บทที่ 6 ควงสอง 75%
เจ็ดชั่วโมงต่อมา…
กวินตาก็ไปรับมารียาที่สนามบินแล้วเธอก็พาน้องสาวมาเดินทางมายังคฤหาสน์ของจาซุสที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ทันที ซึ่งมันใหญ่โตจนมารียานั้นมองด้วยความตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว
“เข้าบ้านกันเถอะ พี่ให้แม่บ้านเตรียมห้องพักให้มีนแล้วแล้ว…ป่ะ…” กวินตาพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยนกับน้องสาวของเธอ
“พี่กวางคะ ทำไมบ้านคุณจาซุสเขาใหญ่แบบนี้ล่ะคะ ไหนพี่บอกว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาไงคะ อยู่คฤหาสน์ในดูไบนี่คงไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาแล้วมั้งคะพี่…” มารียาถามไปเพราะพี่สาวเธอเคยบอกว่าจาซุสนั้นเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆเท่านั้น
“อ่อ เขาก็พอมีในระดับนึงนั่นแหละ แต่ว่าที่นี่ยังมีคนที่รวยแล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเขาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นที่นี่เขาก็เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ เดี๋ยวไว้เราอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเดี๋ยวเราก็รู้เองแหละน่า” กวินตาพูดบอกไป เพราะยังมีคนที่รวยกว่าจาซุสอีกเยอะ แค่น้องสาวของเธอยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาเท่านั้น
“แล้วพี่กวางพามีนมาอยู่ด้วยแบบนี้คุณจาซุสเขาไม่ว่าเหรอคะพี่..” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเกรงใจ เพราะอยู่ๆเธอก็มาอาศัยอยู่กับพี่สาวกะทันหัน เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายของพี่สาวนั้นจะโอเคหรือเปล่า
“ไม่ว่าหรอกเพราะพี่ขออนุญาตคุณจาซุสเขาแล้ว แล้วเขาก็ดีใจมากด้วยที่พี่จะมีน้องสาวมาอยู่ด้วยน่ะ…ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไปสวัสดีคุณจาซุสเขา…” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็จับมือน้องสาวไปทันที เพราะเธอพาน้องสาวเข้าบ้านแล้วเธอก็ควรจะพาน้องสาวเข้าไปไหว้เขา
มารียาก็เดินตามพี่สาวเข้าไปแล้วสายตาของเธอก็มองกับความหรูหราของบ้านของชายหนุ่มที่ดูแลพี่สาวเธออยู่ในขณะนี้อย่างชอบใจ เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงได้ส่งเงินกลับไทยจนครอบครัวของพวกเธอนั้นลืมตาอ้าปากกันได้
“มากันแล้วเหรอ เข้ามาก่อนสิ…นี่ใช่ไหมกวางน้องสาวที่คุณพูดถึงน่ะ…” จาซุสหนุ่มหล่อหน้าคมแบบอาหรับเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับกวินตาที่พาน้องสาวของเธอเข้ามา ซึ่งเขาก็รีบเรียกให้ทั้งสองเข้ามา แล้วเขาก็ใช้สายตาพิจารณาน้องสาวของกวินตาอย่างจดจ้อง เพราะเธอดูแตกต่างจากกวินตาผู้หญิงของเขามาก ทั้งหน้าตาและขนาดตัวที่เธอจะอวบอิ่มกว่ามาก เพราะกวินตานั้นจะผอมเพรียวมากกว่า
“ใช่ค่ะ นี่มารียาหรือมีนค่ะ พอดีพึ่งมาถึงน่ะค่ะฉันเห็นรถของคุณยังจอดอยู่ก็เลยพามีนเขามาสวัสดีคุณก่อนน่ะค่ะ..มีน…นี่คุณจาซุสนะคะ เขาเป็น…อ่อ…เขาเป็นเจ้าของบ้านที่พี่อาศัยอยู่น่ะ” กวินตาพูดไปก็แนะนำน้องสาวให้จาซุสรู้จัก ก่อนเธอจะแนะนำเขากับน้องสาวไปแบบตะกุกตะกักเพราะไม่แน่ใจว่าเธอจะแนะนำว่าอะไรดี
“สวัสดีค่ะคุณจาซุส ขอบคุณที่อนุญาตให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ ฉันสัญญาค่ะว่าฉันจะไม่สร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนอะไรให้คุณกับพี่กวางเลยค่ะ” มารียายกมือไหว้แล้วพูดบอกไปแบบอย่างมีมารยาท
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ทำตัวสบายๆเลยเพราะคุณเป็นน้องสาวของกวางเขาก็เหมือนน้องสาวของผม แล้วคุณคิดไว้หรือยังว่าจะมาทำอะไรที่นี่ ” จาซุสพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้น้องสาวของกวินตาไปแบบเป็นมิตร
“ฉันว่าฉันจะหางานที่นี่ทำน่ะค่ะ พอทุกอย่างลงตัวแล้วฉันก็จะย้ายออกไป อีกสักสองสามวันฉันว่าจะเริ่มออกไปหางานทำแล้วค่ะ” มารียาพูดบอกไปถึงแพลนที่เธอเตรียมเอาไว้
“คุณจบด้านอะไรมาล่ะ เผื่อผมจะช่วยหางานที่ตรงสายการเรียนของคุณได้” จาซุสถามออกไปแบบช่วยเหลือแบบเต็มที่
“ไม่เป็นไรค่ะคุณจาซุส ฉันหางานเองดีกว่าค่ะ แค่นี้ก็รบกวนคุณจาซุสมากแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ” มารียาพูดไปแล้วขอบคุณเขา เพราะเธอไม่อยากจะรบกวนอะไรเขามาก เธอเกรงใจทั้งเขาและพี่สาวของเธอน่ะสิ มาอาศัยอยู่ด้วยแล้วยังให้ช่วยหางานให้นี่มันก็เกินไป
“โอเค งั้นเอาที่คุณสะดวกก็แล้วกัน หากมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ…” จาซุสพูดบอกไปก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เพราะเธอเป็นน้องสาวของกวินตา เขาก็อยากจะทำดีกับเธอเอาไว้
“งั้นฉันพาน้องไปพักผ่อนก่อนนะคะ คุณทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวนแล้ว” กวินตาพูดไปก็ยิ้ม เพราะช่วงนี้เย็นๆแบบนี้เขาจะทำงานที่บ้านต่ออีก
“อืม…” จาซุสพูดตอบไปแบบเข้าใจ เพราะทั้งสองไม่ได้เจอกันนานแล้วก็คงอยากจะพูดคุยกันตามประสาพี่น้องเป็นธรรมดา
จากนั้นกวินตาก็พาน้องสาวของเธอไปที่ห้องพักที่เธอนั้นให้แม่บ้านจัดเตรียมไว้ และมารียาก็ชอบห้องที่เธอเตรียมไว้ให้มาก ทำให้กวินตานั้นดีใจเป็นอย่างมากที่น้องสาวชอบ แล้วกวินตาก็ช่วยน้องสาวเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ามาจัดเรียงใส่ตู้อย่างเรียบร้อยพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย
“คุณจาซุสเขาก็ดูใจดีกับพี่กวางมากเลยนะคะ ไม่น่าล่ะพี่กวางถึงได้ชอบเขา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” มารียาพูดแซวพี่สาวของเธอไป
“ถ้าเขาไม่ดีกับพี่ พี่ก็คงไม่ทนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาหรอก เพราะฉะนั้นเราน่ะตั้งใจหางานดีๆทำแล้วก็อย่าเป็นแบบพี่เข้าใจไหม…” กวินตาพูดบอกไปแล้วมองหน้าน้องสาวแบบจริงจัง เพราะถ้าคนที่ไม่อยู่ในสถานะนี้ไม่รู้หรอกว่ามันลำบากใจแค่ไหนที่ไม่สามารถครอบครัวคนที่ตัวเองรักได้
“เข้าใจค่ะ…แต่มีนพึ่งอกหักมานะคะพี่กวาง มีนไม่รีบเรื่องความรงความรักอะไรพวกนี้หรอกค่ะ ตอนนี้เอาแค่หางานทำที่นี่ให้ได้ก่อนจะดีกว่า ” มารียาพูดตอบไปเพราะเรื่องเดียวที่เธอควรจะกังวลน่ะคือเรื่องหางานทำ ไม่ใช่เรื่องจะมีความรัก
“ก็เมื่อกี้ทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมให้คุณจาซุสเขาหาให้เองนิ ถ้าเราบอกนะแค่แปปเดียวเราก็ได้งานดีๆทำแล้วล่ะ” กวินตาพูดตอบไป เพราะเมื่อกี้ถ้าน้องสาวยอมให้จาซุสหางานให้ก็จบไปแล้ว ไม่ต้องมาคิดมากเรื่องที่จะหางานทำที่นี่เลย
“ก็มีนเกรงใจนิคะ เขาอุตส่าห์ใจดีให้มีนมาอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าให้เขาฝากงานให้อีกมันก็เยอะไปอ่ะค่ะ อีกอย่างถ้าเขาฝากงานให้มีนแล้วมีนทำไม่ดีขึ้นมา ก็เสียชื่อเขาน่ะสิคะ ไม่เอาค่ะ มีนไม่อยากจะเป็นเด็กเส้น มันอยู่ยาก” มารียาบอกเหตุผลของตัวเองไปแบบตรงๆ เธอคิดว่าเธอหางานทำด้วยตัวเองจะดีซะกว่า
“โอเคๆ พี่เข้าใจแล้วล่ะ เรานี่มันขี้เกรงใจจริงๆ… งั้นเดี๋ยวพี่จะช่วยหางานให้อีกคนละกัน อ่อ แล้วถ้าจะออกไปก็บอกคนขับรถที่โรงจอดรถได้เลยนะ พวกเขาเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาเลย มีพวกเขาไปส่งเราไปนั่นไปนี่แล้วพี่จะได้สบายใจ” กวินตาพูดบอกไปก็ยิ้มให้น้องสาวไป แล้วเธอก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวมาอยู่ด้วยที่นี่ เธอเองก็จะไม่โดดเดี่ยวแบบที่ผ่านมาอีก
“ค่ะพี่กวาง รับทราบค่ะ…มีนไม่ทำให้พี่กวางต้องเป็นห่วงแน่นอนค่ะ…ขอบคุณนะคะพี่กวาง…” มารียาพูดไปก็ยิ้มอย่างน่ารักสดใสใส่พี่สาวของเธอแบบอ้อนๆ
หลายวันผ่านไป….
อาลีก็ได้ประกาศรับสมัครหญิงที่จะมาอุ้มท้องให้กับฮัสลานเรียบร้อย และตอนนี้พวกเขาก็แค่รอให้คนมาสมัครแล้วก็เรียกเข้ามาสัมภาษณ์รอบเดียวไปเลย
“อาลี พรุ่งนี้ราชิดจะจัดแข่งรถที่ทะเลทรายใช่ไหม…” ฮัสลานเอ่ยถามลูกน้องของเขาออกไป เพราะเขาจำได้ว่าเพื่อนของเขานั้นได้ชวนเขาไปงานแข่งรถที่ทะเลอาหรับที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกเลยทีเดียว
“ใช่ครับนาย…คุณราชิดได้เชิญเจ้านายแล้วก็กลุ่มเพื่อนๆไปหลายคนเลยครับ นายจะไปไหมครับ” อาลีเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้
“อืม..ไปสิ นายจัดการเตรียมรถของเราให้พร้อมก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะไประบายอารมณ์สักหน่อย ส่งรายชื่อของฉันเข้าไปในรายการแข่งขันด้วย…” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขานั้นชอบแข่งรถเป็นประจำอยู่แล้ว และครั้งนี้เขาจะพลาดได้ยังไงล่ะ
“ครับนาย..งั้นผมขอตัวเลยนะครับ…” อาลีพูดไปก็เดินออกไปทันที เพราะถ้าเจ้านายของเขาจะลงแข่งขันในวันพรุ่งนี้ เขาก็ต้องไปเตรียมรถให้พร้อมแข่ง
