บทที่ 4 chapter 4

กายอรชรทรุดลงยื่นมือสั่นไปหาชายสกปรกมอมแมมอย่างไม่นึกรังเกียจรังงอน ด้วยถือว่าคนเราไม่ต้องการให้เรื่องมันเลวร้าย แต่โชคชะตาต่างหากเป็นผู้กำหนดเส้นทางเดินให้ ดังเช่นคนตรงหน้าที่คงต้องรับผลจากการกระทำ พานให้ตัวเองต้องมาพบกับเรื่องราวเลวร้าย

แค่ก้าวเข้ามาในงานเค้าลางร้ายก็อบอวลจนทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็ถดถอยหนีแล้ว อย่างนี้จะให้เจ้าสาวแสนบริสุทธิ์ต้องยื่นมือไปสัมผัสกับเนื้อกายสกปรกแปดเปื้อน รับเอาความโชคร้ายมาถูกตัวได้อย่างไรกัน

ไอซาย่าเงยหน้ามองใบหน้าเข้ม ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยด้วยวาจา แค่ยื่นมือสอดไปให้เขากระชับก็รับรู้ถึงหัวใจและความห่วงใย พร้อมความมั่นคงและมั่นใจ...ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น อันเดซาอีจะไม่มีวันทอดทิ้งให้เธอต้องเดียวอาย อกกว้างให้พักอิง แขนแกร่งจะโอบอุ้มมิให้โพยภัยมากล้ำกราย นับจากนี้จนตลอดไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังคงอยู่

“ไม่...อย่ามายุ่งนะคนใจร้าย” เพราะกลัวถูกจับโยนออกไปจากงานอย่างที่เจ้าบ่าวหน้าหล่อแต่ใจร้ายพูด โอซามุจึงยกมือปัดป้อง

“ไม่ไป! จะอยู่ที่ ที่นี่สนุกดี มีคนเยอะแยะไปหมด มีของกินอร่อยๆ ด้วย” ชายสติขาดหายหยุดร้องไห้ฟูมฟาย ดันตัวเองลุกขึ้นยืน สองมือเปื้อนดำยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า สองเท้าสลัดทรายบนเรือนกายมุ่งตรงไปหาอาหาร

เห็นแล้ว คงไม่มีใครกล้านำชายขาดสติคนนี้ออกไปจากงาน...เขาคงต้องจัดการเอง แต่ไม่ทันที่อันเดซาอีจะได้ทำอย่างใจ ก็เกิดเหตุโกลาหล พายุโหมกระหน่ำสัดเอาทรายปลิวมาราวกับห่าฝน บ่งบอกถึงเหตุภัยร้ายที่มาเยือน

ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวกลับมืดมิดไปด้วยเหยี่ยวทะเลทรายที่โผผินบินว่อน บ้างโฉบลงมาจิกกินอาหารบนโต๊ะ บางตัวเกาะอยู่บนพุ่มไม้และทั่วทุกหนแห่งของงาน เพียงเสี้ยววินาทีอาชานับสิบก็กรูเข้ามาจนฝุ่นตลบและเสียงปืน!

“ข้าฮิบรานขุนโจรแห่งภูเขาเฮดามาแล้ว ใครไม่กลัวตายก็ดาหน้าเข้ามา ส่วนใครที่กลัวตายก็รีบปลดทรัพย์สินมีค่าโยนมากองไว้ตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้!”

ผู้เป็นหัวหน้านั่งอยู่บนอาชาตัวดำใหญ่คำรามน้ำเสียงดุดัน พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เป็นระยะ ทำให้ผู้คนที่มาร่วมงานหวีดร้องเสียงหลง รีบทำตามคำสั่งอย่างเร่งรีบลนลาน แต่ยังมีบุคคลผู้หนึ่งที่แม้ขุนโจรใหญ่สาดสายตาดุกร้าวตวัดมองไปยังหนุ่มน้อยหน้าตาเข้มขึง ท่าทางองอาจผึ่งผาย ไม่มีท่าทางกริ่งเกรงกลัวแม้แต่น้อย สร้างความขุ่นเคืองใจแก่ฮิบรานจนเป็นเดือดดาล กราดยิงกระหน่ำไปทั่วทุกสารทิศพร้อมเสียงหัวเราะที่ผสมผสานราวกับปีศาจผุดขึ้นมาจากขุมนรกก็ไม่ปาน

ผู้คนที่มาร่วมงานต่างตกใจกรีดร้องเสียงหลง วิ่งหลบห่ากระสุนที่สาดมาอย่างโกลาหล คนไหนหนีไม่ทันก็ล้มคลุกพื้น ไม่ตายก็บาดเจ็บ ส่งเสียงร้องโอดโอยสร้างความเวทนาให้กับคนที่ได้เห็น ไม่ต่างจากอันเดซาอีซึ่งรีบจับแขนเจ้าสาวพาวิ่งลัดเลาะไปเพื่อหลบภัย อีกทั้งคิดไปนำเอาอาวุธมาต่อสู้กับโจรร้าย เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ในครอบครัวที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ให้รอดพ้นภัย ทว่าเขาก็ไปได้เพียงแค่เล็กน้อย โจรร้ายที่หาญกล้าบุกมาปล้นฆ่าผู้คนทั้งที่อยู่ในช่วงเวลากลางวันก็เหยาะย่างอาชาใหญ่มาดักไว้เบื้องหน้าเสียก่อน

