บทที่ 7 คนที่ไม่ได้รับความรักคือคนที่เป็นมือที่สาม
เขาไม่ตอบข้อความฉันเลย ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าถึงได้วิดีโอคอลมา
ภาพที่ปรากฏในสายตาคือใบหน้าของขวัญจิราที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีชัย
เธอเอียงกล้องเล็กน้อย ให้เห็นกรณ์ที่กำลังหลับอยู่ด้วยกันในเฟรม
“กรณ์เหนื่อยจนหลับไปแล้ว มีอะไรก็พูดกับฉันได้เลย”
ขวัญจิราจงใจโชว์รอยแดงบนคอให้ฉันดู เป็นการประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าเมื่อครู่พวกเขาเร่าร้อนกันแค่ไหน
ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ฉันแยกไม่ออกเลยว่าเจ็บที่ใจหรือเจ็บที่กายกันแน่
ฉันใช้มือกดปุ่มบันทึกหน้าจอทั้งที่ยังสั่นเทา
“ให้เขารับสาย เดี๋ยวนี้” เสียงของฉันสั่นจนควบคุมไม่ได้
ในขณะที่ชีวิตฉันแขวนอยู่บนเส้นด้าย สามีของฉันกลับกำลังเสพสุขอยู่กับชู้รักของเขา
ขวัญจิรายกมุมปากขึ้น “ญาณี ทำไมฉันต้องฟังเธอด้วยล่ะ? เขาต้องพักผ่อน ก็เมื่อกี้เขาออกแรงเยอะไปหน่อย ฉันเองก็แทบจะรับไม่ไหวแล้ว”
ท่าทีที่เธอเชิดคางอย่างหยิ่งผยองนั้น ราวกับว่าเธอคือนายหญิงตัวจริงเสียอย่างนั้น
ฉันข่มความคลื่นไส้เอาไว้ แล้วแค่นหัวเราะ “การเป็นเมียน้อยคนอื่นมันน่าภูมิใจมากนักหรือไง?”
ขวัญจิราเหมือนถูกแทงใจดำ โวยวายขึ้นมาทันที “คนที่ไม่ถูกรักต่างหากที่เป็นเมียน้อย! คนที่กรณ์รักคือฉัน! ส่วนแก... ยายแก่ที่ออกไข่ไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะหย่ากับแกแล้วมาแต่งงานกับฉัน!”
“แกโทรมาเพื่อจะขอเงินสินะ กรณ์คงซวยไปแปดชาติถึงได้แต่งงานกับผู้หญิงหน้าเงินอย่างแก เขาไม่มีทางโอนเงินให้แกแม้แต่สลึงเดียวหรอก”
“ปรสิตอย่างแก ตายๆ ไปซะยังจะดีกว่า อยู่ไปก็รกโลกเปล่าๆ”
ฉันฟังเธอด่าจนจบด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วจึงกดหยุดการบันทึกหน้าจอ
“พูดจบหรือยัง? ถ้าพูดจบแล้วก็รบกวนโอนเงินมาด้วย ไม่อย่างนั้นธาตุแท้ของเธอก็จะได้เปิดเผยออกมาแล้วล่ะ”
ฉันกดตัดสายทันที แล้วส่งคลิปที่บันทึกหน้าจอไปให้ขวัญจิรา
ต่อหน้ากรณ์ ขวัญจิราสวมบทบาทเป็นสาวน้อยผู้อ่อนหวานและบริสุทธิ์มาโดยตลอด เธอคงไม่อยากให้เขาเห็นธาตุแท้ของเธออย่างแน่นอน
ในไม่ช้า ก็มีข้อความเสียงความยาวหกสิบวินาทีถูกส่งมา
ฉันไม่ได้กดเข้าไปฟังด้วยซ้ำ เพราะมั่นใจว่าคงเต็มไปด้วยคำด่าหยาบคายสารพัด
จากนั้นไม่นานก็มีเสียงแจ้งเตือนจากอาลีเพย์ว่ามีเงินเข้าบัญชีห้าแสน
ฉันรับเงินนั้นไว้อย่างไม่รู้สึกผิด ของที่เธอสวมใส่และใช้สอยในตอนนี้ล้วนมาจากเงินของสามีฉันทั้งนั้น ห้าแสนนี่ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ
เมื่อมีเงินก้อนนี้ เดือนถัดไปฉันก็จะสามารถรักษาตัวได้อย่างสบายใจแล้ว
แม้ว่าการมีชีวิตอยู่จะยากลำบากและเจ็บปวดมาก แต่ฉันก็ยังอยากจะยื้อชีวิตต่อไปให้นานที่สุด อยู่ได้อีกวันก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว
โลกใบนี้ยังคงสวยงามมาก การได้มีชีวิตอยู่เพิ่มอีกวันก็ถือเป็นกำไรแล้ว
ฉันโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของโรงพยาบาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อไป
ดารินทร์ในชุดเสื้อกาวน์สีขาวเดินเข้ามา แล้วโผเข้ากอดฉันแน่น
“ญาณี ฉันรู้ว่าเธอจะต้องปลอดภัย”
ดารินทร์ร้องไห้ออกมา ฉันปล่อยให้เธอกอดอยู่นาน แล้วค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้เธออย่างเงียบๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้างกายฉันเหลือเพียงดารินทร์ที่ไม่เคยทอดทิ้งฉันไปไหน
เธอหยิบหมอนมารองหลังให้ฉัน ขอบตาของเธอยังคงแดงก่ำ
“เรื่องใหญ่ขนาดที่เธอต้องผ่าตัด แต่กรณ์กลับไม่มาดูเธอเลยสักนิดเหรอ?”
“เขายังอยู่กับชู้รักของเขาอยู่ใช่ไหม?”
“เขามีหัวใจบ้างหรือเปล่า ถึงได้ทำร้ายจิตใจเธอได้ลงคอ”
“ไม่เป็นไรหรอก เขาไม่อยู่ก็ดีแล้ว ขอแค่เขาให้เงินฉันก็พอ ส่วนตัวเขาจะมาหรือไม่มาก็ไม่สำคัญ”
ในสายตาของกรณ์ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงเห็นแก่ตัวและหน้าเงินมาโดยตลอด
ต่อให้ฉันอธิบายไป เขาก็คงไม่เชื่ออยู่ดี
ก็ปล่อยให้เขาคิดแบบนั้นต่อไปเถอะ
ฉันฝืนยิ้มออกมา “การผ่าตัดของฉันสำเร็จ นี่เป็นเรื่องดีนะ เธอควรจะดีใจสิ”
ดารินทร์หันหน้าหนีไปอีกทาง แล้วแอบปาดน้ำตา
พอเห็นเธอร้องไห้ ไม่รู้ทำไมฉันถึงอยากจะร้องไห้ขึ้นมาด้วย
“ญาณี ถ้าทนไม่ไหวก็หย่ากับเขาเถอะ พวกเธอยื้อกันไปแบบนี้ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี หย่าแล้วยังจะได้เงินค่าชดเชยอีกก้อน อย่างน้อยค่ารักษาของเธอหลังจากนี้ ก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป”
หย่างั้นเหรอ? ตลอดหลายปีมานี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดเรื่องหย่า แต่ทุกครั้งก็ได้แต่บอกตัวเองว่า ทนอีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
บางทีสักวันหนึ่งกรณ์อาจจะสำนึกผิดแล้วกลับตัวกลับใจขึ้นมาก็ได้
แต่จนกระทั่งฉันใกล้จะตาย เขาก็ยังไม่เคยเปลี่ยน กลับกัน เขายิ่งทำตัวแย่ลงเรื่อยๆ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น
แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว
