บทที่ 7 โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๒)
“ก็จักชำระกายร่วมกับเมีย ผิดด้วยรึ?” สาวเจ้ามุ่ยหน้า ชีกอ ขี้โชว์ไม่พอ ยังเก่งเรื่องการคิดเองเออเองอีกต่างหาก ครบสูตรหลัวชั่วแห่งราชอาณาจักรเสียจริง
“หนูยังไม่ได้เป็นเมียคุณสักหน่อย” โฉมตรูสะบัดหน้า ขัดใจนักเชียวพ่อยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ ถึงจะเป็นสาวเวอร์จิ้น แต่ก็เลือกนะยะ
“เรื่องนั้นพี่มิสนใจ” บุรุษตัวใหญ่กว่าเอื้อมฝ่ามือหนามาไล้แก้มเธอ “อยู่ในเมืองของพี่ ในเรือนของพี่ สักวันก็จักได้เป็นอยู่ดี”
แหม! ช่างพูดช่างจา เกี้ยวพาราสีสาวได้คล่องแคล่วเชียวนะแก
“หนูไม่อาบน้ำกับคุณหรอกค่ะ เชิญอาบไปคนเดียวเลย หนูจะกลับไปนอนที่เรือน” สาวเจ้าพูดพลางเชิดหน้าหนีอุ้งมือใหญ่ ไม่ต้องมาโชว์กล้ามเนื้อตรงนี้จะได้หรือปะ ถึงชาติที่เป็นมธุรสจะบ้ากล้ามหน้าท้องผู้ชายและบ้าหนุ่มกล้ามปูสักเพียงใด แต่จะมิหลงกลพ่อยักษ์กะล่อนนี่เด็ดขาด ความหล่อเหลามันทานไม่ได้! “แล้วเรือนอยู่ทางไหนคะ หนูจำทางกลับเรือนไม่ได้”
โว้ย น่าสมเพชจริงอีนังมธุรส เรื่องหลงๆ ลืมๆ เส้นทางของหล่อนนี่ยังเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าจริงๆ
สาวเจ้าบ่นอุบใส่ตนเอง ไม่มีทางเลือกต้องหมุนตัวพลิกลิ้นกลับไปพึ่งพาเจ้าของบ้านอย่างเขาอย่างเสียมิได้
อสุราหนุ่มแย้มยิ้มพราย “พี่มิบอกน้องดอก”
“เอ้ะ ทำไมคะ!”
“ชำระกายในสระบัวร่วมกันกับพี่สิ เดี๋ยวขึ้นจากท่าแล้วค่อยกลับไปด้วยกัน” มธุรสเผยอปากค้าง หนอยแน่ ไอ้ยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ เขาใช้ประโยชน์จากการจำทางของหล่อนไม่ได้เพื่อมัดตัวให้เธอสมยอมอาบน้ำด้วย
อย่างนี้ก็แปลว่า... ต้องเปลือยเปล่าเคียงใกล้กับผู้ชายในสระบัวน่ะสิ!
มธุรสจะเป็นลม
“มะ... ไม่ถอดเสื้อได้ไหมอ่ะ?” เธอป้องตัวอย่างหวงแหนเมื่อถูกยักษ์รูปงามจดจ้องร่างกายราวกับกำลังสแกนสัดส่วนใต้อาภรณ์นั่นก็ไม่ปาน ที่สำคัญตอนนี้เหลือแค่เพียงผ้าด้านล่างที่กำลังจะหลุดไม่หลุดแหล่รอบเอวสอบของเขาเท่านั้น มธุรสแอบเห็นไรขนแสนทระนงนั่งด้วย เส้นเลือดพาดตรงใต้สะดือต่ำลงไปเรื่อยๆ นั่นอีก! “มะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ถอดอาบน้ำได้มั้ยคะ นุ่งกระโจมอกก็ได้”
“เช่นนั้นจักสะอาดได้เยี่ยงไร” สุวรรณราพณ์ใช้อุบายล่อลวงหญิงสาว รั้งเอวคอดกิ่วเข้าชิดใกล้ ปลดสไบและสังวาลย์ของเธอด้วยตนเองเสียเลย
“คุณสุวรรณราพณ์!” เธอไม่สามารถขัดขืนผู้ชายอกสามศอกแถมยังเป็นยักษ์เช่นเขาได้ ผลักอกหนาราวกับภูผานั่นยังไงก็ไม่ต่างกับเอาแรงลมเอื่อยๆ ไปสู้ อีกฝ่ายใช้แรงถอด ถอด ถอดไม่กี่ครั้ง ผ้าผ่อนผ้าซิ่นทุกชิ้นรวมถึงของมีค่าก็ลงไปกองกับพื้นหญ้าเสียแล้ว
มธุรสในร่างเจ้าจันทร์ล่อนจ้อนอย่างสมบูรณ์
นี่มันอีกครั้งแล้วนะ อีกครั้งแล้วที่สุวรรณราพณ์เห็นนางในสภาพน่าอับอายเช่นนี้
มธุรสอยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขาดังๆ
แต่นั่นยังคงสร้างความอับอายให้นางไม่พอ ยังคงไม่พอใจเขา เพราะต่อมาอสุราหนุ่มก็ปลดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของตัวเองลงต่อหน้านางนี่เอง
พรึ่บ!
ล่อนจ้อนด้วยกันโดยสมบูรณ์
โอ้ บร๊ะ เจ้า
ภาพตรงหน้าช่างแปลกใหม่ ถึงจะโคตรสัปดนแต่ก็ชวนมองอย่างปฏิเสธไม่ได้ มธุรสอ้าปากค้างทาบอกอยู่ตรงหน้าบุรุษผู้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปิดบังกาย อวดโฉมความองอาจตรงนั้นเอง
ก้นแน่น ขาวดี แถมยัง... ตาเถร!! นั่นลึงค์หรือปลัดขิกกันแน่คะเนี่ย
รู้สึกเหมือนเลือดลมจะไหลเวียนขึ้นมาที่หน้าซะแล้วสิ
เพราะเป็นหน่วยพิสูจน์อักษรมาก่อน จึงรู้ลึกถึงคำว่าลึงค์ (อวัยวะเพศชาย) นั้นว่าคืออะไร หากแต่ลึงค์ของอีกฝ่ายนั้นไซร้... ดูแปลกตากว่าชายฝรั่งมังค่าในเว็บพอร์นฮับที่เคยดูนักหนา
เพราะมันใหญ่มาก ขนาดยักษ์สมกับตัวใหญ่ๆ นั่น จะพูดว่าคล้ายๆ ศิวลึงค์ที่บูชากันก็ไม่เกินจริง
“ทะ... ทำไมมันชี้หน้าหนูแบบนี้ล่ะ!” สาวเจ้ารีบเอามือน้อยๆ ปิดตาตนเองอย่างไวว่องเมื่อหรี่ตาไปเห็นว่าท่อนลึงค์ยักษ์นั่นกำลังตั้งจรวดพร้อมรบใส่หน้าเธอ บุรุษที่เปลือยเปล่าพร้อมๆ กับมธุรสนั้นหน้าด้านหน้าทนจริงๆ มีอย่างที่ไหนจับสาวถอดผ้าถอดผ่อน แล้วก็ปลดอาภรณ์ตนเองเช่นนี้ นี่มันกลางแจ้งนะ ไม่อับอายบ้างเลยหรือ
“ปกติของมัน น้องมิจำเป็นต้องปิดตาดอก” สุ้มเสียงดุดันพูดแกมขบขัน สุวรรณราพณ์สนุกสนานนักที่เห็นว่าเจ้าหล่อนหน้าแดงปิดหน้าปิดตาสะเทิ้นอายกับกายาล่อนจ้อนของเขา “อีกมินาน มันก็จักได้เข้าไปอยู่ในกายเจ้า”
อสุราหนุ่มเอ่ยประโยคสองแง่สองง่าม หวังเย้าสาวเจ้าให้อับอายยิ่งขึ้น
“คุณสุวรรณราพณ์ทะลึ่งโคตร!” มธุรสปรามาสบุรุษตรงหน้า หากแต่ก็อดไม่ได้ต้องแหวกแง่งนิ้วน้อยๆ แอบลอบดูสรีระชวนใจสั่นของอีกฝ่ายไปด้วยอย่างย้อนแย้งในตนเอง
ไม่เคยพบไม่เคยเจอ ลึงค์ที่พี่เจนว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง
จนมารู้สึกตัวอีกที บุรุษหนุ่มก็ค่อยๆ ก้าวขาลงไปในน้ำใสเย็นๆ กลางแจ้ง กายาด้านล่างค่อยๆ จมหายไปจนเกือบครึ่งเอวสอบ เรียกได้ว่าตัวใหญ่ขนาดนั้น ถ้าลงน้ำไปแล้วได้ถึงขนาดนี้ คงลึกอยู่พอตัว
อสุราเอื้อมมือหนาให้เธอที่ยืนลดละมือมาปกป้องทรวงอกของตนที่กำลังเปิดเผยสู่ผู้ชายเป็นคราที่สอง แม้ว่านี่จะไม่ใช่ร่างกายของเธอ แต่เป็นร่างของโฉมตรูในอดีตชาติที่มธุรสมาสิงร่างอยู่ก็ตาม หากแต่ก็หวงแหนราวกับเป็นร่างกายของตัวเอง
สาวเจ้าส่ายหน้าหวือ ลึกขนาดนั้นจะให้ลงไปทั้งตัวได้ยังไง
“พี่จักประคองน้องไว้เอง มิต้องเป็นกังวล” บุรุษยักษ์ใหญ่เอ่ยคำมั่น เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น จะให้ทำเช่นไรก็ไม่รู้วิธีสวมใส่อาภรณ์ในสมัยโบราณเสียด้วย แต่จะให้เดินกลับเรือนทั้งที่ยังเปลือยเปล่าล่อนจ้อนแบบนี้ คงได้ลือกันไปถึงไหนต่อไหน
ถึงจะไม่หวั่นกลัว แต่ก็ไม่อยากถูกครหาว่าเป็นชีเปลือยล่อนจ้อนเดินโทงเทงท่ามกลางยุคโบราณแบบนี้หรอกนะ
ที่นี่ไม่ใช่โลกที่เธอเคยอยู่ ดังนั้นการทำตามเจ้าของบ้านคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แน่งน้อยค่อยๆ ก้าวขาที่สั่นเทาไปชิดขอบสระบัว ยื่นฝ่ามือเล็กจ้อยไปจับมือของสุวรรณราพณ์อย่างกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งต่อมาก็ถูกรั้งลงไปในสระบัวด้วยกัน น้ำเย็นเฉียบจนนงคราญสั่นระริก ผวากอดกายใหญ่โตของอีกฝ่ายไว้เพราะกลัวว่าจะจมลงไป
ฝูงปลาสีเผือกแหวกว่ายมาตอดปลายเท้าของเจ้าหล่อน จั๊กจี้เหลือทนจนต้องหัวเราะคิกคักออกมา ท่ามกลางอ้อมแขนหนาของยักษ์หนุ่ม สาวเจ้าแหงนหน้าขึ้นมองเขาที่ทอดสายตาลงมาที่ร่างกายเปลือยเปล่าของนางใต้อกหนา รีบเบือนหน้าหนีทันที
“พี่จักลูบตัวให้” บุรุษหนุ่มฉีกยิ้มพราย ค่อยๆ วักน้ำเย็นเข้ามือใหญ่ ปาดลูบเนื้อลูบตัวเนียนนวลขาวลออของสาวเจ้าอย่างพึงใจ
“นะ... หนูลูบเองได้น่ะ คุณแค่อุ้มหนูไว้ก็พอ” เธอใช้ฝ่ามือเล็กจ้อยดันมือใหญ่ของเขาออก หน้าแดงก่ำราวกับผลมะเดื่อสุก นำมาซึ่งรอยยิ้มยวนของอีกฝ่ายที่เหนือกว่าเธอ
“อายงั้นหรือ” พระพักตร์ใหญ่เอียงไปกระซิบข้างริมหูของหญิงสาว พร้อมกับวงแขนแกร่งที่โอบรัดเอวคอดของนางแน่นถนัดขึ้น “เพราะที่นี่เป็นกลางแจ้งงั้นหรือ จึงป้องตนไว้เช่นนั้น”
มธุรสฟังแล้วก็เลยได้แต่ก้มลงมองตนเอง เพราะตั้งแต่ที่ถูกดึงลงมาในสระบัว เจ้าหล่อนก็ใช้แขนปกป้องกายาเพื่อมิให้แนบชิดเขาเกินจำเป็นมาโดยตลอด
จะว่าใช่มันก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่
ไหนๆ ก็ไม่ใช่ตัวมธุรสจริงๆ อยู่แล้วนี่
“มิมีปากมีเสียงเช่นนี้ สำแดงว่าที่ตัวพี่เอ่ยเป็นอันถูกต้อง” ยักษ์ว่าเช่นนั้น เข้าใจว่านางคงอายหากมีใครมาเห็นเขาและนางล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้ จะว่าพิกลไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั่นเอง
คิดได้เช่นนั้น อสุราหนุ่มจึงร่ายคาถา สร้างต้นไม้ใหญ่รกครึ้มรอบๆ สระบัวในทันที
มธุรสอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ดีๆ รอบสระบัวก็ปรากฎต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นรอบๆ กลายเป็นป่าละเมาะขนาดย่อม
เธอเหลียวกลับไปจ้องหน้าอสุราหนุ่มอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยรู้เลยว่ายักษ์จะร่างเวทมนตร์คาถาเสกต้นไม้ได้ด้วย นี่เหมือนหล่อนกำลังอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งอยู่เลยอ่ะ