“จะไปไหนเล่าไอ้หนุ่ม ข้ามาตามคำเชิญของเจ้าแล้วอย่างไร มารับอาหารแห้ง เงินทองแล้วก็...” สายตาราวกับสุนัขจิ้งจอกไปหยุดที่สาวน้อยร่างเล็กบอบบางซึ่งขลาดกลัวจนตัวสั่น ขยับไปจนกายเล็กถูกกายใหญ่บดบังจนมิด

ขุนโจรร้ายยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจกับรูปร่างของสาวงามผู้เลอโฉม ความงามของบุตรสาวพ่อค้าวานิชลือเลื่องขจรกระจายไปไกล จนเหล่าขุนโจรผู้เป็นลูกน้องต่างก็ยุให้เขานั้นมาฉุดคร่าไปทำเมียเสียหลายครั้ง แต่ตอนนั้นเขาคิดว่านางยังเด็ก แล้วเขาไม่ชอบเด็กที่จะต้องคอยเอาอกเอาใจ ยามทำอะไรไม่ถูกใจคุณเธอทั้งหลายด้วย

“อีกไม่นานโว้ย ข้าจะไปพาผู้หญิงคนนั้นมาทำให้พวกเอ็งอิจฉาเล่น ฮ่าฮ่า...” เมื่อเมรัยเข้าปากก็เกิดความคึกคะนอง คำพูดคำจาจึงเต็มไปด้วยความฮึกเหิม แต่ไม่เคยคิดจริงจัง ด้วยรอบกายเขามีสาวงามคอยคลอเคลียเอาอกเอาใจให้ความสำราญอยู่แล้ว แต่เมื่อได้มาเห็นในวันนี้...

ม่านผ้าสีขาวผืนบางฉลุลายดอกไม้สีชมพูอ่อนจาง ที่มิอาจปกปิดใบหน้างามผุดผ่องแรกแย้มราวดอกไม้แรกผลิได้ นัยน์ตากลมโตฉายแววหวาดหวั่นหวาดกลัวแต่มีชีวิตชีวา ทำเอาหัวใจจอมโจรร้ายถึงกับสะดุด อยากยื่นมือไปสัมผัสโอบอุ้มเรือนกายอรชรอ้อนแอ้นบอบบางที่ต้องการคนเข้มแข็งและแกร่งกล้าเช่นคนอาจหาญอย่างเขาปกป้องคุ้มครอง เสียดายสุดใจขาดดิ้นที่ไม่เชื่อคำยุของเหล่าสมุนโจรผู้อหังการ เร่งรุดไปจับเอาเธอมาทำเมีย! เสียตั้งนานแล้ว แต่...

ถึงจะมาเจอในวันนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนี่นา ในเมื่อนางผู้งามสง่า คู่ควรกับเขา...ฮิบราน ผู้เป็นหนึ่งแห่งขุนเขาเฮดา เหมาะที่จะเป็นแม่หญิงผู้ให้กำเนิดบุตรชายผู้ที่สืบทอดและปกคลุมกองโจรสืบนับเนื่องต่อไปเสียจริง! หญิงสาวที่แสนจะบริสุทธิ์ผุดผ่องทำให้นึกถึงดอกไม้ตูมเต่งที่จะผลิบานในอุ้งมือ ยามถูกโลมเล้าอย่างสนิทด้วยเพลิงเสน่หาเร่าร้อน

“มารับ...เมีย!”

ไอซาย่าถึงกับสะดุ้งหน้าซีดเผือด แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ก็ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่นอยู่แล้ว นี่ยังมีชายท่าทางน่ากลัวนั่งตระหง่านราวกับภูผาหินบนอาชาตัวใหญ่และเสียงเข้มดุกระโชกโฮกฮากดังสอดแทรกเข้ามาในโสตประสาท ยังจะสายตาโลมเลียไปทั่วร่างอีก หัวใจที่เต้นรัวระทึกด้วยความขลาดกลัวร่วงหล่นไปกองอยู่ที่ปลายเท้า อากาศรอบกายร้อนราวกับถูกเผาไหม้ ทว่าร่างกาย มือและเท้ากลับเย็นยะเยือกราวกับถูกน้ำแข็งเกาะ

สายตาคมดุเต็มไปด้วยความหื่นกระหายน่าสะอิดสะเอียน มองมาราวกับจะทะลุผ่านเนื้อผ้าสีขาวไปเห็นถึงเนื้อในดั่งเช่นทารกแรกเกิด แม้ก้าวหลบหลังร่างหนาใหญ่ไอซาย่าก็ยังรู้สึกถึงกระไอแห่งความน่ากลัวที่แผ่ซ่านมาครอบคลุมจนอึดอัดหายใจไม่ออก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป