บทที่ 2 การโจมตีโรลส์รอยซ์
เมื่อได้ยินชื่อ “สเตอร์ลิง” ชาร์ล็อตต์ก็เหลือบมองขบวนรถและเห็นตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลสเตอร์ลิงบนรถเหล่านั้น
พวกเขามารับฉันเหรอ? เธอตื่นเต้นกับความคิดนั้น
หรือว่าเฮกเตอร์ไม่เคยทรยศฉัน? ที่เขาถอนหมั้นเป็นเพราะตอนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นงั้นเหรอ? ตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉันกลับมา เขาต้องมารับฉันแน่ ๆ!
“คุณหนูคะ คุณสเตอร์ลิงมารับพวกเราหรือเปล่าคะ?”
คุณนายเบอร์รี่ที่กำลังดีใจทำท่าจะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดสองคนผลักออกไปอย่างหยาบคาย
ในวินาทีต่อมา หญิงสาวสง่างามในชุดราคาแพงก็เดินออกมา โดยมีผู้ติดตามขนาบข้าง
ชาร์ล็อตต์อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ นี่มันลูน่า ไวท์ไม่ใช่เหรอ?
ลูน่าสวมชุดสูทแบรนด์เนม เธอดูสง่างามกว่าเมื่อสี่ปีก่อน
นิ้วของเธอโอบกุมมือเล็ก ๆ ของเด็กชายที่อายุราว ๆ เดียวกับลูกแฝดสามของชาร์ล็อตต์
“คุณนายสเตอร์ลิง คุณทิโมธี เชิญทางนี้ครับ” บอดี้การ์ดทักทายพวกเขาอย่างสุภาพ
“ฉันจะไม่นั่งรถไฟอีกแล้ว สกปรกแถมยังเต็มไปด้วยพวกคนธรรมดา” ลูน่าประกาศพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกอย่างรังเกียจ
“ครับ ครับ ถ้าไม่ใช่เพราะอากาศแย่ คุณสเตอร์ลิงคงไม่ปล่อยให้คุณกับคุณทิโมธีต้องมาลำบากแบบนี้หรอกครับ”
บอดี้การ์ดพาตัวลูน่าและเด็กชายตัวน้อยขึ้นรถไป
ทั้งลูน่าและลูกชายของเธอหยิ่งยโสเสียจนไม่แม้แต่จะชายตามองไปรอบ ๆ พวกเขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นชาร์ล็อตต์ที่อยู่ในฝูงชน
“เกิดอะไรขึ้นกันคะเนี่ย?” คุณนายเบอร์รี่จำลูน่าได้และโพล่งออกมา “นั่นลูกพี่ลูกน้องของคุณหนูไม่ใช่เหรอคะ? เธอแต่งงานกับคุณสเตอร์ลิงแล้วเหรอคะ?”
“น่าจะใช่ค่ะ”
ขณะที่ขบวนรถของตระกูลสเตอร์ลิงเคลื่อนตัวออกไป ชาร์ล็อตต์ก็นึกถึงคำสัญญาของเฮกเตอร์ในอดีต
เขาบอกว่าชาตินี้ฉันจะเป็นเจ้าสาวของเขาเพียงคนเดียว
แต่ตอนนี้ เขากลับแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน แถมยังมีลูกชายโตขนาดนี้แล้ว!
น้ำตารื้นขึ้นมาคลอหน่วยตาของชาร์ล็อตต์ ขณะที่ปลายจมูกของเธอร้อนผ่าว
“หม่ามี้ เป็นอะไรไปคะ”
เมื่อเด็ก ๆ เห็นขอบตาแดงก่ำของชาร์ล็อตต์ ทั้งสามคนก็รีบเข้ามาล้อมรอบเธอและถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่ไม่เป็นไรจ้ะ”
ชาร์ล็อตต์เช็ดน้ำตาให้แห้งแล้วคุกเข่าลงดึงทั้งสามคนเข้ามากอด
“หม่ามี้อย่าเศร้านะครับ โตขึ้นร็อบบี้จะซื้อรถคันใหญ่ให้หม่ามี้เอง แล้วหม่ามี้ก็จะได้ไม่ต้องลำบากอีก” ร็อบบี้ ลูกชายคนโตเสนอ เขาคิดว่าแม่ของเขาเสียใจเพราะถูกใครบางคนรังแก
“หม่ามี้ ใครแกล้งหม่ามี้ครับ? เดี๋ยวเจมี่ไปจัดการมันเอง!” เจมี่ ลูกชายคนที่สอง ชูกำปั้นน้อย ๆ อย่างน่ารักน่าเอ็นดูแล้วทำแก้มป่อง
เอลลี่ ลูกสาวคนสุดท้องในบรรดาแฝดสาม ถูแก้มของเธอกับแก้มของชาร์ล็อตต์เพื่อปลอบโยน “หม่ามี้ อย่าร้องไห้นะคะ!”
“อย่าร้อง! อย่าร้อง!”
ทันใดนั้น หัวสีเขียวก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าของเอลลี่ มันคือหัวของนกแก้วจอมซนที่กำลังมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น
“จ้ะ แม่ไม่ได้ร้องไห้” ชาร์ล็อตต์สูดหายใจลึกแล้วฝืนยิ้ม “ไปเถอะ กลับบ้านกัน!”
“เย้ กลับบ้านกัน!”
ชาร์ล็อตต์หอมแก้มพวกเขาทีละคนก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นบ่าอีกครั้งแล้วเดินออกไปเรียกแท็กซี่
เธอเคยเป็นทายาทเศรษฐีผู้มั่งคั่ง มีผู้ติดตามไปทุกหนทุกแห่ง แต่ตอนนี้ เธอต้องมายืนต่อคิวเรียกแท็กซี่กับคุณนายเบอร์รี่และลูก ๆ แถมยังต้องแบกสัมภาระหนักอึ้งอีกด้วย
เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดไม่สามารถนั่งแท็กซี่คันเดียวกันได้ คุณนายเบอร์รี่จึงต้องแยกไปอีกคันหนึ่ง
ท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นสัญญาณว่าพายุกำลังจะมา คนขับแท็กซี่ที่หวังจะหนีพายุจึงรีบเหยียบคันเร่งไปตามถนน แต่ทันใดนั้น เขาก็พุ่งเข้าชนรถโรลส์-รอยซ์คันข้างหน้า
คนขับแท็กซี่หน้าซีดเผือดในทันทีและลงจากรถไปดูสถานการณ์
ชาร์ล็อตต์นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับและมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางขมวดคิ้วเข้าหากัน
มันคือรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน มีเพียงสามคันในประเทศซีและสามสิบห้าคันทั่วโลก ต่อให้เป็นแค่รอยขีดข่วนเล็กน้อย คนขับแท็กซี่ก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจทำให้เขาล้มละลายได้เลยทีเดียว
