บทที่ 7 ควงสอง 100%
ด้านมารียาที่มาอยู่ที่ดูไบได้หลายวันแล้วเธอก็เริ่มจะเข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดูไบถึงเป็นเมืองที่เจริญแบบนี้ หลังจากที่เธอนั้นไปตระเวนเที่ยวกับพี่สาวของเธอมา
“กลับมากันแล้วเหรอ ผมอยากจะเจอพวกคุณสองคนอยู่พอดีเลย…พรุ่งนี้เพื่อนผมจัดงานแข่งรถที่ทะเลทราย คุณสองคนอยากจะไปด้วยไหม” จาซุสเอ่ยถามออกไป เพราะไม่รู้ว่าสองสาวจะสนใจหรือเปล่า
“ไปสิคะ ฉันอยากจะไปเห็นทะเลทรายแบบกว้างๆใหญ่ๆค่ะ” มารียารีบตอบไปแบบดีใจด้วยสายตาลุกวาว
จนจาซุสนั้นอมย้ำขำๆ เพราะมันเหมือนกับตอนที่เขาชวนกวินตาไปเที่ยวทะเลทรายยครั้งแรกเลย เธอก็ดีใจแบบนี้แหละ แต่พอจบทริปนั้นเขาชวนเธอทีไรเธอก็ปฏิเสธเขาทุกทีเพราะอากาศมันค่อนข้างจะร้อนมากเลยทีเดียว
“แต่มันร้อนมากเลยนะมีน…มันไม่ได้ไปแบบสบายๆอย่างที่เราคิดเลยนะ พี่ว่าเราไม่ไปดีกว่ามั้ง” กวินตาพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ขยาดเต็มที เมื่อได้ยินคำว่าทะเลทราย
“ไปเถอะค่ะพี่กวาง มีนมาดูไบทั้งทีก็ต้องไปให้ถึงทะเลทรายสิคะ น่านะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองค่ะ อดทนเพื่อน้องหน่อยนะคะ นะคะพี่สาวคนสวย…”มารียาพูดอ้อนๆอย่างขอร้องพี่สาวของเธอไป
“น้องคุณเขาก็พูดขอร้องซะขนาดนี้แล้วคุณก็พาเขาไปเถอะ ถ้าคุณร้อนก็นั่งตากแอร์ในรถก็แล้วกัน…เดี๋ยวผมจะเอารถไปสองคัน” จาซุสพูดบอกไปแบบอ่อนโยน เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ชอบอากาศร้อนๆ แต่ที่แข่งก็พอจะมีเต้นท์แอร์ให้อยู่แล้ว ซึ่งเขาสามารถพาสองสาวเข้าไปนั่งพักกับพวกเพื่อนๆของเขาได้
“ทำไมต้องเอาไปสองคันคะ หรือว่าคุณจะแข่งรถกับพวกเพื่อนๆอีก” กวินตาเอ่ยถามออกไปเพราะคราวก่อนเขาก็แข่งมาจนเธอนั้นใจหายใจคว่ำไปหมดเลย
“อืม…พอดีฮัสลานมันลงแข่งน่ะ ผมกับราชิดก็ต้องลงแข่งด้วยน่ะสิ…ผมเลยอยากให้คุณไปให้กำลังใจผมไง แล้วคุณก็จะได้พาน้องสาวของคุณไปเปิดหูเปิดตาด้วยไง” จาซุสพูดบอกไปก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
มารียาที่ได้ยินทั้งสองพูดคุยกันนั้นมองแล้วยิ้มอย่างชอบใจ เพราะตั้งแต่เธอมาอยู่กับพี่สาวที่นี่ เธอก็เห็นจาซุสนั้นพูดจาและปฎิบัติกับพี่สาวของเธอดีมาก ดีจนไม่น่าเชื่อว่าพี่สาวของเธอจะเป็นแค่นางบำเรอของเขา เพราะการกระทำของจาซุสนั้นทำราวกับคนรักกันก็ไม่ปาน
“โอเคค่ะ ไปก็ไป…พูดกันขนาดนี้แล้วฉันก็ต้องไปไหมล่ะคะ” กวินตาพูดบอกไปแบบยอมๆ เพราะขอร้องกันขนาดนี้เธอจะไม่ยอมได้ยังไงกันล่ะ
“โอเค พรุ่งนี้ผมจะได้มีกำลังใจแข่งหน่อย แล้วถ้าผมชนะสองคนนั้นล่ะก็ ผมจะพาคุณกับน้องไปเลี้ยงฉลองแบบจัดเต็มเลย ฮ่าๆ” จาซุสพูดไปแล้วก็หัวเราะออกมา เพราะทุกการแข่งขันย่อมมีการเดิมเสมอและมันก็ไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย
“งั้นเราสองคนจะเชียร์คุณเต็มที่เลยค่ะ…” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้เขาไปอย่างเอาใจ เมื่อเห็นเขาได้ดูท่าทางมีความสุขแบบนี้
วันต่อมา ณ ทะเลทรายอาหรับในดูไบ
มารียาพอมาถึงก็เดินตามจาซุสและพี่สาวของเธอไปนั่นไปนี่ จนเธอร้อนจนไม่รู้จะร้อนยังไงแล้ว ทำให้เธอเข้าใจเลยว่าทำไมพี่สาวของเธอไม่อยากจะมาอีกเป็นครั้งที่สองที่สามน่ะ แต่พอจาซุสพาพวกเธอเข้ามาในกระโจมใหญ่ๆนี่แล้วเธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเลยเมื่อในนี้มันมีแอร์อยู่
“ไงวะจาซุส วันนี้ควงสาวมาสองคนเลยเหรอวะเนี่ย…เอ๊ะ..คนนี้หน้าคุ้นๆเหมือนคนที่แกเอามาด้วยตอนแข่งคราวก่อนนี่หว่า…” ราชิดที่นั่งอยู่เอ่ยทักทายเพื่อนหนุ่มไปแล้วมองสาวสวยทั้งสองคนที่เพื่อนหนุ่มพามาด้วยอย่างจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ผอมเพรียวนั้นคือกวินตาซึ่งมันเคยพามาก่อน แต่คนที่อวบอิ่มมีน้ำมีนวลอีกคนนี่สิ แม่ง…น่าฟัดมากเลย ราชิดคิดในใจอย่างอดไมได้
“อืม..ก็คนเดิมนั่นแหละ ส่วนนี่มีนเขาเป็นน้องสาวของกวางเขา…” จาซุสพูดบอกไปด้วยสีหน้าเข้มๆ เพราะเขารู้ว่าเพื่อนหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เขาจึงพูดแกมอธิบายให้มันได้รู้ว่าเขานั้นไม่ได้ควงสองมากแบบที่มันคิดอกุศล
“อ้อ น้องสาวของผู้หญิงของแกนี่เอง ฉันก็นึกว่าแกจะควบสองแล้วซะอีก ฮ่าๆ… คนนี้อยู่นานนิวะจาซุส…” ราชิดพูดไปก็หัวเราะออกมาอย่างขำๆ เพราะไม่คิดว่าเพื่อนหนุ่มจะอยู่กับคนนี้นานขนาดนี้ถ้านับตั้งแต่ที่เขาเจอตอนแข่งคราวก่อน
ด้านกวินตาที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้านิ่งๆออกไปเพราะคนพวกนี้นั้นชอบดูถูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนี่แหละคือหุตผลที่เธอนั้นไม่ค่อยอยากจะมา เพราะเธอไม่ใช่สาวๆที่จะมาคอยพูดเอาใจแบบคนอื่นๆ
ส่วนมารียาพอได้ยินเพื่อนของจาซุสพูดออกมาแบบนั้นก็ทำหน้าบึ้งออกมาทันที เพราะไม่ให้เกียรติผู้หญิงเอาซะเลย คิดว่ารวยแล้วจะพูดยังไงก็ได้เหรอ มารียาคิดในใจไปแบบโมโหที่เจอคนแบบนี้
“หุบปากของแกไปเลยราชิด…นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน และฉันก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายหรือว่าให้ผู้หญิงของฉันด้วย….” จาซุสพูดออกไปด้วยเสียงเข้มพร้อมกับทำสีหน้าดุๆออกไป
“โอเคๆ ฉันก็แค่พูดล้อเล่นน่า แกอย่าสนใจคนปากหมาแบบฉันเลยดีกว่า ส่วนคุณสองคนเชิญตามสบายเลยครับ อาหารเครื่องดื่มในนี้ทานได้ทุกอย่างเลย…” ราชิดได้ยินเพื่อนหนุ่มพูดแบบนั้นก็รู้เลยว่าเขาพูดไม่เข้าหูซะแล้ว เขาจึงพูดแบบนั้นออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดราม่านี้ทันที
“กวาง เดี๋ยวคุณพาน้องไปหาอะไรทานก่อนนะ ผมขอคุยกับเพื่อนของผมก่อน” จาซุสหันไปพูดบอกกวินตาไป แล้วเขาก็มองหน้าสบตากับเธออย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าของเพื่อนหนุ่มแบบเอาเรื่อง
“ค่ะ…มีน ไปกันเถอะ..” กวินตาพยักหน้าตอบไปก็ชวนน้องสาวของเธอเดินไปหาอะไรมาทานรองท้องรอการแข่งขันทันที พอสองสาวเดินไปจาซุสก็ขี้หน้าเพื่อนหนุ่มทันที
“ราชิด ต่อไปแกอย่ามาพูดดูถูกผู้หญิงของฉันอีก กวางเขาไม่ได้เหมือนกับคนอื่นๆที่แกเคยเห็น” จาซุสพูดบอกไปแบบจริงจัง เพราะเขาจะไม่ให้เพื่อนหนุ่มมาพูดเสียดสีอะไรใส่ผู้หญิงของเขาอีก
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าแกเลี้ยงไว้เล่นๆแบบที่ผ่านมา แต่นี่แกเอาจริงเหรอวะเนี่ย…แกกำลังโกรธฉันเพียงเพราะฉันพูดแค่นั้นกับเขาเนี่ยนะ”ราชิดถามไปอย่างอยากรู้ เพราะเพื่อนเขาไม่เคยพูดแบบนี้กับเขาเลย แต่เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เพื่อนเขาทำหน้าไม่พอใจใส่เขาได้ มันก็ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
“ใช่…และฉันหวังว่าฉันจะไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นจากปากของแกอีกนะราชิด…” จาซุสพูดออกไปก็มองเพื่อนหนุ่มด้วยสายตาจดจ้อง
“โอเคๆ ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะระมัดระวังคำพูดของตัวเองมากกว่านี้…มาๆ มานั่งคุยกันรอฮัสลานมันมาดีกว่า อย่ามาเสียเวลากับเรื่องเมื่อกี้เลย” ราชิดพูดบอกไปแล้วก็เอามือตบที่เบอะเรียกเพื่อนหนุ่มออกไป
จาซุสก็เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเพื่อนหนุ่มด้วยสีหน้าเซ็งๆ แล้วเขาก็ถูกเพื่อนหนุ่มสอบสวนเรื่องของกวินตาไป ซึ่งเขาก็เลือกที่จะพูดความจริงไปเลยว่าเขานั้นเลี้ยงกวินตามาปีกว่าๆแล้ว แล้วตอนนี้เขาก็พาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านด้วย ทำให้ราชิดนั้นตกใจมากที่เพื่อนหนุ่มทำถึงขนาดนั้น
ด้านฮัสลานก็ขับรถมาจอดที่หน้ากระโจมใหญ่ของเพื่อนหนุ่มก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในกระโจมแบบเท่ห์ๆ แต่ระหว่างที่เขานั้นเอามือแหวกผ้าจะเข้าไป กลับมีคนจากด้านในแหวกผ้าออกมาเช่นกัน ทำให้เขานั้นยื่นหน้าไปใกล้กับคนที่เปิดผ้านั้นอย่างไม่ตั้งใจ
มารียาเองก็ตกใจแล้วทำตาโตมองคนตรงหน้าอย่างเกร็งๆเลยทีเดียว เพราะอีกแค่นิดเดียวหน้าเธอจะชนกับเขาอยู่แล้ว และมันก็ทำให้เธอนั้นได้มองสบตากับเขา จนเธอนั้นรีบถอยตัวเองออกมาอย่างเขินอาย
