บทที่ 2 ทำเสน่ห์

“ฉันมาจากหมู่บ้านถลางน้อย” ดอกแก้วตอบ

“หมู่บ้านถลางน้อย” พ่อหมอทวนคำแล้วกล่าวต่อ

“ข่าวว่าตอนนี้ไอ้เศรษฐีทองก้อนมันทำตัวกร่างเยี่ยงนักเลงคับเมืองถลาง”

รู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าพ่อหมอดำอยู่ไม่ไกลจากถลาง วีรกรรมของเศรษฐีทองก้อนจึงลอยมากระทบหูบ่อยๆ

“นี่คือสาเหตุทำให้ฉันต้องดั้นด้นมาหาพ่อหมอ”

ดอกแก้วบอกธุระของหล่อน… รอยแค้นนี้ยังฝังตรึงอยู่ในใจ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านพ้นไปแล้ว หากดอกแก้วยังไม่ลืมวันที่เฒ่าชิดกับนางบัวตองพ่อแม่ของหล่อนต้องจบชีวิตเพราะไม่ยินยอมให้ลูกสาวทั้งสามไปเป็นเมียน้อยของเศรษฐีทองก้อนผู้มีอำนาจบาตรใหญ่แห่งเมืองถลาง ทองก้อนมันชั่วนัก… ถึงกับวางอุบายให้คนใส่ร้ายป้ายสี โยนความผิดให้เฒ่าชิดกับนางบัวตองว่าลักลอบค้าขายฝิ่น ทำให้สองผัวเมียถูกทหารจับไปกุดหัว ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์

“เอ็งจะให้ข้าช่วยอะไรก็ว่ามา”

“ฉันอยากให้พ่อหมอช่วยทำเสน่ห์ให้ที”

“ทำเสน่ห์” จอมอาคมได้ยินก็ถึงกับนิ่งไปชั่วขณ

“นี่แสดงว่าเอ็งมีชายที่รักแล้วสินะ… ชายผู้นั้นเป็นไคร” พ่อหมอดำซักไซ้ เมื่อรู้ว่าหญิงสาวรูปงามตรงหน้านี้มีชายคนรักอยู่แล้ว

“ขุนเรืองลูกชายคหบดีชุ่ม”

ดอกแก้วตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง… ถ้าเป็นคนอื่นหล่อนคงมิกล้าเผยความ แต่นี่เพราะว่าเป็น ‘พ่อหมอดำ’ ชายคนนี้ไม่ใช่จอมขมังเวทย์สายขาว แต่ยังเป็นสายเทาเพราะเชี่ยวชาญคุณไสยมนต์ดำเป็นที่เลื่องลือ หล่อนจึงกล้าเสี่ยงวัดดวงกับเขา

“อ้อ… ที่แท้ก็ลูกชายไอ้เศรษฐีผาดนั่นเอง”

คนในเมืองถลางไม่มีใครไม่รู้จักคหบดีชุ่ม เศรษฐีเมืองถลางผู้ร่ำรวยมั่งคั่งมาจากการค้าเครื่องปั้นดินเผาและผ้าไหม พ่อหมอดำเคยเจอเศรษฐีชุ่มเมื่อวันตักบาตรเทโวปีก่อน ยังไม่ลืมภาพของบุรุษผิวขาวร่างท้วมพุงพลุ้ยหัวล้านเหน่ง ใส่ทองเส้นโตเท่าโซ่มาตักบาตรพร้อมกับขุนเรืองผู้เป็นลูกชาย ที่จดจำได้เพราะว่าวันนั้นพากันขนบ่าวไพร่มากันอย่างเอิกเริกจนเป็นที่จับตาของชาวบ้าน

“หญิงงามผู้มีรูปเป็นทรัพย์อย่างเอ็ง ข้าไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอันใดให้ต้องทำเสน่ห์ใส่ผู้ชาย แค่มันเห็นใบหน้างดงามของเอ็ง เห็นหุ่นทรงปลุกใจเสือป่าขี้คร้านจะพากันกรูเข้าหา”

ขณะกล่าวตาของพ่อหมอดำกวาดจากใบหน้าลงมาหยุดอยู่ที่ทรวงอก ทำให้ดอกแก้วต้องกำชับชายสะใบปิดเนื้อหนั่นปทุมถันคู่งาม สองเต้าใหญ่มากจนเนื้อหนั่นเนียนขาวแทบล้นออกมาเบียดต้นแขนกลมกลึง

“ถ้ามันง่ายอย่างที่พ่อหมอว่าก็ดี… แต่ปัญหาของฉันก็คือไม่อาจเข้าถึงตัวขุนเรือง”

ดอกแก้วตอบ… พ่อหมอได้ฟังก็เข้าใจ คหบดีชุ่มมีลูกชายคนเดียว ทั้งรักทั้งหวงราวกับไข่ในหิน ทุกวันนี้ไม่ว่าขุนเรืองจะเยื้องย่างไปไหนแต่ละทีก็ห้อมล้อมไปด้วยบ่าวไพร่ จึงไม่แปลกที่ดอกแก้วคิดจะพึ่งไสยดำทำเสน่ห์

“เอ็งชอบผู้ชายผิวขาวยังงั้นรึ”

พ่อหมอแอบนอกเรื่อง… ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยเสียเวลาสนทนากับผู้หญิงคนใดเกินสามคำ แต่กับดอกแก้วคนนี้เหมือนมีความรู้สึกพิเศษบางอย่าง ทำให้อยากรู้เรื่องราวของหล่อนไปหมด

“เอ็งชอบผู้ชายผิวขาวยังงั้นรึ”

พ่อหมอแอบนอกเรื่อง… ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยเสียเวลาสนทนากับผู้หญิงคนใดเกินสามคำ แต่กับดอกแก้วคนนี้เหมือนมีความรู้สึกพิเศษบางอย่าง ทำให้อยากรู้เรื่องราวของหล่อนไปหมด

“ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายผิวขาว อันที่จริงฉันชอบผู้ชายผิวคล้ำต่างหาก”

ดอกแก้วตอบ… เกือบจะตอบไปแล้วเชียวว่า หล่อนชอบผู้ชายผิวเข้มใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามอย่างพ่อหมอดำนี่แหละ

“อ้าว ถ้าชอบผู้ชายผิวเข้มแล้วเหตุใดเอ็งจึงเลือกขุนเรือง”

หัวคิ้วเป็นแพสีดำหนาเหนือกรอบดวงคาคมดุชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย ดวงตาวาวประกายแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าหล่อนชอบผู้ชายผิวคล้ำ

“ที่ฉันเลือกขุนเรืองก็เพราะว่าคหบดีชุ่มมีบารมีทัดเทียมกับไอ้เศรษฐีทองก้อน”

คำพูดของดอกแก้ว ทำให้พ่อหมอดำรู้ว่าจุดประสงค์ของการทำเสน่ห์ในครั้งนี้ก็คือการหาผัวเอาไว้คุ้มครองอย่างที่หล่อนว่า รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าหาได้มีจิตพิศวาสขุนเรือง แต่ที่ต้องมาขอให้ทำเสน่ห์ก็เพราะว่าอยากมีคนคอยปกป้องคุ้มภัย

“ข้าว่าไอ้หนุ่มนั่นก็ไม่ได้หล่อไปกว่าข้า”

พ่อหมอดำหมายถึงขุนเรือง

“ฉันยังไม่เอ่ยสักคำว่าพ่อหมอไม่หล่อ”

คำพูดของดอกแก้วทำเอาพ่อหมอดำแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่คิดว่าเมื่อโดนหญิงสาวกล่าวชมกันแบบซึ่งหน้าจะทำให้หัวใจหนุ่มใหญ่รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอย่างประหลาด

“พ่อหมอยังไม่ตอบฉันว่าจะช่วยทำเสน่ห์ใส่ขุนเรืองได้หรือไม่”

ดอกแก้วรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาเข้ามาที่ธุระของหล่อน เมื่อสังเกตเห็นสายตาของพ่อหมอดำที่มองสำรวจเรือนร่างเอิบอิ่มไปด้วยเลือดเนื้อวัยสาวสะพรั่งตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“ได้สิ… ทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวข้าจะทำพิธีร่ำน้ำรักสักยันต์ลงอักขระมหาเสน่ห์ในที่ลับของเอ็ง… วิธีนี้จะทำให้ไอ้ขุนเรืองคะนึงหาแต่ใบหน้าของเอ็งทั้งยามตื่นทั้งยามหลับ เมื่อได้เสพสมร่วมสวาทกับเอ็ง มันจะลุ่มหลงเอ็งจนโงหัวไม่ขึ้น และตกอยู่ในอำนาจของเอ็งแต่เพียงผู้เดียว”

“สักยันต์อักขระในที่ลับของฉันหรือ !?”

ถามตะกุกตะกัก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป