บทที่ 1 🔥🥀 บทนำ : 3 ปีที่ไร้ค่า
บทนำ
"ท่านประธานกลับมาแล้วอยากเห็นหน้าท่านประธานจังจะหล่อมากแค่ไหน ใครเคยเห็นท่านประธานเมื่อสามปีที่แล้วบ้าง" เสียงพูดคุยในกลุ่มของพนักงานนั้นพากันพูดถึงท่านประธานจึงทำให้เรือนร่างบางที่ถือเอกสารนั้นหยุดชะงัก ท่านประธานบริษัทนี้ก็คือสามีของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ทว่ากลับมาจากต่างประเทศได้สามวันก็ยังไม่เข้าบ้านยังไม่กลับมาให้เธอเห็นหน้าเลยสักวัน
"ท่านประธานเมื่อสามปีที่แล้วทั้งหล่อและเพอร์เฟกต์แต่ได้ข่าวว่าท่านประธานยังไม่เก่งพอจึงไปฝึกฝนฝีมือกับคุณพ่อที่ต่างประเทศปล่อยภรรยาที่เขาเกลียดที่จำใจต้องแต่งงานด้วยนั้นดูแลแทน แต่พวกเราก็ไม่เคยเห็นเมียของท่านประธานเลยใช่ไหม"
ณิชายืนกอดแฟ้มเอกสารเธอจัดการแทนภาคินสามีของตนเองทุกอย่าง เขาไปต่างประเทศสามปีเต็มๆโดยที่ไม่ติดต่อกับเธอปล่อยให้เธอเป็นคนดูแลบริษัทนี้ ในบางครั้งณิชารู้สึกน้อยใจกลับบ้านไปไม่มีสามีอย่างใครคู่อื่น หลังจากวันแต่งงานได้คืนเดียวภาคินก็ไปต่างประเทศส่วนเธอดูแลทั้งบ้านและบริษัทดูแลคุณย่าที่ภาคินรักด้วย
"ได้ข่าวว่าภรรยาของท่านประธานหน้าตาอัปลักษณ์และน่าเกลียด ท่านประธานก็คงอายคนอื่นเลยไม่ให้มาแสดงตัวที่บริษัทคงจะดูแลแบบลับๆ พวกเราว่าท่านประธานถูกบังคับแต่งงานกับภรรยาหรือเปล่า"
หลายปากต่างพากันพูดจนณิชานั้นรู้สึกไม่ดี มือที่กำแฟ้มเอกสารแน่นพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่าน ณิชาเธอเป็นคนใจเย็นพอที่จะใช้เหตุผลเข้าสู้แต่ถ้าทนไม่ไหวเธอก็ระเบิดออกมาดั่งกับประกายไฟที่กระจายและเผาจนวอดวายได้เช่นกัน
"ณิชาเธอมายืนทำอะไรตรงนี้" ปั้นหยาเพื่อนสนิทของณิชาสถานะทางบ้านร่ำรวยดูแลกิจการหรือว่าหุ้นส่วนกับบริษัทนี้แทนคุณพ่อของเธอถึงแม้ว่าจะมีหุ้นร่วมด้วยสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของบริษัทแต่ก็ถือว่ากำไรจำนวนเกือบร้อยล้านที่เป็นผลกำไรต่อครอบครัวทุกๆ ปี
หลังจากที่ปั้นหยาเอ่ยทักณิชาพนักงานรีบพากันหันมองและแยกย้ายด้วยที่ณิชาเธอเป็นหัวหน้าของฝ่ายออกแบบใหญ่กว่าพวกที่ยืนซุบซิบนินทาคนอื่น
"ไม่มีอะไรหรอก ปั้นหยามาที่นี่ทำไมเหรอ"
"ณิชาไม่รู้เหรอว่าบริษัทนี้เป็นของแฟนเรา ซึ่งเราจะมาตอนไหนก็ได้ไม่ใช่ปัญหาเพียงแค่คุณพ่อของเราเป็นหุ้นส่วนที่นี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์แต่อีกไม่นานเรากำลังจะเป็นเมียของท่านประธาน"
แฟ้มเอกสารในมือของณิชานั้นร่วงหล่นลงที่พื้น เธอตกใจในคำพูดของปั้นหยาเพื่อนสนิทตัวเองที่รู้ว่าณิชานั้นแต่งงานแล้ว แต่ไม่รู้คนที่เธอแต่งงานด้วยคือภาคินเจ้าของบริษัทนี้คนที่ปั้นหยากำลังพูดถึง
"ณิชาเป็นอะไรหรือเปล่า" ปั้นหยารีบนั่งยองๆ ลงเพื่อเก็บแฟ้มเอกสารยื่นคืนให้กับณิชา ใบหน้าน้อยร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกายรู้สึกไม่ดีจนต้องรีบใช้มือนั้นลูบคลำใบหน้าของตัวเองสะบัดหน้าส่ายไปมาปฏิเสธเพื่อนสนิท
"ณิชาเธอเป็นอะไรเนี่ยเดี๋ยววันนี้ท่านประธานมาปั้นหยาจะรีบแนะนำให้รู้จักนะเคยบอกกับปั้นหยาไม่ใช่เหรอว่าถ้าปั้นหยาจะแต่งงานต้องเอาผู้ชายมาให้ณิชาดูก่อน วันนี้ได้เห็นแน่ๆ แต่จะว่าไปณิชาบอกว่าแต่งงานแล้วทำไมปั้นหยาถึงไม่เคยเห็นสามีของณิชาเลยล่ะ แบบนี้มันไม่แฟร์นะ"
สิบกว่าปีที่เธอทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันณิชากับปั้นหยาไม่เคยผิดใจกันเลยถึงแม้ว่าณิชาจะไม่รวยมากแต่ปั้นหยาเธอไม่เคยรังเกียจคอยช่วยเหลือมาโดยตลอดแถมยังเป็นเพื่อนสนิทที่คุยด้วยกันได้ทุกเรื่อง
"ว้าวคุณปั้นหยานี่เองที่เป็นภรรยาของท่านประธาน" พนักงานคนนี้หน้าตาดีแต่ดูท่าทีจะประจบคนเก่งรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้ามาใกล้ๆ ปั้นหยาพร้อมกับทำความเคารพโดยการก้มหน้าลงเพียงเล็กน้อย
"สวัสดีค่ะคุณปั้นหยา ดิฉันฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
ปั้นหยาส่งมอบรอยยิ้มให้กับพนักงานคนที่เดินเข้ามาประจบ ทว่ามีเสียงพนักงานอีกคนนั้นพูดขึ้น
"จะเป็นคุณปั้นหยาได้ยังไงคุณภาคินประธานของบริษัทนี้แต่งงานแล้วเมื่อสามปีก่อน" ณิชาได้เพียงแต่หลับตาลงเหมือนดั่งกับว่าไฟที่กำลังจุดขึ้นด้วยที่เธอได้ยินเสียงของพนักงานคนเก่าพูดว่าภาคินนั้นแต่งงานแล้วเมื่อสามปีก่อน
"หมายความว่ายังไงคุณภาคินแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ" ปั้นหยารีบเดินขยับเข้าไปใกล้ๆ พนักงานที่พูดขึ้นอยู่โต๊ะทำงานของตัวเอง ณิชาเธอจึงจับมือของปั้นหยาและดึงเข้าไปในห้องของท่านประธาน
"ณิชาดึงมือเราเข้ามาในนี้ทำไม เรากำลังจะถามพนักงานคนนั้นเอาอะไรมาพูดว่าคุณภาคินแต่งงานแล้ว คุณภาคินยังไม่ได้แต่งงานคุณย่าของปั้นหยากับคุณย่าของคุณภาคินเป็นเพื่อนสนิทกันและเราทั้งสองคนก็หมั้นกันตั้งแต่เด็ก"
เหตุผลนี้นี่เองที่ทำให้ปั้นหยามั่นใจว่าตัวเองจะได้แต่งงานกับภาคิน คุณย่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันคงมั่นหมายกันไว้ตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก
"อย่าไปฟังเลย พวกเขาก็ซุบซิบนินทากันไปทั่วแหละ"
"ก็คงจะจริง คุณภาคินจะแต่งงานได้ยังไงปั้นหยาต่างหากคือคู่หมั้นแล้วว่าที่เจ้าสาวของเขา" ใบหน้าของปั้นหยาดูมีความสุขทั้งรอยยิ้มที่เหมือนรอภาคินกลับมาแต่งงานกับตัวเอง
ต่างจากณิชาที่ดูกังวลและเสียใจตลอดระยะเวลาสามปีที่เธอทำทุกอย่างทำหน้าที่ภรรยาเพื่อรอสามีของเธอกลับและยังมีเจ้าตัวเล็กที่เกิดจากความพลาดพลั้งของเขาแต่คือความตั้งใจของเธอ
"ณิชาเธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ปั้นหยาจับแขนณิชาเขย่าด้วยที่ปั้นหยานั้นเรียกณิชาหลายครั้งแต่ดูเหมือนว่าเธอจะเหม่อลอยกำลังคิดถึงเรื่องของตัวเองกับภาคินและยังมีปั้นหยาที่เป็นเพื่อนสนิท เพื่อนที่แสนดีกำลังจะแต่งงานกับสามีของเธอเขาเป็นคู่หมั้นกันมาตั้งแต่เด็กแล้วจะบอกเรื่องนี้กับปั้นหยายังไง
"ไม่มีอะไร"
"ณิชาทำงานที่บริษัทนี้มาสามปีแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วคนที่ดูแลบริษัทนี้เป็นใครล่ะ ประชุมทุกครั้งก็มีแต่คุณย่าที่มาประชุมแทนแล้วใครเป็นคนที่เซ็นเอกสารแทนกัน ไหนขอดูหน่อยซิ" ถ้าปั้นหยาเห็นลายเซ็นในเอกสารว่าเป็นของณิชาเธอจะต้องสงสัยแน่ๆ และนิชาก็ไม่อยากทำให้ปั้นหยาต้องเสียใจและผิดหวัง
ณิชาเธอจึงดึงแฟ้มเอกสารนั้นเอามาโอบกอดไว้ไม่ให้ปั้นหยาเปิดดู
"ไม่ได้นี่คือเอกสารลับ"
"ก็ได้เข้าใจว่าเป็นเอกสารลับของบริษัท ถ้าเผยแพร่ไปคงไม่ดีอีกอย่างถ้าคุณภาคินรู้เขาก็จะโกรธปั้นหยาเอาได้ ว่าก็ว่าเราทั้งสองคนไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันไหม"
"ตอนนี้เนี่ยเหรอ"
"ใช่ตอนนี้นี่แหละ หิวแล้วอยากกินอะไรเดี๋ยวปั้นหยาเลี้ยงณิชาเอง" ปั้นหยาเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ โอบกอดคอของณิชาเหมือนทุกๆ ครั้งที่ชวนไปหาของกิน
"ท่านประธานมาแล้ว"
ณิชาเธอยังไม่ได้ปฏิเสธปั้นหยาแต่ได้ยินเสียงจากทางด้านนอกว่าท่านประธานมาแล้วหรือว่าคุณภาคินมาที่บริษัทแล้วจริงๆ ได้ข่าวว่ากลับมาจากต่างประเทศแต่ยังไม่เข้าบ้านยังไม่มาหาคุณย่าทำไมถึงมาที่บริษัท
"ตายแล้วณิชาปั้นหยามาอยู่ในห้องทำงานของคุณภาคินแบบนี้เขาจะโกรธไหม ณิชาต้องเป็นพยานให้นะว่าปั้นหยาเข้ามาเป็นเพื่อนณิชาที่เอาเอกสารมาส่ง" ดูปั้นหยานั้นกังวลมากเขาคงแคร์คุณภาคินมากสินะ
เเอ๊ด! เมื่อประตูห้องทำงานของท่านประธานเปิดเข้ามาดวงตาคู่น้อยจ้องมองไปยังคนตัวโตสวมใส่สูทเสื้อกั๊กสีเทาดำรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อคิ้วเข้มจมูกโด่งดูดีกว่าสามปีที่แล้วราวกับคนละคน สายตาคู่นั้นจ้องมองมายังหญิงสาวทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทว่าณิชาเธอยืนนิ่งแต่งจากปั้นหยาส่งมอบรอยยิ้มให้กับเขา ดั่งว่าเขินอายจนใบหน้าสวยเปร่งสีชมอ่อนขึ้น
"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาอยู่ในห้องทำงานของผม" น้ำเสียงเรียบนิ่งของภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง สายตาของเขาสลับมองหน้าปั้นหยาและณิชา
"พี่ภาคินมีอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงหวานของใครบางคนที่อยู่หน้าห้องทำงานเธอเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงใส คนตัวเล็กที่เดินเข้ามานั้นโอบกอดแขนของภาคินดั่งกับคู่รัก ใบหน้าที่ดูใสซื่อมองมาทางปั้นหยาและณิชา
"ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอคะ" เมื่อปั้นหยาเอ่ยถามภาคินว่าผู้หญิงที่เดินเข้ามาอยู่ข้างกายของเขานั้นเป็นใครไม่เพียงแต่ปั้นหยาที่รอคำตอบแต่ณิชาผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายยังรอฟังคำตอบจากสามีที่หายไปถึงสามปี
"เวียงพิงค์เป็นแฟนของพี่ภาคินค่ะและคุณทั้งสองคนเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาอยู่ในห้องทำงานของพี่ภาคิน" ผู้หญิงข้างกายของเขารีบเอ่ยถามประโยคคำถามของปั้นหยาแทนภาคินทันที แฟ้มเอกสารในมือของณิชาร่วงหล่นลงพื้น เธอได้ยินชัดเจนว่าสามีของเธอกลับมาพร้อมผู้หญิงคนอื่น ภรรยารอสามีกลับบ้านมาถึงสามปี นี่คือของขวัญตอบแทนอย่างนั้นเหรอ บัดซบสิ้นดี
"พี่ภาคินคะ เวียงพิงค์รู้สึกปวดหัว" ผู้หญิงอ่อนโยนข้างกายเขาทำท่าทีออดอ้อนจนณิชาเธอไม่อยากมองดูจึงรีบก้มหยิบแฟ้มเอกสารที่ร่วงหล่นลงพื้นและเปิดประตูห้องเดินหนีออกมาจากห้องทำงาน ใบหน้าน้อยที่เคยสดใสก็คือรอยยิ้มกลายเป็นใบหน้าที่ซีดเซียว ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตาฝีเท้าที่ก้าวเดินนั้นแทบจะยืนไม่อยู่เธอประคองตัวเองหนีออกพวกเขามาพร้อมกับความเจ็บปวด สามปีที่ผ่านมามันคืออะไรหลังจากแต่งงานเขาก็ไม่เข้าห้องหอไปอยู่ต่างประเทศสามปี ทว่ากลับมาพร้อมกับผู้หญิงคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองแต่งงานมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว
"ฮื่อๆ คุณทำแบบนี้ฉันกับลูกได้ยังไงคะภาคิน"











