉันเป็นยังไงขอร้องเถอะนะแกต้องอยู่ข้างฉันสิไม่ใช่ไปอยู่ฝ่ายคนที่เขาใจโลเลและทิ้งฉันไป แค่เห็นเขาหล่อหน่อยเดียวแกก็จะไปเป็นพรรคพวกของเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“พูดอะไรอย่างนั้น ฉันจะเห็นใครดีกว่าเพื่อนของฉันล่ะจริงไหมจ๊ะคนสวย แม่กระต่ายน้อยไร้เดียงสา เออ...นี่ฉันซื้อของมาเยอะแยะทั้งผ้าอ้อมแล้วก็มีนมด้วยนะ นมผงของเด็กฉันเลือกไม่ถูกเลยว่ะไม่รู้ว่าลูกแกกินนมผงยี่ห้ออะไร แต่ฉันก็ถามเภสัชมาแล้วนะเขาก็แนะนำยี่ห้อนี้มาให้บอกว่าเด็กกินแล้วจะโตไวว่ะ”

“นี่แกเก็บนมผงเอาไว้เลยนะ คุณพี่พยาบาลเขาเน้นนักหนาว่าอย่าเพิ่งให้ลูกกินนมผง จะต้องให้ลูกกินนมแม่ซะก่อน...แต่ว่า...อุ๊ย!”

“แกเป็นอะไรของแกน่ะลิน?”

“ฉันเจ็บหน้าอกน่ะ ดูสิยายหนูกินนมไม่หยุดเลยแต่น้ำนมก็ยังไม่ออก พยายามมาตั้งนานแล้ว ฉันเอ็นดูจังเลย แล้วนี่ดูสิหายใจแรงแบบนี้สงสัยจะโกรธแน่เลยพี่น้ำนมไม่ออก”

“เออว่ะ...สงสัย แต่ว่าแกมีชื่อลูกหรือยังจะได้ตั้งชื่อลูกของแก หรือว่าเอาอย่างนี้ไหมฉันจะไปหาพระให้ท่านช่วยตั้งชื่อให้เอาชื่อสวย ๆ เลยนะเว้ย สวยแบบมิสทิฟฟานี่เลยแก”

“จะบ้าเหรอเดย์ ลูกฉันเป็นผู้หญิงนะ”

“แล้วมิสทิฟฟานี่มันเป็นผู้หญิงหรือเปล่าวะ เออ ๆ เดี๋ยวฉันจะหาชื่อแบบสวย ๆ มาให้ไม่ต้องกังวลใจไปหรอก แต่ลูกของแกหน้าตาน่ารักจริง ๆ เลยนะเว้ยก็พ่อแม่หน้าตาดีอย่างนี้ไง”

“ที่แกพูดนี่แกกำลังคิดถึงคุณหมอหัสวีร์อีกแล้วใช่ไหมเพื่อนทรยศ”

“ใครจะไปคิดถึงผู้ชายแบบนั้น ฉันก็คิดถึงแกไง แกก็สวยถึงขนาดนี้เพียงแต่ไม่เข้าสเป็คของฉันก็เท่านั้นแหละ”

“แกเป็นเพื่อนฉันดีแล้วเดย์ ฉันน่ะไม่มีใครเลยนะ แกก็รู้แล้วเรื่องที่ฉันท้องฉันก็ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ปกปิดเอาไว้ตั้งนานแล้วแต่คิดว่าหลังจากนี้ฉันคงจะต้องพาลูกไปหาพ่อกับแม่ในสักวันหนึ่งในวันที่ยายหนูแข็งแรง”

“แกไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันน่ะอยู่ข้างแกตลอดแหละมัสลินแกก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ก็ครั้งนึงแกก็เคยช่วยเหลือให้ฉันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยมาจนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เคยลืมนะว่าแกช่วยเหลือฉันไว้ยังไง เอาเถอะ ๆ ให้นมลูกไปแล้วถ้าเกิดว่าแกเจ็บแผลขึ้นมาเดี๋ยวฉันจะไปบอกนางพยาบาลให้โอเคไหม”

มัสลินพยักหน้าด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียทำให้เธอเกือบจะผลอยหลับไปแต่ดีว่าแดนสรรยังคอยช่วยดูแลอยู่ข้าง ๆ เขาแสดงความห่วงใยเพื่อนคนสนิทซึ่งสำหรับมัสลินแล้วเขาเป็นเพื่อนที่ดีและสนิทสนมกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย หากทว่าก่อนหน้านี้แดนสรรเดินทางไปทำงานต่างประเทศทำให้เขาไม่รู้เลยว่าช่วงเวลาชีวิตของมัสลินต้องพบเจอกับอะไรบ้าง หลังจากที่เขาเดินทางกลับมาแล้วนั่นแหละเขาถึงได้ติดต่อกับเพื่อนสนิทอีกครั้งและได้รับรู้ว่ามัสลินตั้งครรภ์ แต่ที่ทำให้เขาสงสารเธอมากกว่านั้นก็คือเธอถูกทิ้งในเวลาที่ไม่มีใคร และไม่รู้เลยว่าในเวลานั้นมัสลินคบกับใคร แต่เขาก็เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือและช่วยดูแลเพื่อนสนิทอย่างมัสลินเรื่อยมาจนกระทั่งเธอคลอดลูกและได้มารู้เรื่องว่าแท้จริงแล้วพ่อของเด็กคือใครก็ตอนนี้

ตกเย็นมัสลินถึงให้นมลูกได้สำเร็จโดยมีแดนสรรคอยดูแลและลุ้นอยู่ใกล้ ๆ เขามองดูแม่ที่ให้นมเด็กน้อยด้วยความตื่นเต้น ถึงไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ แต่ก็แอบมองอยู่ไม่ห่างเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก ๆ สำหรับผู้หญิงที่ต้องให้ลูกกินนมจากอกของตัวเองและนอกเหนือจากนั้นแล้วแดนสรรก็ยังช่วยตั้งชื่อให้แม่หนูน้อยพี่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่ทันข้ามวัน

“นี่เดย์จะเรียกชื่อยัยหนูว่าลูกกระต่ายจริง ๆ นะเหรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ในเมื่อฉันเรียกแกว่านังกระต่ายน้อย เพราะฉะนั้นชื่อนี้ก็จะเป็นชื่อที่มันคล้องจองกันแม่กับลูกยังไงล่ะ แล้วแกว่าเป็นชื่อที่ไม่น่ารักอย่างนั้นเหรอ”

“เปล่าหรอก แล้วไหนแกบอกว่าแกจะไปให้พระช่วยตั้งชื่อสวย ๆ ลูกฉันยังไงล่ะ”

“อันนี้เป็นชื่อเล่นนะ ส่วนชื่อสวย ๆ ที่แกอยากได้พรุ่งนี้ฉันถึงจะมีเวลาได้ไปนมัสการหลวงพ่อที่วัด ก็วันนี้ฉันต้องดูแลทั้งวันจะได้ไปไหนหรือเปล่าล่ะเนี่ย”

“โอเค...ขอบคุณมากเลยนะเดย์ ว่าแต่นี่มันก็เย็นมากแล้วจะหมดเวลาเฝ้าไข้ใกล้จะกลับหรือยังล่ะ”

“ที่ถามนี่ก็คงจะเหงาใช่ไหมนางกระต่าย” แดนสรรลุกขึ้นและเดินเข้ามาหามัสลินที่จัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยหลังจากที่ยายหนูกินนมจนอิ่มและดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้วยังขยับตัวได้ลำบากเพราะยังเจ็บแผลผ่าตัด ฉะนั้นแล้วแดนสรรจึงเป็นคนช่วยยกแม่หนูกระต่ายน้อยขึ้นและวางไว้ในรถเข็นเด็กที่อยู่ข้าง ๆ เตียงของเพื่อนสนิทเขาก้มลงดูแม่หนูน้อยตัวเล็กและยิ้มกริ่ม

“โอ๊ย

! ลูกแกนี่มันน่ารักน่าชังจริง ๆ เลยนะแล้วก็จ้ำม่ำดูสิแขนขาแน่นเป็นปล้อง ๆ เลย เนี่ยสงสัยคงได้รับ DNA หล่อสวยมาจากพ่อแม่ โตขึ้นละแกเอ้ยน่าจะส่งประกวดนางงามได้เลยนะเนี่ย”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป