บทที่ 9 🔥🥀เมียชั่วคราว : บทที่ 8 ไล่เมียและลูกออกจากบ้าน
บทที่ 8
แผลบนร่างกายที่ว่าเจ็บปวดยังไม่เท่าแผลในหัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำเสียงสะอื้นและเสียงร้องไห้ของเธอคงสู้เสียงออดอ้อนของผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายเขาไม่ได้แม้แต่สิ่งปลอมๆ ที่เกิดขึ้นเขาก็ไม่เหลียวแลที่จะเชื่อเธอเลยเลือกที่จะเชื่อผู้หญิงคนนั้นทุกอย่าง
ณิชาเดินกลับขึ้นมาบนห้องเมื่อเปิดประตูออกเธอเห็นลูกสาวของตัวเองนั่งยิ้มหน้าหวานอยู่บนเตียงเด็กน้อยไร้เดียงสา แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอง
ณิชายอมรับว่าเธอนั้นเป็นแม่ที่ไม่ดีนัก สนใจแต่งานและสิ่งรอบข้างมากกว่าสนใจดูแลคุณย่าของเขาเพื่อตอบแทนพระคุณที่คิดว่าคุณย่านั้นดีกับตัวเองอยากให้เธอแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยแท้จริงแล้วคุณย่าต่างหากที่หลอกทุกคน
"คุณแม่ร้องไห้อีกแล้วเหรอคะ" น้ำเสียงเล็กๆ ผู้เป็นดวงใจของผู้เป็นแม่นั้นเอ่ยถามไปหน้าเริ่มเปลี่ยนและบิดเบือนเหมือนดั่งว่าเธอรอแม่ของเธอกลับขึ้นมาบนห้องพร้อมกับเสียงหัวเราะกลับกลายเป็นเสียงร้องไห้แทน
"คุณแม่แค่ฝุ่นเข้าตา มิลินเราไปเที่ยวกันไหมลูก" คำว่าเที่ยวเมื่อพ้นออกมาจากปากน้ำตาไหลรินออกจากดวงตาทั้งสอง เธอต้องยอมโกหกลูกสาวของตัวเองเพื่อปิดบังมิลินที่อายุยังไม่ถึงสามขวบ เขาไม่ควรบอกลูกว่าพ่อของเขานั้นไล่เธอออกจากบ้าน
"จริงเหรอคะจะไปเที่ยวจริงๆ เหรอ" ใบหน้าน้อยร่าเริงด้วยรอยยิ้มท่าทางดีใจนั้นเปล่งความสุขออกมาทางสีหน้า ต่างจากผู้เป็นแม่ที่รู้อยู่ในใจว่ากำลังหลอกลูกเพื่อออกจากบ้านของเขา
"คุณผู้หญิงจะไปเที่ยวเหรอคะ" พี่เลี้ยงน่าจะอายุเกือบสี่สิบปี เขาเลี้ยงน้องมิลินมาด้วยความรักและความทะนุถนอมด้วยที่พี่เลี้ยงน่าจะสงสัยว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำไมณิชาถึงยังจะพาลูกสาวไปเที่ยว
"อรวรรณดูแลตัวเองดีๆ นะ"
ในขณะที่ณิชานั้นเงยหน้ามองพี่เลี้ยงที่ชื่ออรวรรณบ่งบอกมาทางสายตาแทนคำพูดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มจนดูน่าสงสารในสายตาของพี่เลี้ยง
"คุณผู้หญิงคะ พี่ขอไปดูแลน้องมิลินด้วยได้ไหม ไม่ต้องจ่ายเงินพี่ก็ได้ค่ะ แค่เลี้ยงข้าวพี่สามมื้อแค่นั้นขอร้องนะคะ ให้พี่ไปด้วยนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่รับได้ทุกอย่าง"
อรวรรณพี่เลี้ยงที่แสนดีของมิลินนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของณิชาเพื่ออ้อนวอนขอไปเลี้ยงน้องมิลินด้วย เธอคงรู้ว่าณิชากำลังจะพาลูกสาวออกจากบ้านหลังนี้จึงยอมแลกทุกอย่างแม้แต่เงินค่าจ้างอรวรรณก็จะไม่เอา
"คุณแม่คะ อรวรรณไปด้วย" มือทั้งสองข้างของเด็กสาวตัวเล็กตบเข้าหากันด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าแม่ของเธอนั้นต้องเอาอรวรรณไปเที่ยวด้วย
"ความลำบากมันมากกว่าที่นี่เป็นร้อยเท่า"
"ขอร้องนะคะ คุณณิชาไม่ว่าจะลำบากยังไงพี่ก็จะเคียงข้างคุณหนูและก็คุณผู้หญิง"
พบเจอแต่คนใจร้ายไม่เคยคิดเลยว่าพี่อรวรรณจะนิสัยดีและตอบแทนเธอแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินจ้าง เงินเก็บส่วนตัวของณิชาก็มีถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีมากขนาดนั้นแต่ก็พอจ้างพี่เลี้ยงและซื้อบ้านใหม่หลังเล็กๆ อยู่ได้
"เธอไม่มีสิทธิ์เอาคนใช้ของฉันไปไหนทั้งนั้น ถ้าจะไปก็ไปแต่ตัวและเอาลูกชู้ของเธอไป" เมื่อประตูห้องถูกผลักเข้ามาด้วยที่ยังไม่ทันได้ปิดสนิทน้ำเสียงทุ้มพูดขึ้นด้วยความเห็นแก่ตัว ภาคินเอ่ยสั่งไม่ให้พี่เลี้ยงนั้นไปด้วยและยังเอ่ยว่าณิชาต่อหน้าลูกสาว
"คุณลุงมา"
ไม่รู้เหมือนกันทำไมน้องมิลินถึงได้หวาดผวาแล้วกลัวพ่อของเขาได้ขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มิลินใฝ่ฝันว่าอยากเจอพ่อของเขา
ณิชาเธอลุกขึ้นจ้องมองไปที่ภาคินแม้แต่อยู่ในห้องของตัวเองแค่ไม่กี่นาที เขาก็รีบตามมาไล่หรือว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนยุให้เขามากันแน่
"คุณภาคินให้โอกาสฉันอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนได้ไหม ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเลยและฉันจะพาลูกของฉันไปอยู่ที่ไหน คุณไม่เห็นใจฉันบ้างเหรอ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ฉันทำทุกอย่างแทนคุณบริหารที่บริษัทนั้นแทนจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือว่าดูแลลูกเลยแม้กระทั่งในตอนที่ฉันท้องแก่ ฉันยังต้องทนนั่งทำงานจนเกือบสว่าง"
"เธอทวงบุญคุณเหรอ ถ้าเทียบกับการที่เธอทำกับคุณย่า บุญคุณของเธอแทบไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ มันก็ถูกแล้วนี่ที่เธอต้องทำงานเพราะเธออยู่บ้านหลังนี้ในสถานะคุณผู้หญิงของบ้าน เธอไม่ได้มาเป็นคนใช้ อย่าอ้างว่าท้องแก่ก็ต้องทำงาน เธอร่านไปมีลูกกับใครล่ะ ทำไมไม่ให้พ่อของเด็กรับผิดชอบ อ๋อ ไม่สิจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้เพราะเธอตั้งใจที่จะสวมรอยให้ฉันเป็นพ่อของเด็ก ฉันไม่ได้โง่"
หมดแล้วความรู้สึกที่ดีและรอคอยผู้เป็ฯสามีมาตลอดาสมปี ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้เลวเกินกว่าที่เธอจะรักได้ลง ถ้าไม่ใช่ต่อหน้าของน้องมิลินลูกสาวที่นั่งมองอยู่นั้นณิชาคงได้โวยวายหรือไม่ก็ตบหน้าของผู้ชายคนนี้อีกอย่างแน่นอน
"คุณไล่ฉันเองนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลัง"
"ไม่ๆ อย่าเข้ามา" ภาคินโกรธในสิ่งที่ณิชาพูดเขาเดินแทรกเข้ามาหาน้องมิลินที่นั่งอยู่ที่เตียง เด็กสาวตัวเล็กส่ายหน้าไปมาเนื้อตัวสั่นพยายามก้มหน้าลงเพราะว่ากลัวพ่อที่แท้จริง
เหตุการณ์นี้ที่ภาคินเห็นว่าเด็กสาวตัวเล็กผู้ที่คิดว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองกำลังหวาดกลัวเขากลับรู้สึกแปลกๆ จนเขาต้องหยุดชะงัก
"คุณจะทำอะไร คุณภาคินอย่ามายุ่งกับลูกสาวฉัน ฮึ๊ก เลิกเลวกับลูกแล้วก็ฉันสักที"
ณิชากลัวว่าสามีจะทำอะไรลูกสาวด้วยที่เขากำลังเข้าใจผิดว่ามิลินไม่ใช่ลูกของตัวเองไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขอาจจะเกิดอะไรไม่ดีกัลคนเป็นลูก ผู้เป็นแม่พุ่งตัวเข้าหาลูกและโอบกอดอุ้มลูกเอาไว้
"ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ อย่าให้ฉันต้องพูดอีก"
เขาต้องการที่จะเข้ามาอุ้มลูกเพื่อเอาลูกออกจากบ้านไม่มีใครเลวเกินกว่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
"ฉันยอมคุณแล้ว ฉันจะพาลูกออกจากบ้านนี้เอง ต่อจากนี้ไปก็ขอให้มีความสุขกับสิ่งจอมปลอมอยู่กับผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายคนนั้น ส่วนเรื่องหย่าคุณต้องการให้ฉันหย่าคุณก็ต้องแบ่งทุกอย่างให้กับฉันครึ่งหนึ่ง"
ณิชาเธอไม่ได้เห็นแก่ตัวแต่ตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอทุ่มเทไปกับงานมากจนบริษัทที่ก่อตั้งนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นจนใครต่อใครก็รู้จักมีเงินมากกว่าหมื่นล้านในบริษัทนั้น
ภาคินทำท่าทีหัวเราะมือของเขานั้นล้วงกระเป๋ากางเกงของตัวเองเงยหน้าขึ้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ดูเหมือนสมเพชเมีย
"อ๋อ...ที่เธอพยายามเล่นตัวไม่ยอมหย่าให้ฉันก็เพราะว่าอยากได้ทรัพย์สมบัติของฉัน เห้อ! นอกจากเลวไม่พอแล้วยังหน้าด้านอีกนะ ไม่รู้ว่าฉันจะสรรหาคำไหนมาด่าเธอยังไงณิชา"
คำก็เลวสองคำก็หน้าด้านสามคำก็ผู้หญิงชั่ว คนที่ดีในสายตาของเขาก็คงจะเป็นเวียงพิงค์สินะ เป็นเพียงคำพูดที่ถามในใจของณิชาเพียงเท่านั้นในเมื่อในสายตาของเขามองเธอแบบนั้นก็ปล่อยสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือเด็กสาวตัวเล็กในอ้อมกอด ณิชาที่พยายามเตือนสติของตัวเองพาลูกเดินออกมาจากห้องโดยที่ไม่เอาอะไรมาเลยแม้แต่อย่างเดียว
"คุณผู้หญิงคะ พี่ไปด้วยนะ"
ณิชาเดินลงมาด้านล่างก่อนจะถึงประตูรั้วอรวรรณพี่เลี้ยงยังคงตามมาด้วยและขอที่จะออกมาจากบ้าน
"เธอกล้าที่จะออกบ้านในตอนกลางคืนแบบนี้ หึ! หรือว่าเธอนัดพ่อของลูกเธอไว้แล้วล่ะ ทำเป็นไม่เอาอะไรไปเอาโทรศัพท์มือถือมาดูซิเธอโอนเงินเข้าธนาคารของเธอไปแล้วหรือเปล่า" ภาคินยื่นมือเพื่อขอโทรศัพท์ของณิชาเพื่อที่จะตรวจดูเงินในบัญชี
"อรวรรณพี่กลับเข้าไปเถอะ เอาไว้ณิชาจะติดต่อกลับมานะ" ณิชาเธอเลือกที่จะหูทวนลมไม่สนใจในคำพูดและคำว่าของภาคินไม่เอามือถือของเธอนั้นให้กับเขา เมื่อณิชาเธอหันหลังเตรียมที่จะก้าวขาเดินออกจากประตูรั้ว ทว่าภาคินจับแขนของณิชาเอาไว้และรีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของณิชา
"เอามาเดี๋ยวนี้นะ'
"หนูกลัวคุณแม่หนูกลัว" น้องมิลินลูกสาวของเธอนั้นกอดคอของผู้เป็นแม่จนรัดแน่นเนื้อตัวสั่นพร้อมกับเสียงสะอื้นว่าเธอนั้นกลัว มือทั้งสองอุ้มลูกเอาไว้ไม่สามรรถแย่งโทรศัพท์คืนมาจากเขาได้
"ไปดิ ไปเลยอยากรู้เหมือนกันแหละ ถ้าไม่มีเงินจะออกไปยังไง"
"ฮึ๊ก ภาคิน!"











