
บทนำ
เรื่องย่อ....
“คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…”
“ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…”
“ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…”
“หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…”
“อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้”
“ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
“อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
บท 1
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างอันอวบอัดของ “มีน มารียา เวทติวัตร” กำลังย่างกายออกมาจากอาคารผู้โดยสารในประเทศพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หลังจากที่เธอไปทำงานเป็นไกด์ที่ภาคใต้เกือบสองเดือน เพราะทางลูกค้าลงไปดูงานที่นั่นจนเธอนั้นปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย จนกระทั่งเสร็จภารกิจนี้เธอถึงได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพตามปกติ
“มีน…จะกลับยังไง….ให้พี่ไปส่งไหม เดี๋ยวสามีของพี่มารับ” ลูกปลารุ่นพี่ที่ไปทำงานด้วยกันเอ่ยถามมารียาอย่างมีน้ำใจ เพราะเด็กสาวนิสัยก็ค่อนข้างจะน่ารักเลยทีเดียว
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลูกปลา พอดีแฟนของมีนบอกว่าจะมารับน่ะค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแฟนหนุ่มของเธอได้อาสามารับเธอในวันนี้แล้ว
“หูย…คุณปรมินทร์นี่น่ารักกับเราตลอดเลย…คอยรับคอยส่งแบบนี้สงสัยอีกไม่นานมีนคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้งเนี่ย…” ลูกปลาเอ่ยแซวออกไป เพราะแฟนของมารียานั้นเป็นลูกค้าของบริษัทที่พวกเธอเคยทำงานให้ จนทำให้เขาเจอกับมารียาและสานสัมพันธ์กันมาจนถึงตอนนี้
“ไม่มีหรอกค่ะพี่…อย่าแซวมีนเลยค่ะ เรื่องข่าวดีของมีนกับพี่ปาล์มคงอีกนานเลยล่ะค่ะ เราพึ่งคบกันได้ปีเดียวเองค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะเธอกับปรมินทร์กำลังคบกันได้แค่ปีเดียวเอง และเธอกับเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างทำงาน จะเอาข่าวดีที่ไหนมาล่ะ
“อืม…จะกี่ปีถ้าคนมันใช่ จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องได้แต่งงานแหละ ดูอย่างพี่สิ คบกับสามีแค่หกเดือนเองพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว พวกพี่ยังรักกันมาได้เป็นสิบๆปีเลย” ลูกปลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มออกไป
“ที่รัก…ผมอยู่ทางนี้….” เสียงของนพคุณสามีของลูกปลาเอ่ยเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สามีพี่มารับแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะมีน ไว้เจอกันที่ทำงานนะ บ้ายบาย” ลูกปลาพูดบอกไปก็ยิ้มให้มารียาไปอย่างอบอุ่น ก่อนจะรีบเข็นรถเข็นกระเป๋าไปยังรถของสามีที่จอดอยู่มุมด้านหน้านั้นทันที
“เฮ้อ….แล้วนี่พี่ปาล์มอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาอีกนะ เมื่อวานเราก็บอกแล้วนิว่าเราจะถึงกี่โมง…”มารียาพูดบ่นไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาแฟนหนุ่มทันที แต่เขาก็ไม่รับสายของเธอเลย ทำให้เธอนั้นโทรซ้ำๆอยู่หลายรอบทีเดียว
“ทำอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมไม่รับสายเลยเนี่ย…ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันหน่อย พี่ปาล์มนะพี่ปาล์ม เจอตัวแล้วต้องบ่นหน่อยแล้ว ” มารียาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้
เพราะปรมินทร์มักจะมีงานรัดตัวแบบนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเข็นรถออกไปทางแท็กซี่ที่พึ่งส่งผู้โดยสารลงไปก่อนหน้านี้ทันที เพราะโทรไปไม่รับแบบนี้เธอก็ไม่ควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไป
“พี่คะ ไปคอนโดเทอมินาร์ดหนึ่งเก้าที่สุขุมวิทค่ะพี่” มารียาพูดบอกไปเพราะนั่นเป็นคอนโดที่เธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ และก็มีมุกดาน้องสาวต่างแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยอีกคนเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่น้องสาวเรียนอยู่
“ได้ครับ เชิญคุณขึ้นรถเลยครับ เดี๋ยวผมยกกระเป๋าให้เองครับ…” คนขับแท็กซี่บอกไปก็เข้าไปเข็นรถกระเป๋าไปไว้ใกล้ๆท้ายรถ แล้วเขาก็รีบขนกระเป๋าของลูกค้าใส่ท้ายรถทันที
ส่วนมารียาก็เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่ดันมีกระเป๋าสะพายเล็กๆวางอยู่ที่เบาะ
“พี่คะ นี่กระเป๋าของผู้โดยสารที่พึ่งลงไปหรือเปล่าคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแล้วหยิบกระเป๋านั้นขึ้นมาให้พี่คนขับแท็กซี่ดู
“อ่อ ใช่แล้วครับ…ของฝรั่งแขกสองคนนั้นแน่ๆเลย เขาพึ่งลงไปเมื่อกี้เลยครับ นั่นไงครับ ที่ใส่เสื้อสีขาวกับสีดำที่เดินเข้าไปตรงนั้นไงครับ…” หนุ่มแท็กซี่พูดออกไปแล้วหันไปมองหาผู้โดยสารที่พึ่งลงจากรถของเขาไปเมื่อกี้แล้วรีบชี้ให้หญิงสาวดูทันที
“งั้นพี่รอตรงนี้แปปนึงนะคะ เดี๋ยวหนูจะเอากระเป๋านี่ตามไปให้เขาแปปนึง…” มารียาหันไปมองตามแล้วก็เจอเจ้าของกระเป๋าแล้ว เธอจึงรีบเอ่ยบอกไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนจะถือกระเป๋าสะพายเล็กนี่ตรงไปหาผู้ชายสองคนนั้นอย่างเร่งรีบ
“คุณคะ…คุณคะ โอ๊ย…” มารียาเข้าไปเรียกผู้ชายที่ใส่เสื้อสีขาวแล้วทำท่าจะเอามือแตะที่แขนของเขา แต่เขากลับหันมาแล้วเอามือจับแขนของเธอแล้วบิดอย่างแรงจนเธอเจ็บจนต้องร้องออกมา ก่อนจะมองหน้าของชายตรงหน้าที่ทำร้ายเธออย่างเอาเรื่อง
และแล้วมารียาก็ต้องทำหน้าอึ้งออกมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าหล่อๆที่คมเข้มของเขา จมูกเป็นสัน คิ้วดกดำ หนวดเคราเป็นทรงอย่างสะอาดสะอ้าน นี่ขนาดใส่แว่นตานะเนี่ย ยังโคตรหล่อเลย แถมกลิ่นตัวก็โคตรหอม พวกแขกขาวนี่หน้าตากินขาดจริงๆ มารียาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้านเศรษฐีหนุ่มอย่าง “ฮัสลาน ราเชด บรูฮัมนี” ก็หันมามองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ชิดเขาด้วยสายตาจดจ้องผ่านแว่นตาสีดำนี่ แล้วเขาก็มองอย่างพิจารณาว่าเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะอะไร แต่แม่ง ผู้หญิงคนนี้โคตรสวยเลย
“โอ๊ย…คุณ…ปล่อยฉันก่อน…ฉันแค่จะเอากระเป๋าของคุณมาให้…คุณลืมไว้ในแท็กซี่ที่คุณลงมาเมื่อกี้…อือ…” มารียาร้องไปแล้วก็พูดภาษาอังกฤษออกไปอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นตั้งใจจะเอากระเป๋ามาคืนเขา ทำให้เขานั้นรีบปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
“กระเป๋าของนายจริงๆด้วยครับ…” อาลีลูกน้องคนสนิทของฮัสลานเอ่ยพูดบอกไป เมื่อเห็นเธอถือกระเป๋าของเจ้านายของเขาอยู่จริง
“ผมขอโทษ..ผมไม่ได้จะทำร้ายผู้หญิง ผมคิดว่าคุณจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ” ฮัสลานพูดออกไปแบบรู้สึกผิด เพราะเธอถือกระเป๋าของเขาอยู่ในมือจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน…เอากระเป๋าของคุณไปสิคะ…”มารียาพูดออกไปแล้วเอามือจับที่ข้อมือของตัวเองแบบระคายเคืองแบบปวดๆ เพราะเขาเล่นบีบซะแรงเลย ข้อมืออวบๆของเธอเลยเจ็บแปลบๆเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ…อ่อ เดี๋ยวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะเธอยังจับข้อมืออยู่แบบนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอน่าจะเจ็บอยู่
“อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองไม่จำเป็นต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันขอตัวนะคะ พอดีให้พี่แท็กซี่เขารออยู่ข้างนอกน่ะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเขินๆอย่างงงๆ ก่อนจะรีบชิ่งหนีเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ครับ…ขอบคุณมากนะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะมองเธอยิ้มตอบเขามาแล้วก็หันหลังเดินออกไป เขาก็มองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนสวยใจดีแบบนี้ด้วย
“สวยแล้วยังใจดีอีกนะครับนาย…เงินในกระเป๋าเป็นตับๆแต่เขากลับวิ่งเอามาคืนให้เรา ” อาลีพูดออกไปแล้วมองด้วยรอยยิ้มที่เธอมีน้ำใจขนาดนี้
ฮัสลานก็มองตามเธอไปแล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะหันมามองลูกน้องของเขาที่มองตามเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม เขาก็มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ทันที
“พรึบ…อ่ะเอาไป ต่อไปก็อย่าสะเพร่าลืมกระเป๋าอีก ไม่มีคนสวยใจดีให้นายบ่อยๆหรอกนะอาลี ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ฮัสลานพูดไปก็เอากระเป๋าโยนใส่ลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเชคอินกับพนักงาน เพราะเขาต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปคูเวตด่วน เพราะงานที่นั่นกำลังมีปัญหาใหญ่
ด้านมารียาก็รีบกลับไปขึ้นแท็กซี่แล้วเธอก็เดินทางกลับไปที่คอนโดของเธอ แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับภาพของกวินตาลูกสาวของแม่เลี้ยงของเธอ ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้าของเธอด้วย เพราะพอแม่ของเธอตายพ่อก็เอาน้องเมียมาเป็นเมียเลย
“พี่กวาง…มีนว่าถ้ากลับถึงห้องจะโทรหาพี่กวางพอดีเลยค่ะ…มีอะไรหรือเปล่าคะ” มารียารับสายแล้วเอ่ยพูดทักทายพี่สาวไป
“เปล่า พี่ก็แค่จะโทรมาถามเราว่ากลับถึงกรุงเทพหรือยังเท่านั้นเอง” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว
“ถึงเมื่อกี้เองค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่นั่งรถแท็กซี่ไปที่คอนโดอยู่ค่ะ…แล้วทำไมวันนี้พี่กวางตื่นเช้าจังเลยคะเนี่ย ที่ดูไบมันพึ่งจะแปดโมงเองนะคะ” มารียาเอ่ยถามไปเพราะดูไบเวลาจะช้ากว่าไทยสามชั่วโมง
“คุณจาซุสเขาไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีธุรกิจน้ำมันที่คูเวตมีปัญหาน่ะ เขากับหุ้นส่วนก็เลยต้องบินไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นน่ะ พี่ก็เลยว่างทั้งวันเลย…อ่อ…พี่ลืมไปเลย เมื่อวานพี่จ่ายค่าคอนโดงวดสุดท้ายให้แล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปเอาเอกสารที่นิติบุคคลด้วย พี่ให้เขาโอนเป็นชื่อของมีนแล้ว” กวินตาพูดบอกน้องสาวไป เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลจาซุส มหาเศรษฐีหนุ่มที่ซื้อตัวเธอมาเป็นสาวใช้คอยบำเรอให้เขาตามที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ได้เงินมากพอที่จะทำให้เธอส่งเสียให้คนที่บ้านได้แบบสบายๆ แม้กระทั่งคอนโดที่น้องสาวทั้งสองคนอยู่ เธอก็เป็นคนซื้อให้
“ทำไมโอนเป็นชื่อมีนล่ะคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ที่กวินตาโอนเป็นชื่อของเธอ
“ก็พี่ซื้อให้มีนไง เอาไปเถอะ เพราะกว่าคุณจาซุสเขาจะเบื่อพี่ พี่ก็คงจะผ่อนบ้านที่ไทยได้อีกสักหลังแล้วล่ะ แล้วก็คงจะมีเงินกลับไปตั้งตัวที่ไทยสักก้อน…” กวินตาพูดออกไปแบบไม่รู้เลยว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งวันไหน ที่แน่ๆตอนนี้กอบกวยได้เธอก็ต้องรีบ
“แต่นี่ก็ปีกว่าแล้วนะคะที่พี่อยู่กับเขามา บางทีคุณจาซุสเขาอาจจะรักพี่กวางก็ได้นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงจะปล่อยพี่ไปนานแล้ว ” มารียาพูดไปความความคิดของเธอ เพราะตอนแรกที่เธอรู้ว่าพี่สาวไปเป็นนางบำเรอของมหาเศรษฐีคนนี้เธอก็ไม่ได้สนับสนุนเลยสักนิด แต่มันเป็นทางที่พี่สาวของเธอเลือกแล้ว เธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกวินตา
“ต่อให้เขารักพี่ยังไง พี่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเขาเท่านั้นแหละ พี่เป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเขา ครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานพี่ก็ต้องไป…ตอนนี้อายุของเขามันถึงช่วงที่ต้องแต่งงานแล้ว ไม่นานครอบครัวของเขาก็คงจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับเขาแล้วล่ะ…” กวินตาพูดออกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งเมียคนแรกเป็นชาวดูไบหรือมุสลิมด้วยกันเอง ส่วนน้อยที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งพวกเศรษฐีแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทั้งนั้น
“อย่าเข้าดราม่าแบบนี้สิคะพี่กวาง เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นอย่างพึ่งคิดไปไกลสิคะ” มารียาพูดบอกไปเพื่อให้พี่สาวสบายใจ
“พี่ก็แค่เผื่อใจไปก็เท่านั้นเอง…เวลาเจอสถานะการณ์นั้นจริงๆจะได้ทำใจได้ไง…พี่ไม่โชคดีแบบเราหรอก ที่มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารสุดหล่อน่ะ” กวินตาพูดไปก็แอบแซวน้องสาวไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าใจไปมากกว่านี้
“เฮ้อ…อย่าพูดถึงพี่ปาล์มเลยค่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับมีน วันนี้กลับหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าติดงานหรือว่าไปติดสาวที่ไหนกันแน่…สองเดือนมานี้ยิ่งคุยกันน้อยๆอยู่ด้วย จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยค่ะพี่กวาง” มารียาพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็ยุ่ง เขาเองก็ยุ่ง จะโทษใครก็ไม่ได้
“เอาน่า คบกันมาจะหนึ่งปีแล้วก็ต้องรอดแล้วล่ะ รักเขาแล้วก็อดทนหน่อยสิเราน่ะ” กวินตาพูดบอกไปแบบให้กำลังใจน้องสาว
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ วันนี้คบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วด้วย…ถ้าพี่ปาล์มลืมล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ค่ะ” มารียาพูดบอกพี่สาวไป จากนั้นเธอก็พูดเม้าท์กับพี่สาวไประหว่างที่เดินทางไปที่คอนโดของเธอ
ณ คอนโดของมารียา
ภายในห้องก็ถูกจัดด้วยช่อกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดและที่พื้นก็มีกลีบกุหลาบสีขาวโรยไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะมีกล่องสีขาวใหญ่ๆตั้งอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมีลูกโป่งลอยละล่องอยู่ที่เพดานแล้วมีริบบิ้นห้อยลงมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
“พี่ปาล์มทำเซอร์ไพร์สให้พี่มีนขนาดนี้ ไม่คิดว่ามุกจะน้อยใจบ้างเหรอคะ” มุกดาเอ่ยถามออกไปแล้วค่อยๆเข้าไปหาปรมินทร์ที่จัดเตรียมห้องไว้เซอร์ไพร์สมารียากลับมาซะจนเธออดอิจฉาไม่ได้เลย
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอมุก…เอามือออกไป…เดี๋ยวพี่ต้องไปรับมีนเขาที่สนามบิน” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยเสียงเข้มก็เอามือของเขาไปจับมือของมุกดาออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“จะรีบไปรับทำไมล่ะคะ กว่าพี่มีนจะมาถึงก็อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมงนู้นล่ะมั้งคะ มุกว่าพี่ปาล์มมาเอาใจมุกก่อนดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมุกก็ไม่รับประกันว่ามุกจะเผลอพูดเรื่องของเราสองคนตอนไหน” มุกดาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากใส่ปรมินทร์ไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เลิกขู่พี่สักทีเถอะมุก เรื่องของเราสองคนมันเกิดขึ้นก็เพราะความเมา ความเข้าใจผิดทั้งนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะถ้าคืนนั้นเขาไม่เมาและมาที่นี่ เขาก็คงไม่เผลอตัวไปหลับนอนกับมุกดา จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก
“แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วหลังจากคืนนั้นพี่ปาล์มก็มานอนกับมุกตลอดเลยนิคะ ทำไมคะ แค่พี่มีนจะกลับมาแค่นี้ พี่ปาล์มคิดจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วเหรอคะ พี่มีนเขาจะรู้ทำหน้ายังไงนะคะ ถ้าเขารู้ว่าแฟนตัวเองมาเอากับน้องสาวแบบนี้…” มุกดาพูดออกไปก็ค่อยๆเอามือแกะดุมเสื้อชุดนักศึกษาของตัวเองออกช้าๆทีละเม็ดๆ พร้อมกับส่งสายตามองปรมินทร์แบบยั่วยวน
บทล่าสุด
#120 บทที่ 120 ตอนจบ
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#119 บทที่ 119 บทส่งท้าย
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#118 บทที่ 118 มีเมียแล้วครับ
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#117 บทที่ 117 ตัวแสบ
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#116 บทที่ 116 งอนอะไรอีก
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#115 บทที่ 115 อารมณ์แปรปรวน
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#114 บทที่ 114 คิดถึงเมีย 18+
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#113 บทที่ 113 เสียใจดีกว่าเสียรู้
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#112 บทที่ 112 ยุ่งอะไรด้วย
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025#111 บทที่ 111 สันดานไม่ดี
อัปเดตล่าสุด: 9/26/2025
คุณอาจชอบ 😍
หญิงสาวถูกทอดทิ้งจากหมู่บ้านเกษตรกร
เธอคิดว่าชีวิตคงจบลงเพียงเท่านี้ แต่ไม่คาดคิดว่าชีวิตเหมือนกระดานหมาก ที่ทุกตาล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สามีที่บ้าไม่เพียงกลับมาเป็นปกติ แต่ยังพาเธอสร้างฐานะจนร่ำรวย
มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ? ไม่แน่เสมอไป! แต่เมื่ออยู่ข้างซ่งชูซิน สามีที่รักและเอาใจเธอ ไต้เยวี่ยเหอกลับทำอะไรได้ตามใจปรารถนาเสมอ
ส่วนซ่งชูซิน ในฐานะดวงวิญญาณเดียวดายที่ข้ามมาจากอีกห้วงเวลาอันไกลโพ้น เขารู้สึกซาบซึ้งใจเสมอที่ได้พบกับไต้เยวี่ยเหอ ไม่ว่าโลกภายนอกจะวิพากษ์วิจารณ์หรือทำร้ายเธออย่างไร เขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างเธออย่างมั่นคง
ทรัพย์สินเงินทองนั้นมีค่าอะไร? ชื่อเสียงเลื่องลือมีความหมายอะไร? ชีวิตนี้ ข้าเพียงปรารถนา และอยากจะอยู่เคียงข้างเจ้า ร่วมต้อนรับแสงอรุณ ชมพระอาทิตย์อัสดง และในลานเล็กๆ ที่เราครอบครองร่วมกัน ปลูกดอกไม้ที่เจ้าชื่นชอบให้เต็มไปหมด...
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
สาวใช้ของมหาเศรษฐีผู้ครอบงำ
สาวใช้ไร้เดียงสาที่ทำงานให้กับพี่น้องมหาเศรษฐีสองคนที่มีอำนาจเหนือกว่า กำลังพยายามซ่อนตัวจากพวกเขา เพราะเธอได้ยินมาว่าถ้าสายตาอันหื่นกระหายของพวกเขาตกลงไปที่ผู้หญิงคนไหน พวกเขาจะทำให้เธอกลายเป็นทาสและครอบครองจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของเธอ
ถ้าวันหนึ่งเธอได้พบกับพวกเขาล่ะ? ใครจะจ้างเธอให้เป็นสาวใช้ส่วนตัว? ใครจะควบคุมร่างกายของเธอ? ใครจะเป็นเจ้าของหัวใจของเธอ? ใครที่เธอจะตกหลุมรัก? ใครที่เธอจะเกลียด?
“ได้โปรดอย่าลงโทษฉันเลยค่ะ คราวหน้าฉันจะมาตรงเวลา มันแค่-“
“ถ้าคราวหน้าพูดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉันจะปิดปากเธอด้วยของฉัน” ตาฉันเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“เธอเป็นของฉันนะ ลูกแมว” เขากระแทกเข้ามาในตัวฉันอย่างแรงและเร็ว ลึกขึ้นทุกครั้งที่เขาเคลื่อนตัว
“ฉัน...เป็น...ของคุณ...นายท่าน...” ฉันครางอย่างบ้าคลั่ง กำมือไว้ข้างหลัง
คู่มนุษย์ของราชาหมาป่า
"ฉันรอเธอมานานเก้าปี นั่นเกือบจะเป็นทศวรรษที่ฉันรู้สึกว่างเปล่าภายในตัวเอง ส่วนหนึ่งของฉันเริ่มสงสัยว่าเธอไม่มีตัวตนหรือเธออาจจะตายไปแล้ว และแล้วฉันก็พบเธอ อยู่ในบ้านของฉันเอง"
เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบแก้มของฉัน ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั่ว
"ฉันใช้เวลามากพอแล้วโดยไม่มีเธอ และฉันจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากเราจากกัน ไม่ใช่หมาป่าตัวอื่น ไม่ใช่พ่อขี้เมาของฉันที่แทบจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ - และไม่ใช่แม้แต่เธอเอง"
คลาร์ก เบลเลอวิว ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเป็นมนุษย์คนเดียวในฝูงหมาป่า - จริงๆ เลยนะ เมื่อสิบแปดปีก่อน คลาร์กเกิดจากความสัมพันธ์ชั่วคราวระหว่างหนึ่งในอัลฟ่าที่ทรงพลังที่สุดในโลกกับผู้หญิงมนุษย์คนหนึ่ง แม้จะอาศัยอยู่กับพ่อและพี่น้องลูกครึ่งหมาป่าของเธอ คลาร์กก็ไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของโลกหมาป่าเลย แต่พอคลาร์กวางแผนจะทิ้งโลกหมาป่าไปตลอดกาล ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อพบคู่ชีวิตของเธอ: กริฟฟิน บาร์โดต์ อัลฟ่าคิงคนต่อไป กริฟฟินรอคอยมาหลายปีเพื่อพบคู่ชีวิตของเขา และเขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่สำคัญว่าคลาร์กจะพยายามหนีจากชะตากรรมของเธอหรือคู่ชีวิตของเธอไปไกลแค่ไหน - กริฟฟินตั้งใจจะรักษาเธอไว้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรหรือใครจะขวางทางเขาก็ตาม
หัวใจแปรผัน
เธอตัดสินใจหย่าร้าง แต่อเล็กซ์รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนดีกับเธอ ในขณะนั้น เซบขอเธอแต่งงาน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรล้ำค่ามาให้และพูดว่า "แต่งงานกับฉันเถอะ ได้โปรด"
ด้วยความที่ลุงของอดีตสามีของเธอไล่ตามเธออย่างจริงจัง ชารอนจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจ เธอจะตัดสินใจอย่างไร?
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
ก้าวสู่ความรัก: หัวหน้าหวานใจรักแรก
สิ่งที่หยุนเสี่ยงอยากทำมากที่สุดเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีต คือการห้ามตัวเองในวัย 17 ไม่ให้ตกหลุมรักเซี่ยจวินเฉินวัย 18 ปี
แต่เมื่อวิญญาณวัย 26 ปีของเธอได้เข้าสิงร่างของเด็กสาววัย 17 อีกคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หยุนเสี่ยงคาดไว้เลย
หม่อซิงเจ๋อ บอสในอนาคตของเธอ ดันมาอาศัยอยู่ในบ้านที่เธออยู่ตอนนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชีวิตการอยู่ร่วมชายคาที่วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น
หนึ่งปีต่อมา
อุบัติเหตุรถชนที่ไม่คาดคิด พาหยุนเสี่ยงกลับไปยังวัย 26 ปีของเธออีกครั้ง
เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันที่สวยงาม พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม
แต่ตั้งแต่เธอปรากฏตัวต่อหน้าหม่อซิงเจ๋ออีกครั้ง
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สำหรับเธอ มันเป็นเพียงเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับหม่อซิงเจ๋อ เธอคือคนที่เขาหมกมุ่นมาตลอดเก้าปี
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดจากโลกของเขาอีกครั้ง
หม่อซิงเจ๋อจับมือหยุนเสี่ยงที่กำลังจะเดินจากไป กัดฟันพูดอย่างเดือดดาล "หยุนเสี่ยง ฉันรอเธอมาเก้าปี แค่ให้เธอรออีกเก้านาทีมันยากนักเหรอ?"
น้ำตาของหยุนเสี่ยงไหลอาบแก้ม "ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว"
หม่อซิงเจ๋อโกรธจนแทบคลั่ง เขาทุ่มเททุกวิถีทางก็เพื่อกักเธอไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตเท่านั้น