บทที่ 3 ลูกแฝด
“แม่นิ่มครับ ช่วยน้องนายด้วย” เสียงลูกชายที่ดังมาจากหน้าร้านทำให้นิ่มรีบวางมือจากชั้นวางของก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กอีกคนที่นั่งอยู่ข้างตะกร้าผักและผลไม้
“น้องนิล อยู่กับลุงหนึ่งแปบนึงนะคะ”
“แม่ออกไปดูพี่นายก่อน”
“น้องนาย เป็นอะไรลูก” นิ่ม สาวหน้าหวานวัย 29 ปี รีบออกมาหน้าร้านตามเสียงเรียกของลูกชาย
“น้องนายเจอคุณยายคนนี้นั่งอยู่หน้าร้านครับ หน้าซีดมากเลย” น้องนาย เด็กชายตัวน้อยในวัยสามขวบนิดๆ ยืนพูดไปพลางเขย่ามือคนเป็นแม่ไปมาเบา ๆ
“งั้นคุณแม่ขอดูคุณยายก่อนนะคะ” เมื่อได้ยินลูกชายบอกร่างบางก็รีบเข้าไปดูคนแก่ที่นั่งหน้าซีดอยู่หน้าร้าน ก่อนจะเอ่ยเรียกเบาๆ
“คุณป้าคะ คุณป้ามีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ”
“หนู พอจะหายาหอมยาลมหรือยาดมให้คนแก่หน่อยได้ไหมจ๊ะ” คุณวิภาที่หันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเอ่ยปากถามหายาเสียงสั่น
“ได้ค่ะ งั้นเข้าไปนั่งในร้านก่อนนะคะ”
“วันนี้ข้างนอกร้อนมาก” นิ่มรับคำก่อนจะตรงเข้าไปพยุงคนแก่ให้ลุกขึ้นเพื่อพาเข้าไปในร้าน
“พี่หนึ่ง พี่หนึ่ง”
“ในร้านพอจะมียาหอมไหมคะ” เมื่อเข้ามาในร้าน นิ่มก็พาคนแก่มานั่งที่เก้าอี้ใกล้ ๆ โซนที่โดนแอร์มากที่สุด ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่ชายที่กำลังง่วนจัดผัก ผลไม้อยู่
“ยาหอมเหรอ พี่ไม่แน่ใจนะ”
“ไปดูที่ตู้ยาด้านหลังสิ นิ่ม” หนึ่งพูดไปพลางจัดของไปโดยที่มีเด็กตัวเล็กอีกคนคอยยื่นของให้
“ขอบคุณครับน้องนิล” หนึ่งที่รับของจากหลานชายก็พูดชมก่อนจะยื่นมือไปลูบที่กลุ่มผมสีอ่อน ที่น่าจะได้มาจากคนเป็นพ่อ เพราะผมของน้องสาวเป็นสีดำขลับ
“คุณยายครับ ผ้าเย็นครับ”
“รอแม่นิ่มแปบนึงนะครับ”
“แล้วนี่น้ำครับ” มือเล็กๆ ที่คอยยื่นโน้นยื่นนี่มาให้ทำให้คุณวิภาถึงกับอมยิ้มกับความน่ารักนี้ ก่อนจะพินิจมองคนตรงหน้าอย่างสะดุดใจ
“ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า”
“ทำไมเหมือนพี่อคินตอนเด็กมาก ๆ เลย ทั้งโครงหน้า แววตา”
“คนเก่งชื่ออะไรครับ” คุณวิภาเอ่ยถามออกไปเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับทั้งผ้าเย็นและแก้วน้ำมาจากเด็กตรงหน้า
“ชื่อน้องนายครับ” น้องนายตอบออกไปก่อนส่งยิ้มมาให้คนตรงหน้า ก่อนจะชี้ไปที่คนตัวเล็ก ๆ อีกคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันมาก
“ส่วนนั่นน้องนิล น้องชายน้องนายเอง” คุณวิภาเงยหน้ามองตามนิ้วเล็ก ๆ ที่ชี้ไป ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเด็กอีกคนเงยหน้าขึ้นมาพอดี
“แฝดเหรอลูก” คุณวิภาถึงกับเผลอพูดออกมาเสียงดัง
“ใช่ค่ะ ทั้งคู่เป็นฝาแฝดกันค่ะ” เป็นนิ่มที่เป็นคนตอบออกมาก่อนจะยื่นแก้วยาหอมมาให้ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายคนโตให้ไปช่วยงานคนเป็นลุงจัดของ
“ขอบใจนะหนู” คุณวิภาบอกออกไปก่อนจะยื่นมือไปรับแก้วยาหอมขึ้นมาจิบ
“ว่าแต่คุณป้าเป็นนักท่องเที่ยวเหรอคะ”
“ไม่ใช่หรอกจ๊ะ”
“ป้ามาดูเค้าปรับปรุงบ้านสวนน่ะ อยู่ติดไร่หนูนี่ล่ะจ๊ะ”
“เอ๋? ไร่ข้าง ๆ” ร่างบางพึมพำเบา ๆ
“ไร่บูระกิจจ๊ะ”
ไนานๆ มาที ป้าก็อยากดูรอบๆ ไร่”
“เลยเดินออกมาแต่ไม่คิดว่าแดดมันจะจัดขนาดนี้” คุณวิภาพูดไปยิ้มไป ทำให้นิ่มเองก็พอจะเข้าใจว่าคนตรงหน้าคงไม่รู้ว่าที่นี่ช่วงนี้อากาศช่วงกลางวันจะร้อนกว่าปกติ
“งั้นจิบยาหอมแล้วนั่งพักก่อนนะคะ”
“เอ่อ ว่าแต่มีใครรู้ไหมคะว่าคุณป้าเดินออกมาคนเดียว” นิ่มถามออกไปเพราะความเป็นห่วงกว่าจะเดินไปไร่โน้นแล้วเดินมาไร่นี่ก็ใช่ว่าจะไม่ไกลสำหรับคนอายุอานามขนาดนี้
“มีเด็กในบ้านจ๊ะ ที่จริงป้าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรก็เลย เอ่อ,,” คุณวิภาเงยหน้าก่อนพูดออกไปเบา ๆ
“หนูเข้าใจแล้วงั้นคุณป้านั่งพักให้สบายก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวถ้ามีใครมาถามหาคุณป้า หนูจะมาบอกนะคะ” นิ่มบอกไปก่อนเดินไปจัดของต่อ
“สวัสดีครับ” คุณวิภาเอ่ยทักคนตัวเล็กที่อยู่ ๆ เดินเข้ามาหาพร้อมยื่นผลส้มในมือให้แต่ไม่พูดอะไร
“น้องนิลใช่ไหมลูก” คุณวิภาถามพลางยื่นมือไปรับผลส้มที่คนตัวเล็กยื่นมา
“ให้ยายเหรอกครับ”
“ครับ” คนตัวเล็กตอบเบา ๆ ก่อนเดินไปหาคนเป็นลุงอีกครั้ง
“ทำไมรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้นะ ใจมันสั่น มันตื่นเต้นแปลก ๆ” คุณวิภาที่ยกมือขึ้นทาบไปที่อกตัวเองพึมพำเบา ๆ กับความรู้สึกที่ตัวเองเป็น
“ดูยังไงก็เหมือน เหมือนจนน่ากลัว” คนแก่ได้แต่นึกในใจ
“พี่นิลครับ ไปล้างมือ แม่นิ่มจะพาไปทานข้าวครับ” หนึ่งเอ่ยปากบอกคนตัวเล็กไป เพราะเห็นน้องนิลยังคงง่วนอยู่กับการจัดส้มและฝรั่งก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะหลานคนนี้พูดน้อยมากไม่เหมือนคนพี่ที่จ้อไม่หยุดแถมเข้ากับคนง่าย
คนน้อง หนึ่งให้นิยาม เสือยิ้มยากของจริง ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ถูกใจจะไม่ค่อยได้เห็นรอยยิ้มจากคนตัวเล็กนี่แน่นอน
ตั้งแต่น้องสาวพาคู่แฝดมาที่ร้าน ทำให้ลูกค้าเวลามาเจอคู่แฝดต้องมีถ่ายรูปลงโซเซียล ทำให้ร้านมีคนรู้จักมากขึ้นไปอีกยิ่งตอนนี้คู่แฝดโตขึ้นและทำอะไรได้เองในหลาย ๆ เรื่อง แม้ตัวคนเป็นแม่เองที่ตอนแรก ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เห็น
