บทที่ 2 หวามสวาทเมียเชลย บทที่ 2
“คุณมีธุระอะไรกับเขา?”
“ฉันชื่อยิหวา...พี่ชายของฉัน...ยอดชาย สิงหลพัฒน์ เขาให้ฉันเอาของนี่มาให้คุณคีรินทร์ เจ้าของบ้านหลังนี้ คุณรู้มั้ยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”
เขาเลิกคิ้วและมองเธอเหมือนเดิม พินิจพิจารณาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มันทำให้ยิหวารู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“นี่!...ฉันถามคุณไม่ได้ยินรึยังไง ฉันต้องการพบคุณคีรินทร์ เจ้าของบ้านหลังนี้”
“ผมนี่แหละ คีรินทร์”
เขาให้คำตอบสั้น ๆ แต่ก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจระคนตกใจ ผู้ชายท่าทางดิบ ๆ คนนี้นะหรือคือเจ้าของไร่ชาอันกว้างใหญ่แห่งนี้ แต่ในเมื่อเจอเขาก็ดีแล้ว ยิหวาทำสีหน้าเรียบเฉยและยื่นของในมือให้ตามคำสั่งของพี่ชาย
“พี่ฉันให้เอาของนี่มาให้คุณ รับไปสิ เสร็จธุระแล้วฉันกลับล่ะนะ”
“เดี๋ยวก่อน!”
บทที่ 2
เสียงดุดันที่เหมือนออกคำสั่งนั้นทำให้หญิงสาวซึ่งพอยื่นของให้เขารับไว้กำลังจะหันหลังกลับต้องหยุดชะงัก คีรินทร์มองของในมือของเขา มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีดำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เขาจ้องมองมันราวกับจะมองให้ทะลุเข้าไปถึงเนื้อใน
“มีอะไรอีกล่ะ คุณคีรินทร์...พี่ชายฉันบอกให้เอาของนี่มาให้คุณ เสร็จธุระแล้วฉันก็จะรีบกลับเสียที”
“เขาบอกคุณรึเปล่าว่าข้างในนี้มีอะไร?”
“ทำไมพี่ยอดจะต้องบอกฉันด้วยล่ะ ในเมื่อนี่มันเป็นเรื่องระหว่างคุณกับพี่ชายของฉัน ฉันไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องของใครหรอกนะ”
“คุณจะกลับไปก็ได้ยิหวา...แต่ก่อนจะกลับไปผมต้องดูของข้างในนี้ให้แน่ใจเสียก่อน”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาอันแน่วแน่ ความดุดันที่แฝงอยู่ในดวงตาคู่นั้นสะกดความรู้สึกของไฮโซสาวราวกับมันมีอำนาจทำให้เธอต้องปฏิบัติตามคำบัญชาของเขา
“ก็เปิดออกดูซีคะ” เธอว่าอย่างเสียมิได้ พูดแบบขอไปทีเพราะอยากกลับบ้านจะแย่ “เสร็จแล้วฉันจะได้กลับเสียที”
ยิหวาพูดแล้วหันหลังหลังกลับไปและชะเง้อมองดูรถพี่ชายของเธอ ทว่าหญิงสาวกลับต้องประหลาดใจเมื่อไม่เห็นรถเก๋งที่เธอนั่งมาด้วยเมื่อครู่จอดอยู่ที่เดิม เธอเห็นเพียงความว่างเปล่าก่อนจะหันกลับมามองคีรินทร์
เธอเห็นเขาเปิดกล่องกำมะหยี่ที่ยื่นให้เขาไป สีหน้าของเขาแปลกเปลี่ยนเมื่อเห็นบางอย่างในกล่องนั่นก่อนที่สายตาคมกริบคู่นั้นจะเลื่อนมายังหญิงสาว
“นี่มันของปลอม! ไอ้ยอดชายให้คุณเอาของปลอมมาให้ผมอย่างนั้นหรือ!”
เสียงเขาดุดันและทำให้ยิหวาแปลกใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ
“ของปลอมอย่างนั้นหรือ...ของปลอมอะไร ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะ”
“ก็นี่ไง! ดูวะให้เต็มตา ได้ยอดชายมันให้คุณเอาเพชรปลอมมาให้ผม หนอยแน่! นี่มันคงอยากจะลองดีกับคีรินทน์ล่ะสิท่า”
“คุณพูดเรื่องอะไร!”
ยิหวาหน้าตาตื่นเมื่อคีรินทร์ยื่นกล่องกำมะหยี่กลับมาให้เธอ หน้าตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเข้ม นัยน์ตาอาบแววโกรธขึ้งขณะที่ยิหวาดึงกล่องนั้นกลับไป หญิงสาวพินิจดูมันอีกครั้ง เธอไม่รู้หรอกว่าแท้จริงในกล่องที่ยอดชายให้เธอนำมามอบแก่คีรินทร์นั้นเป็นเครื่องเพชรทั้งสร้อยคอและสร้อยคอมือส่องแสงพราวระยับ และที่สำคัญเธอไม่รู้ว่ามันเป็นของจริงหรือปลอมด้วยซ้ำ
“ฉะ...ฉันไม่รู้เรื่องนะ พี่ชายฉันให้เอาของนี่มาให้คุณ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นเพชร”
“เพชรบ้าเพชรบออะไร!”
“ว้าย!”
ยิหวาร้องลั่นเมื่อคีรินทร์ระบิดอารมณ์ด้วยการดึงกล่องกำมะหยี่ขว้างลงพื้นจนเครื่องเพชรที่อยู่ด้านในกระจัดกระจายไปคนละทาง หญิงสาวยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก เธอกำลังจะหันหลังกลับแต่ถูกคนตัวโตกระชากไหล่จนร่างเซเข้าไปปะทะแผงอกกว้าง
“กรี๊ด!!...ปล่อยฉันนะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”
“ไอ้ยอดชายพี่คุณนั่นแหละบ้า นี่มันกล้าเอาของปลอมมาให้ผมอย่างนั้นรึ!”
“บอกแล้วยังไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง คุณคีรินทร์!...ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับคุณ”
“ไปเลย!”
คีรินทร์ผลักร่างบางจนล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น หน้าตาของเขาตอนนี้เหมือนปิศาจร้าย น่ากลัวจนยิหวาแทบไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมาทั้งที่เจ็บบั้นท้ายและบั้นเอวจนนึกว่ากระดูกคงหักป่นปี้หมดแล้ว
“ไปแจ้งตำรวจให้มาหาผม ผมจะได้พาตำรวจที่คุณแจ้งให้เขามาที่นี่ตามไปจับพี่ชายของคุณ!”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณคีรินทร์...พี่ยอดไปทำอะไรให้คุณถึงได้โกรธแค้นพี่ชายฉันมากขนาดนี้”
“นี่คุณไม่รู้พฤติกรรมไอ้พี่ชายจอมกะล่อนของคุณเลยหรือยิหวา ว่ามันปลิ้นปล้อนหลอกลวงคนอื่นยังไงบ้าง! ผมบอกให้ก็ได้นะว่ามันทำอะไรไว้กับผม ไอ้ยอดพี่ชายของคุณมันติดหนี้ผมอยู่เกือบสิบล้านบาท และผมก็ขีดเส้นตายให้มันใช้หนี้ผมวันนี้ มันรับปากว่าจะเอาเครื่องเพชรที่มันซื้อไว้มูลค่าเกินสิบล้านบาทมาใช้หนี้ มันนึกว่าผมดูไม่ออกรึยังไงว่าเพชรจริงกับเพชรเก๊มันแตกต่างกันแค่ไหน”
ยิหวานั่งปากสั่นระริกหากก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปกอบเก็บอัญมณีเม็ดเล็กสีขาวแวววาวที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาพินิจดูอีกครั้ง
“คุณอาจจะดูไม่ออก แต่ผมดูปราดเดียวก็รู้ว่ามันเป็นแค่คริสตัลที่เจีรนัยเหมือนเพชรแท้ เหมือนมากแต่มันหลอกผมไม่ได้หรอก”
“คุณก็ไปคิดบัญชีกับพี่ชายของฉันซี คุณคีรินทร์ ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วย ฉันจะกลับบ้าน!”
