บทที่ 10 chapter 10

แต่ถึงเห็นอย่างนั้น สาวน้อยหน้าใสแก้มป่อง นัยน์ตากลมโตบ้องแบ๊วก็ไม่สนใจ รีบสาวเท้าวิ่งไปด้านหน้า แล้วอ้าแขนดักไว้ด้วยหัวใจแกว่งๆ เกรงใจระคนสั่นเล็กน้อยจากมาดนิ่งๆ จนเป็นเย็นชาของอีกฝ่าย พานให้นึกไปถึงเจ้าหญิงหิมะ ที่เห็นแล้ว...หนาวต้นคอชะมัด!

“เธอนี่นะ...จะทำเย็นชาไปถึงไหนฮึ! ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจก็บอกกันสิ ไม่พูดอย่างนี้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะว่าเธอคิดอะไรอยู่” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้างอง้ำ น้ำเสียงหวานใสและรอยยิ้มประจบประแจงราวกับว่าสนิทสนมกันมาแสนนาน

คนที่จมอยู่ในโลกส่วนตัว เดินทางออกจากบ้านมาด้วยอาการของคนที่หัวใจถูกบีบคั้นเคืองแค้น จนอึดอัดไม่อยากจะหายใจ มาเพียงแค่กาย ทิ้งวิญญาณเอาไว้ที่บ้านหยุดชะงัก ตวัดสายตาเข้มดุด้วยเกรี้ยวกราด กลีบปากอิ่มนุ่มซีดเผือดขบกัดเม้มอย่างพยายามระงับสติอารมณ์โทสะที่กรุ่นขึ้นใส่แม่สาวไม่รู้จักมารยาท ลามปามคนไม่รู้จัก ก่อนสาวเท้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่แม่คนเสียมารยาก็ยังเดินตามมาและสอดมือเข้าคล้องแขน ตีซี้ทำสนิทสนมด้วยอีก

คนร่างเพรียวบางหยุดเดิน ใบหน้าที่เชิดขึ้นสูงจนคอแข็งสะบัดขวับมอง...เพื่อบอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่อยากสนทนาด้วย ทว่าแม่สาวร่างเล็กที่อยู่เบื้องหน้ากลับทำตาใส และยิ้มแฉ่งประจบประแจงอย่างไม่รับรู้เพลิงโทสะที่สาดใส่ไป

“กรุณาทำตัวมีมารยาทหน่อย ปล่อย!” หญิงสาวผู้ถูกก่อกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดุ สำทับด้วยการส่งสายตาแข็งกร้าวและดุร้ายไปให้

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้อยากมาตีซี้ทำสนิทสนมกับคุณหรอก ฉันแค่อยากช่วยคุณเท่านั้นเอง” หญิงสาวก้มหน้าลงไปทำเสียงกระซิบกระซาบ ด้วยหางตาคล้ายยังเห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ไม่ไกล

“ช่วย...ไม่ทราบว่าฉันต้องให้เธอช่วยเรื่องอะไร!” คนถูกก่อกวนยังคงเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นจัด

คนตัวเล็กกว่าถึงกับถอนหายใจเฮือกโต คิดสรุปเอาเอง จากลักษณะของการแต่งกายและรูปร่างภายนอกที่ได้เห็น ท่าทางเบื่อโลกขนาดนี้ต้องมีปัญหาหนักอก แต่มีปัญหาแค่ไหนก็ช่วยมองรอบๆ หน่อยได้ไหมเล่า ไม่ใช่บ้านตัวเองสักหน่อย เกิดมีเหตุร้ายแรงอะไร ใครจะไปช่วยได้ล่ะ

“ฉันไม่ได้อยากบอกให้คุณกลัวนะ แต่ช่วยดูรอบๆ หน่อยได้ไหม” คนตัวเล็กกว่ากระซิบบอก ด้วยรู้สึกว่าขนบนคอยังลุกเกรียว เสียวที่แผ่นหลังวูบๆ อยู่ เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ยังเห็นเหล่าคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าพื้นเมืองแบบมิดชิด เหมาะกับการเดินทางในทะเลทรายเดินตามมาอย่างช้าๆ

ความจริงก็ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยหรอกนะ แต่...สัญชาตญาณส่วนลึกในใจบอกว่ามีปัญหา ด้วยใบหน้าของทุกคนมีผ้าปิดอยู่จนเหลือเพียงแค่ลูกกะตาที่สอดส่ายเมียงมองมายังคนตรงหน้าเธอ ที่สำคัญคือตัวเธอเองเป็นพวกแปลกประหลาด ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องทั่วไป แบบว่าพอจะเกิดเรื่องร้ายมักมีลางบอกเหตุ ครั่นเนื้อครั่นตัว เดี๋ยวร้อนเดียวหนาวคล้ายคนเป็นไข้! นะสิ

คนถูกเตือนรีบกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ก่อนเบ้ปากเมื่อเห็นเพียงแค่ว่ามีคนเหลียวมองมาด้วยความสนใจ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกสำหรับสาวซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์เช่นเธอ

“ไม่ต้องสร้างเรื่องให้ดูน่ากลัว” คนตัวโตพูดเสียงเข้มดุ คนกำลังอารมณ์ไม่ดี เมื่อจำต้องดั้นด้นเดินทางมาจากครอบครัวที่รักมาถึงดินแดนทะเลทราย ใครอยากให้ชีวิตที่มีความสุข โอบล้อมไปด้วยครอบครัวที่อบอุ่นและความรักของพ่อแม่และญาติพี่น้องต้องมาสะดุด เพราะฝันร้ายกันเล่า! นี่ยังมาเจอแม่สาวช่างจินตนาการเรื่องร้ายๆ เอาเรื่องชวนปวดหัวมาให้อีก

“ฉันไม่อยากคุยกับเธอ ไปให้พ้น” คนที่ถูกก่อกวนไล่เสียงเย็นยะเยือก พลางเหลียวมองไปรอบๆ บริเวณอีกครั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ หรือเพราะเธอไม่สนใจมองตั้งแต่แรก เลยไม่รู้เรื่องรู้ราว...แต่ก็ใช่ ในวินาทีนี้ใครจะไปสนใจอะไรล่ะ ในเมื่อความทุกข์รายรอบโอบล้อมกาย ให้ถูกจับไปฆ่าหมกทะเลทรายเสียก็ดี จะได้ไม่ต้องทำเรื่องบ้าๆ นั่น

แค่คิดเท่านั้น กลีบปากอิ่มก็สั่นระริกจนต้องรีบขบกัดเอาไว้ น้ำตาพานจะไหลออกมา จนต้องแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กระจ่างสดใส ช่างแตกต่างกับความรู้สึกของเธอในตอนนี้...ที่มืดมนเช่นอุโมงค์มืดมิดที่หาทางออกไม่เจอ

“คุณนี่นะ ฉันแค่หวังดี ไม่ได้คิดอย่างที่ว่าเลยสักนิด มีตามองไม่เห็นหรือไง คนพวกนั้นจ้องมองคุณอย่างกับสุนัขจิ้งจอกจ้องขย้ำเหยื่ออันโอชะ ไปทำอะไรเข้าล่ะ ถึงได้ทำให้คนไม่พอใจขนาดนี้น่ะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างคนปากไว ลักษณะที่สัมผัสได้ ไม่ใช่มองด้วยความสนใจ แต่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะทำมิดีมิร้ายมากกว่า

“เฮ้ย!! ไม่ใช่นะ” คนตัวเล็กรีบยกมือส่ายปฏิเสธโดยเร็วไว “อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณหรอกนะ แต่ปากฉันมันไวไปนิดหนึ่งเท่านั้นเอง น่า...อย่าโกรธสิ แค่นี้คุณก็ทำท่าอย่างกับจะกัดคอฉันจนจมเขี้ยว ท่าทางน่ากลัวจนฉันตัวสั่นแล้วเห็นไหม” หญิงสาวรีบเอ่ยดักคอเสียก่อน เมื่อรับรู้ถึงรัศมีแห่งความขุ่นเคืองเกรี้ยวกราดที่สาดมาจากร่างเพรียว

“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้ไปเสียที”

กลีบปากบางเฉียบเบ้ไปมาอย่างอึดอัดรำคาญใจตัวเอง เพราะไม่รู้ทำไมเธอถึงปล่อยให้คนตรงหน้าไปคนเดียวไม่ได้ เฮ้อ! เบื่อจังเลยกับไอ้ความรู้สึกแปลกๆ นี่นะ...เมื่อไหร่จะหมดไปเสียทีก็ไม่รู้

“อืม...ฉันไปกับคุณดีกว่า เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือกัน”

“ไม่จำเป็น!” คนถูกก่อกวนกระแทกเสียงเข้มใส่จอมจุ้นจ้าน ถ้าหากเป็นอะไรไป...ก็ช่างหัวมันสิ! ตายหรืออยู่ก็มีค่าไม่ต่างกัน แต่การตายอาจให้ประโยชน์มากกว่าอยู่

“เอาน่าคุณ...เสียใจอะไรมา ก็อย่าทำเหมือนชีวิตไม่มีค่าอย่างนี้สิ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ทั้งนั้นแหละ แค่เราต้องให้เวลากับมันสักหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มหวาน พ่อกับแม่สอนเธอเสมอ ชีวิตคนเราทุกข์มากกว่าสุข จงทำตัวให้ชิน อย่าให้ความทุกข์มีอำนาจเหนือกว่า รู้จักคิดแก้ไขไตร่ตรองปัญหาอย่างรอบคอบและมีสติเข้าไว้ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

“เธอจะไปรู้อะไร ไม่เกิดเรื่องกับตัวเองทำเก่งพูดสอนคนอื่นเขาได้ ทีหลังไม่ใช่เรื่องของตัวอย่ามาสอด!” คนเราเป็นอย่างนี้แหละ ชอบจุ้นเรื่องของคนอื่น ทำเป็นเก่ง แนะนำหาทางออกให้ แต่พอเกิดเรื่องกับตัวเอง...ก็เป็นเหมือนเธอนี่ไง เจ็บปวดเจียนหัวใจขาดรอน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป