บทที่ 3 จุดเริ่มต้น (75%)

เพราะชื่นชอบยิมนาสติกซึ่งแตกแขนงมาจากวิชาพลศึกษา ทำให้คนมันสมองเฉียบแหลมอย่างทวิชานำมันมาประยุกษ์เป็นศิลปะการต่อสู้ ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับผู้ร้ายเธอก็มักจะเทคตัวให้ลอยขึ้นกลางอากาศแล้วเอาเท้าฟาดปากคู่ต่อสู้ จนเป็นที่กล่าวขานและร่ำลือไปทั่วทั้งวงการตำรวจ และนำมาซึ่งฉายาสารวัตรสาวเท้าพิฆาต บ้างก็เรียกแม่สาวขาโหดประจำสถานีตำรวจเมืองนวร์ก

สองเพื่อนซี้พูดคุยกันมาตามถนนที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความโหดร้าย บ้างก็มีเสียงหัวเราะหยอกล้อดังแว่วออกมา จวบจนกระทั่งเดินมาถึงบริเวณที่จอดรถซึ่งเพิ่งได้รับกุญแจจากลูกน้อง เสียงเหล่านั้นถึงได้เงียบลง ก่อนที่ทั้งสองจะโบกมืออำลาให้แก่กัน แล้วตรงไปยังรถตำรวจของสถานีที่ตนสังกัดอยู่

“คิดจะปลิดชีวิตพี่น้องฉันนับสิบ แล้วจะปัดตูดหนีเหรอสารวัตร?” น้ำเสียงเยือกเย็นชวนให้ขนลุกของหนึ่งในผู้นำของกลุ่มหัวรุนแรงที่เพิ่งก่อเหตุจราจลไปเมื่อสักครู่ ทำให้คนที่กำลังง่วนอยู่กับการไขกุญแจรถกระบะชะงักมือลง คิ้วหนาเป็นปื้นขมวดมุ่น ก่อนจะค่อยๆ ผงกหัวขึ้นแล้วหันไปมองยังต้นเสียง แต่ยังไม่ทันที่ไม่เคิลจะได้ปริปากว่ากระไรก็โดนคนชั่วล็อกคอจากทางด้านหลังและใช้ปืนจี้ที่เอวเสียก่อน

“ไอ้ชาติชั่ว มึงยังไม่ตายอีกหรือเนี่ย” ทวิชาได้ยินเสียงหนึ่งแว่วเข้ามากระทบหูจึงเดินย้อนกลับมาหาเพื่อนรัก แล้วก็ต้องเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความเดือดดาล ดวงตากลมโตวาวโรจน์ หากแต่ในใจกลับเริ่มเต้นผิดจังหวะเมื่อเห็นไมเคิลตกในกำมือของคนชั่ว ที่ไร้ซึ่งความปรานีและโหดเหี้ยมได้อย่างร้ายกาจ

“ถ้ามึงกับเพื่อนมึงยังไม่ตาย แล้วกูจะตายตาหลับได้ยังไง” น้ำเสียงกระด้างติดจะเหี้ยมประกาศกร้าว พร้อมกันนั้นคนชั่วก็ย้ายปลายกระบอกปืนที่จี้อยู่บริเวณเอวมาเป็นขมับซ้ายของไมเคิล จะฆ่าสารวัตรหนุ่มตอนนี้ก็ได้ แต่มันจะยังไม่ทำ เพราะต้องการทรมานแบบช้าๆ ถือเป็นการบีบคั้นหัวใจสารวัตรสาวขาโหด มันสะใจกว่ากันเยอะ

“ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าแกไม่อยากถูกยิงไส้แตก” ร่างบางเคลื่อนตัวมายืนจังก้าตรงหน้าคนร้ายพร้อมปืนในมือ ก่อนจะเปล่งน้ำเสียงเฉียบขาดออกคำสั่ง

“แน่ใจเหรอสารวัตร?” ทวิชาหลุดสบถออกมาเมื่อหันไปเบื้องหลังแล้วเห็นชายร่างอ้วนเตี้ยกำลังแสยะยิ้มอย่างเป็นต่อ โมโหให้ตัวเองยิ่งนักที่ไม่ทันระวังหน้าระวังหลัง คิดแต่ว่าจะทำยังไงให้เพื่อนรักรอดพ้นเงื้อมมือของคนชั่ว

“วางปืนลงซะ ถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงตาย!” ชายชั่วออกคำสั่งพร้อมข่มขู่เสียงห้วนจัด

สารวัตรสาวทำทีเป็นย่อตัวลงเพื่อวางปืน ในขณะเดียวกันสองเพื่อนซี้ก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้แก่กัน แล้วทันใดนั้นไมเคิลก็จับบิดข้อมือแย่งปืนจากคนที่กำลังยืนล็อกคอเขาอยู่แล้วทุ่มอีกฝ่ายลงพื้นดังอั่ก ส่วนทวิชาก็เอี้ยวตัวพุ่งกระสุนไปยังมือปืนข้างหลังอย่างแม่นยำ ชั่วพริบตาปืนในมือชายหน้าเหี้ยมก็อันตรธานหายไปพร้อมกับเลือดสีแดงฉานไหลรินออกมาแทนที่ มันกุมมือตัวเองและร้องครวญครางโอดโอยไม่ต่างจากลูกพี่ของมันที่โดนไมเคิลอัดซะจนอ่วมอรทัย

“เฮ้ย…ลูกพี่อยู่ทางนี้โว้ย มาช่วยกันหน่อยเร็ว”

เสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์นับสิบชีวิตที่กำลังวิ่งมาทำให้ทวิชากับไมเคิลจำต้องล่าถอยไปก่อน เพราะสองแรงยังไงก็สู้ไม่ไหวอยู่แล้ว หากดันทุรังจะสู้ต่อไปทั้งสองอาจจะไม่ได้มีลมหายใจอยู่ต่อ เพื่อลากคอคนชั่วมารับโทษทัณฑ์ที่พวกมันได้ก่อไว้

เจ้าของร่างบางวิ่งนำหน้าเพื่อนหนุ่มไปทางลานจอดรถอีกด้าน เพื่อตัดฝ่าออกไปสู่ถนนใหญ่ ส่วนไมเคิลก็วิ่งตามหลังห่างออกมาอีกหลายก้าว

ปัง!

เสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัดทำให้สารวัตรสาวผ่อนฝีเท้าลง แล้วหันขวับกลับไปมองยังเบื้องหลัง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้แม่สาวขาโหดชาดิกไปทั้งร่าง ช็อคจนแทบลืมหายใจ ดวงตากลมโตเบิกค้าง เมื่อเห็นว่าไมเคิลโดนยิงเข้าที่ต้นขาแล้วร่างใหญ่ทรุดลงไปกองกับพื้น  ยังไม่ทันที่เธอจะวิ่งกลับไปช่วยเพื่อนรัก คนชั่วก็กรูเข้ามาประกบร่างของไมเคิลเสียก่อน

“มึงคงยังไม่รู้สินะ ว่าการได้เห็นคนที่เรารักตายไปต่อหน้าต่อตามันเป็นยังไง” ขณะที่ข่มขู่เสียงเย็นยะเยือกนั้นชายหน้าเหี้ยมก็จี้มีดปลายแหลมเข้าที่ลำคอของไมเคิล

“อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ!” ทวิชาตะโกนก้องพลางทำท่าจะทะยานเข้าไปเล่นงานคนที่ถือมีดอยู่ แต่โดนชายร่างยักษ์สองคนล็อกตัวเอาไว้เสียก่อน

“คุกเข่าอ้อนวอนกูสิสารวัตร ถ้าคนหยิ่งทระนงอย่างมึงกล้าคุกเข่าให้กู กูก็จะกล้าไว้ชีวิตมัน” ยื่นข้อเสนออันแสนอัปยศเพราะรู้ดีว่าสารวัตรสาวรักศักดิ์ศรียิ่งชีพ

“อย่านะนก!” ไมเคิลห้ามช้าไปเสียแล้ว ร่างบางของทวิชาทรุดลงไปคุกเข่าแทบเท้าชายโฉดด้วยสีหน้าเย็นชา แต่ในใจกำลังเดือดปุดๆ จนต้องกำหมัดแนบลำตัว เห็นเลือดไหลออกมาจากต้นขาของเพื่อนรักหญิงสาวก็น้ำตาคลอเบ้า

ยังไม่ทันที่คนชั่วจะได้เชือดไก่ให้ลิงดูตามที่มันต้องการทำเพื่อความสะใจ เสียงไซเรนจากรถตำรวจก็ดังก้องไปทั่วบริเวณลานโล่งเสียก่อน

“เฮ้ย…พ่อมึงมา หลบไปก่อน” ไอ้หัวโจกรีบตะโกนบอกลูกกระจ๊อกทั้งหลายเมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจ ทำให้กลุ่มคนชั่วแตกฮือประหนึ่งผึ้งแตกรัง

“ที่มึงคุกเข่าก็เพื่อไม่ให้กูเชือดคอมัน กูก็ไม่ได้เชือดคอมันตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ ส่วนนี่คือของแถม” ขาดคำเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกหนึ่งนัด

ปัง!

“ไมเคิล!” ทวิชาเบิกตาค้าง ก่อนจะตะโกนเรียกเพื่อนรักเสียงหลง พร้อมวิ่งเข้ามาประคองร่างที่นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นคอนกรีตไว้แนบอก

“ทำใจดีๆ ไว้นะไมเคิล นกจะพาไปหาหมอ” เมื่อเห็นเลือดสีแดงฉานไหลออกมาจากช่วงอกของไมเคิล ทวิชาก็ละล่ำละลักบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ต้องกลั้นใจอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมา ความอ่อนแอเป็นสิ่งที่เธอรังเกียจและชิงชังมาโดยตลอด พยายามทุกวิถีทางที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองเผยมันออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ แต่มาบัดนี้มันกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับจิตใจของเธออย่างมิอาจห้ามได้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป