บทที่ 4 บทที่ 3

บทที่ 3

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวขณะที่เรียวและทีมกำลังลั่นไกสู้กับคนร้าย มีแอลที่ยืนแอบอยู่หลังกำแพงก็ชะเง้อคอมองหาเรียว เมื่อเจอเขาแล้วเธอก็ย่อเข่าลงแล้วรีบเดินไปหลบอยู่ข้างหลังชายหนุ่ม

"ตามมาทำไมวะ บอกแล้วไงว่าไม่ใช่สนามเด็กเล่น!" เรียวเอี้ยวหน้าไปเอ็ดเด็กสาวอย่างจริงจัง ทว่ามีแอลกลับทำหน้านิ่งไม่สะทกสะท้านกับคำพูดร้ายกาจของเขา

"ก็บอกแล้วไงว่าไม่กลัว" เรียวสูดลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่บอกได้ว่าขีดความอดทนของเขาเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ ชายหนุ่มตวัดสายตาจ้องมองคนร้ายที่หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนกำลังเข้าไปใกล้โดยมีเบฬินและทัดเทพนำทีมไป

"เท่ชะมัดเลย ต้องเก่งกาจแบบนี้สิเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกเรา" มีแอลทำหน้าปลาบปลื้มเมื่อมองใบหน้าคมคายของเรียว เธออมยิ้มอย่างลืมตัว

"ว้าย!" รีบเอามือปิดปากอย่างไวเมื่อเผลอร้องออกไป เธอก้มมองชายชุดเดรสที่มันขาดแหวกลึกขึ้นมาจนเห็นหน้าขาขาวเนียน เรียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หันมามองเธอด้วยแววตาดุดันราวกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะฉีกกระชากเหยื่อ

"จุ้นจ้าน!" เขาดันตัวเธอออกห่างแล้วยกปืนขึ้นมาลั่นไกไปหลายนัดก่อนที่เสียงปืนของฝั่งตรงข้ามจะเงียบไป ทัดเทพส่งสัญญาณให้เขาและไบรท์ให้เข้าไปเคลียร์พื้นที่ "นั่ง! ถ้ากระดุกกระดิกฉันยิงหัวเธอแน่!" ยากูซ่าหนุ่มออกคำสั่งเสียงกร้าวแล้วเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง ขณะที่คนโดนสั่งนั่งอยู่กับที่แล้วคอยมองชายหนุ่มด้วยสายตาปลาบปลื้ม

"คนร้ายถูกวิสามัญเรียบร้อย พร้อมเคลียร์พื้นที่เสร็จในหนึ่งชั่วโมง" เสียงเข้มของไบรท์ดังเข้ามาในหู ทุกคนต่างกระจายกำลังออกไปตรวจรอบๆบริเวณ

"งานเสร็จแล้วเหรอ" เธอถามเรียวที่เดินย้อนกลับมา ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย เขาเดินผ่านเธอไปหน้าตาเฉย มุมปากบางยกยิ้มอย่างร้ายกาจ

"โอ้ย!" เธอล้มพับลงกับพื้น ใบหน้าสวยเหยเกอย่างหนักดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตามองไปที่ข้อเท้าตัวเองที่เริ่มเขียวช้ำขึ้นทันทีทันใด เธอพยายามดึงชายชุดเดรสปกปิดขาอ่อนไว้

"น้องเป็นอะไรไหม ลูกยิงเหรอ" อ๊อฟถลาเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง เด็กสาวยิ้มอย่างเกรงใจแล้วก้มมองข้อเท้าตัวเอง "ข้อเท้าแพลงเหรอ" มีแอลพยักหน้าเบาๆ เธอหันไปมองเรียวที่เพิ่งเดินออกไปด้วยแววตาผิดหวังเล็กน้อยก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นโดยมีอ๊อฟช่วยพยุง

"แอลขอกลับด้วยได้ไหม ป่านนี้เพื่อนคงกลับหมดแล้วโทรศัพท์แอลก็ไม่มี" เธอขอความเห็นใจจากเรียวที่กำลังตั้งหน้าเดินไปที่รถยนต์กันกระสุน เขาหยุดเท้าทั้งสองข้างแล้วพ่นลมหายใจออกอย่างเบื่อหน่าย

"อย่าล้ำเส้น" เขาพูดคำนั้นลอดไรฟันก่อนที่จะดึงผ้าบัฟปิดหน้าแล้วหันไปหามีแอลที่ยืนอยู่ข้างหลัง เด็กสาวทำหน้านิ่งหากแต่แววตากลับสั่นระริกเมื่อเผลอสบตากับเขา

"แอลเดินไม่ไหวหรอก เจ็บเท้ามากเลยเรียวดูสิมันบวมมากเลยนะ" มีแอลทำหน้าเหยเกแล้วก้มมองข้อเท้าตัวเองที่กำลังบวมเป่งขึ้นมา ทว่าชายหนุ่มกลับเมินเฉย

"มาเที่ยวผับ กินเหล้าได้แต่กลับบ้านเองไม่ได้?" เรียวแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันก่อนที่จะก้าวเข้าไปประชิดตัวเด็กสาว เขาเชยปลายคางเธอขึ้น

"เธอแน่ใจเหรอว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดมันถูกต้อง"

"แอลไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย เรียวพูดอะไร"

"หึ!" ยากูซ่าหนุ่มแค่นหัวเราะแข็งๆในลำคออีกครั้งแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว มีแอลที่เห็นแบบนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นจนเธอได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากตัวเขา

"หนูรู้สึกมึนๆหัวจังเลย.." มีแอลยกมือขึ้นมากุมขมับไว้ก่อนที่เธอจะถลาใส่ตัวเรียวอย่างจัง เรียวแขนเล็กตวัดกอดคอหนาไว้ด้วยกลัวตัวเองจะล้ม

"..." เรียวปลายตามองคนตรงหน้าเพียงนิด เขาพ่นลมหายใจออกอย่างหนักใจกับความดื้อรั้นของมีแอลแม้จะรู้จักกันแต่เขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับเธอขนาดนั้น

"เรียวจังอุ้มหนูได้ไหม หนูเจ็บเท้าจริงๆนะ" เธอทำหน้าอ้อน น้ำเสียงที่เปล่งออกไปสั่นเครือเล็กน้อยเพื่อขอความเห็นใจจากชายหนุ่ม แทนที่จะได้ความสงสารจากเขาแต่ได้ความเย็นชากลับมาจนเธอต้องคลายอ้อมแขนออกจากคอหนาทว่าจังหวะที่เธอกำลังถอยออกห่างจากเขารองเท้าดันสะดุดกับก้อนหินจริงๆทำให้มีแอลล้มลงไป

"..." เธอทำหน้าเหยเกแล้วรีบยกมือไปกุมข้อเท้าตัวเองไว้

"ว้าย!" ร้องสุดเสียงอย่างตกใจและอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนที่ยืนนิ่งเหมือนไม่รับรู้อะไรกลับย่อเข่าลงแล้วอุ้มเธอพาดบ่า รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าจิ้มลิ้ม

"โอ้ย!...เจ็บนะ" เธอร้องออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าเหยเกเมื่อจู่ๆเรียวก็แบกเธอมาที่รถยนต์หรูของลูกน้องคนสนิทของเขาที่เพิ่งมาถึงแล้ววางเธอลงบนเบาะอย่างแรง แต่กันนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำป่าเถื่อนของเขา

"ชิโร่ดูเจ้านายของนายสิ ไม่เคยอ่อนโยนกับแอลเลย" เธอหันไปทำหน้าอ้อนพูดกับชิโร่ ลูกน้องหนุ่มหันมองใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกของผู้เป็นนายเพียงหางตาแล้วก้มหน้าต่อ

"พาไปส่งบ้าน" เรียวหันหลังให้หลังสั่งชิโร่เสร็จแล้ว

"หนูกลับบ้านสภาพนี้มีหวังพี่ไอเอ็มด่าหูชาแน่...หนูขออยู่กับเรียวได้ไหม แค่คืนเดียว" เธอขอเขาตรงๆแล้วเงยหน้าขึ้นไปสบตากับดวงตาคมกริบที่ไร้ความรู้สึกจนเธอแอบถอดใจ

"ห้องนายก็กว้าง...ให้คุณหนูมีแอลไปพักด้วยสักคืนก็น่าจะได้" ชิโร่ออกความคิดเห็น

"มึงเป็นลูกน้องใคร" น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามลูกน้อง เขาจ้องมองชิโร่ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปภายในเสี้ยววินาที "ผมก็แค่สงสารคุณหนูมีแอล เธอคงเจ็บข้อเท้า.." ชิโร่ยกยิ้มมุมปากแล้วเบือนหน้าหลบสายตาผู้เป็นนาย

"..." ไร้ซึ่งคำตอบจากปากเรียว เขาปิดประตูรถยนต์เสียงดังแล้วก้าวเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับ เรียวช้อนตามองกระจกมองหลังแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจก่อนที่จะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป

"หึ!" ชิโร่แค่นหัวเราะเบาๆ ในลำคอขณะที่มองรถยนต์หรูของเจ้านายขับเคลื่อนออกไป

บทก่อนหน้า
บทถัดไป