บทที่ 1 หวามสวาทเมียเชลย บทที่ 1

หวามสวาทเมียเชลย

เพราะโดนพี่ชายจอมกะล่อนที่เสียพนันจนหมดตัวหลอก

ไฮโซสาว ยิหวา จึงต้องกลายเป็น เชลย ของ

คีรินทร์ มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของไร่ชา

ที่เธอคิดว่าเป็นพวกค้าอาวุธสงคราม

ก็เขาทั้งเจ้าอารมณ์ ปากร้าย และหยาบเถื่อนเป็นที่สุด

และสำหรับเขา เธอก็เป็นคุณหนู ลูกผู้ดีตีนแดงเสียงแหลมน่ารำคาญ

แต่ในความเกลียด ต่างคนต่างค้นพบความวาบหวามในกันและกัน

ที่มันทวีขึ้นทุกวัน และทำให้ผู้ชายใจร้ายเริ่มเอนเอียง

บทที่ 1

“ที่นี่นะเหรอ ที่พี่ยอดจะให้ยิหวาเอาของไปให้เพื่อนพี่”

ยิหวา หันไปถามยอดชายซึ่งนั่งอยู่ฝั่งด้านคนขับและสายตาบนใบหน้าคมคายก็ทอดมองออกไปยังไร่ชากว้างใหญ่ในอำเภอแม่จันที่เขาอุตส่าห์พาน้องสาวคนเดียวดั้นด้นมาถึงที่นี่ก็เพื่อทำธุระสำคัญที่เขาต้องอ้อนวอนขอยิหวาอยู่หลายครั้งกว่าเธอจะไว้วางใจมากับเขา

หญิงสาวชะเง้อมองไปที่บ้านไม้สักหลังใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ติดกับไร่ชา ไม่มีแม้เงาของใครสักคน มีแต่ความเงียบเหงาและดอกไม้หลากสีสันที่แข่งกันอวดความงามชูช่ออยู่รอบบ้าน

“ทำไมพี่ไม่เอาของไปให้เพื่อนพี่เองล่ะ แล้วเขาจะเชื่อใจรึเปล่าว่ายิหวาเป็นน้องสาวของพี่จริง ๆ”

“น่า...” ยอดชายพูดแบบตัดรำคาญ ก็แม่น้องสาวคนสวยของเขาพยายามซักพยายามถามมาตลอดทางที่เขาขับรถพาเธอเข้ามาในอาณาเขตไร่ชา คีรินทร์ แห่งนี้

“เอาของไปให้เขา พี่จะคอยยิหวาอยู่ข้างนอกนี่แหละ”

“พี่ยอดอธิบายให้ยิหวากระจ่างซะก่อนไม่ได้รึไง ว่าทำไมพี่ไม่เอาของนี่ไปให้เพื่อนพี่ด้วยตัวเอง”

ยิหวา สาวสวยเจ้าของใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกลาหมดจด งดงามด้วยเครื่องหน้าซึ่งกอร์ปไปด้วยนัยน์ตาคม จมูกโด่งเล็กและริมฝีปากจิ้มลิ้ม ผิวขาวอมชมพูบนเรือนร่างเล็กบางเปล่งประกายใต้แสงแดดรังรองชูสิ่งของบางอย่างในถุงกระดาษที่ยอดชายยื่นให้เธอก่อนมาถึงไร่ชาแห่งนี้

เธอทำหน้าเอาเรื่องพี่ชายคนเดียวที่มักนำพาปัญหามาให้ครอบครัวเสมอ ยิหวาและยอดชายเป็นลูกของนักธุรกิจใหญ่ระดับไฮโซ ยิหวาเพิ่งจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศในขณะที่พี่ชายของเธอจบมาหลายปีแล้วแต่ไม่ยอมทำงานทำการแม้แต่จะช่วยธุรกิจที่บ้าน

ยอดชายเป็นคนกะล่อนและมักสร้างปัญหาให้พ่อกับแม่ของเธอปวดหัวเสมอ เป็นที่รู้กันว่าเขาติดการพนันและมักมีเจ้าหนี้ตามทวงไปที่บริษัทของครอบครัวบ่อย ๆ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พ่อแม่ของเธอต้องตามชดใช้หนี้สินเป็นเงินกว่าสิบล้านบาทที่พี่ชายของเธอเอาไปถลุงในบ่อนพนัน

“ยิหวา” เขาถอนหายใจและทำหน้าเศร้าก่อนพูด “น้องฟังพี่นะ พี่ไม่ได้หลอกลวงใครหรืออะไรทั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน น้องไม่ต้องกังวลนะจ๊ะ”

“แต่พี่ก็ไม่ยอมบอกยิหวาว่าทำไมพี่ไม่ยอมไปพบนายคีรินทร์เพื่อนของพี่อะไรนั่นด้วยตัวเอง”

“ก็มันยังงอนพี่อยู่เลย เรื่องที่พี่ยืมของมันไป...นี่พี่พึ่งเอามาคืน เอ้อ...พี่กลัวว่ามันจะไม่พูดกับพี่น่ะยิหวา”

“เป็นเพื่อนกันทำไมจะไม่พูดกันล่ะคะ”

“น่า...อย่าถามมากเลย...เดี๋ยวยิหวาเอาของนี่ไปให้คีรินทร์ เพื่อนพี่ เขาเป็นเจ้าของไร่ชานี่แหละ อาจจะดุหน่อยแต่เขาไม่มีอะไรหรอก”

“พี่ยอดไม่ได้ทำอะไรผิดไว้แน่นะ”

“อืม...งั้นสิ” ยอดชายพยักหน้า ทำท่าทีขึงขัง “ยิหวารีบเข้าไป เสร็จธุระแล้วค่อยกลับออกมา พี่รออยู่ตรงนี้ล่ะ”

ยิหวาทำหน้าลังเลชั่วครู่ แต่เธอก็จะขอเชื่อพี่ชายคนเดียวดูสักครั้งถึงแม้มันจะมีบางอย่างไม่น่าไว้วางใจก็เถอะ

“โอเค...พี่ยอดรอยิหวาตรงนี้นะ เสร็จธุระแล้วยิหวาจะรีบออกมา”

ยอดชายพยักหน้าหงึก ๆ มองน้องสาวของเขาที่ก้มลงดูของในมือก่อนร่างเล็กบางในชุดกระโปรงยาวจะก้าวลงจากรถเอสยูวีคันใหญ่และเดินตรงไปยังบ้านไม้สักอันโอ่อ่า

ยิหวาก้าวเข้าไปจนกระทั่งถึงระเบียงของบ้านซึ่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจีและเงียบสงบ เธอชะเง้อมองแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ที่ตรงนั้นนอกจากลูกแมวเปอร์เซียตัวหนึ่งที่นอนอยู่บนพรมหน้าบ้านและทำสีหน้าเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในบริเวณบ้าน ตรงข้ามกลับแสดงออกเหมือนเบื่อหน่ายด้วยซ้ำ

“นี่...เจ้าเปอร์เซียขี้เซา แกรู้มั้ยว่าเจ้าของบ้านหลังนี้อยู่ที่ไหน”

ยิหวาก้มลงแล้วถามเจ้าแมวตัวน้อยขนปุยที่มันยังนอนขี้เกียจเป็นแมวเซา หญิงสาวย่นจมูกใส่มัน โดยปกติแล้วเธอไม่ชอบสัตว์เลี้ยง ยิ่งแมวด้วยแล้วมันเป็นสัตว์ที่น่าเบื่ออย่างที่สุดสำหรับเธอ

“ชิ...ถามก็ไม่ตอบ”

ไฮโซสาวเบะปากใส่ แต่เมื่อยืดลำตัวขึ้นและหันกลับไปยังประตูบ้านก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งยืนจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตลายตารางสวมกางเกงยีนส์เก่าขาดมองผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าประหลาดใจก่อนจะถามขึ้นว่า

“นี่คุยกับเจ้าโปรตอนรู้เรื่องด้วยเหรอ...แล้วนี่เธอมาหาใคร?”

เขาถามเสียงดุ ๆ ยิหวาเห็นว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาดีไม่เบาแต่ท่าทางยียวนชะมัด หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นและตอบว่า

“ฉันมาหาคนที่ชื่อคีรินทร์ เจ้าของบ้านหลังนี้ ไม่ทราบว่าเขาอยู่รึเปล่า?”

พอเธอถามชายหนุ่มผู้นั้นก็เลิกยิ้มมุมปาก เขามองเธอหัวจรดเท้าซึ่งสายตาที่เขามองมานั้นช่างไม่ให้เกียรติกันเสียเลย ยิหวาก็พินิจเขาและนึกอยู่ในใจว่าผู้ชายตัวโตที่หน้าตาหล่อเหลาคมคาย ไว้เคราบาง ๆ และมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายคนนี้อาจจะเป็นคนสวนในไร่ชาแห่งนี้ก็เป็นได้

บทถัดไป