บทที่ 8 นางนกต่อจำเป็น (50%)
พอตื่นเช้ามาก็นั่งรถกลับนิวยอร์ก ไม่ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวอย่างเช่นทุกครั้ง ที่หากเกิดความล่าช้าเขาก็จะให้นักบินเอาเครื่องมารับ เพราะคิดว่านิวเจอร์ซีย์อยู่ติดกับนิวยอร์ก การเดินทางด้วยรถยนต์คงจะใช้เวลาไม่นาน มันคงไม่ต่างอะไรมากนักกับขามา แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะคาดการณ์ผิดถนัด และนั่นก็ทำให้เขาสบถลั่นด้วยความหงุดหงิดมาตลอดทาง ไม่อยากเสียเวลารอเครื่องที่กัปตันจะต้องบินออกมาจากนิวยอร์กแค่ไม่กี่อึดใจ แต่ดันมาเสียเวลาเพราะรถติดซะได้ ยังดีที่เทศบาลมาเคลียร์ทางเอาหิมะออกให้แต่เช้ามืด ไม่เช่นนั้นเขาคงจะต้องติดอยู่บนถนนเส้นหลักอีกหลายชั่วโมง
“นายจะให้ผมพากลับบ้านเลยไหมครับ” แฟรงค์เอี้ยวหน้าเพียงนิดกลับมาถามเจ้านายไว้ก่อน เพราะหากฝ่าการจราจรคับคั่งจากตรงนี้ไปได้ รถก็คงแล่นฉิวอย่างสบาย จะไปติดอีกทีก็คงเป็นในตัวเมืองนิวยอร์ก
ถามไถ่ผู้เป็นเจ้านายเสร็จก็เบนสายตากลับไปทางเดิม เพื่อนำพารถยนต์คันหรูให้แล่นลิ่วไปตามวิถีถนน แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากคนที่นั่งอยู่บนเบาะหลังคือความเงียบงัน ทำเอาคนถามต้องขมวดคิ้วหนาเข้าหากัน แปลกใจอย่างมากล้นที่เจ้านายทำเหมือนใจลอย ทนไม่ไหวก็แอบชำเลืองดูท่าทีของอีกฝ่ายผ่านทางกระจก
บรื้น!!!
เสียงเครื่องยนต์ของบิ๊กไบค์สีแดงเพลิงดังกระหึ่มขึ้นใกล้ๆ แต่เพียงชั่วพริบตาก็โฉบเฉี่ยวซิกแซกแซงตัดหน้าทำให้คนที่ทำหน้าที่เป็นพลขับถึงกับสบถออกมาเบาๆ อย่างยั้งใจไม่อยู่ เพราะบิ๊กไบค์คันนั้นเฉียดเข้ามาใกล้จนเกือบจะทำให้รถราคาแพงของเจ้านายมีรอยราคี แต่ถึงจะรีบแค่ไหนมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ก็ไม่สามารถผ่านพ้นสัญญาณไฟจราจรไปได้ สุดท้ายก็ต้องมาติดแหง็กที่ไฟแดงดุจดังรถยนต์จากค่ายหรูอีกหลายสิบคันที่กำลังไล่หลังมาติดๆ และหนึ่งในนั้นก็คือรถที่มีผู้โดยสารกิตติมศักดิ์อย่างฟรานเชเซียส โบลาโกนี ร่างสง่างามและทรงพลังนั่งพิงพนักด้วยท่าทางผ่อนคลาย หลังจากถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ คล้ายยอมจำนนต่อความล่าช้า
นัยน์ตาสีทองอร่ามของเจ้าพ่อจอมอหังการทอดฝ่าละออกหมอกที่เกาะกระจกรถคันหรูอย่างเลื่อนลอยและไร้จุดหมาย จนมาสะดุดเข้ากับตำรวจสาวร่างอรชรอ้อนแอ้นนางหนึ่ง ที่สวมเสื้อกันกระสุนสีดำขนาดพอดีตัวทาบทับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พับแขนขึ้นมาเกือบจรดข้อศอกน้อย ซึ่งชายเสื้อถูกเจ้าตัวเก็บไว้ในขอบกางเกงอย่างเรียบร้อย แผ่นหลังบอบบางน่าทะนุถนอมที่มีผมยาวสลวยสีดำขลับทิ้งตัวลงมาปกคลุมจนถึงบั้นเอวคอดกิ่ว รับกับสะโพกผายภายใต้กางเกงยีนส์รัดรูปสีดำสนิทได้อย่างน่ามอง
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเธอมันดูเหมาะเจาะลงตัว ดังสวรรค์เสกสรรค์ปั้นแต่งให้แม่เทพธิดานักซิ่งเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ มองแล้วเซ็กซี่เป็นบ้า เท่ห์อย่าบอกใคร แถมยังดูสง่างามอย่างบอกไม่ถูก ถ้าได้นั่งซ้อนท้ายแล้ววาดลำแขนกำยำไปโอบกอดเอวคอดนั่นสักครั้งคงจะรู้สึกดีไม่หยอก คิดแล้วฟรานเชเซียสก็อยากเห็นหน้าแม่สาวใจกล้าที่ออกมาท้าลมหนาวในเวลาเช้าๆ อย่างนี้ขึ้นมาตงิดๆ
ทวิชาไม่มีอาการสั่นไหวเพราะร่างกายของเธอได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี จนแข็งแกร่งไม่ต่างจากชายชาตินักรบ จึงสามารถทานความหนาวเหน็บอย่างไม่สะทกสะท้าน แถมแม่คุณยังไม่ใส่เสื้อโค้ทเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ท้าทายทั้งลมหนาวและสายตาผู้พบเห็น โดยเฉพาะฟรานเชเซียส โบลาโกนี บุรุษผู้ไม่เคยแยแสต่อสตรีใดในโลกยกเว้นมารดาของตัวเอง แต่ตำรวจสาวคนนี้กลับทำให้เขาไม่อาจมองข้ามไปได้ มัวแต่มองแม่นักซิ่งสาวที่ขับบิ๊กไบค์สีแดงเพลิงปรู๊ดปร๊าดปาดหน้ารถยนต์คันแล้วคันเล่า จนลืมสนใจคำถามของลูกน้องไปโดยปริยาย
“นายครับ” แฟรงค์เอ่ยเรียกเจ้านายด้วยความเกรงใจอีกครั้ง หากไม่ใกล้จะเลยทางแยกที่ตัดเข้าไปยังนิวยอร์ก เขาก็คงไม่ขัดอารมณ์สุนทีรย์ของอีกฝ่ายหรอก เพราะไม่เคยเห็นเจ้าพ่อค้าอาวุธผู้ยิ่งใหญ่จะให้ความสนใจกับผู้หญิงคนไหนอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้มาก่อน
“หืม…แกว่าอะไรนะแฟรงค์” คนที่เพิ่งถูกปลุกให้หลุดจากภวังค์ถอนสายตาจากภาพเบื้องหน้า แล้วถามอีกฝ่ายราวคนละเมอ แต่เพียงชั่วเสี้ยวนาทีก็ต้องเบนความสนใจกลับไปทางเดิม
ในจังหวะที่รถติดไฟแดงอีกจุด ทวิชาก็ถอดหมวกกันน็อกใบโตออก ปล่อยผมยาวสลวยให้คนแอบมองได้เห็นเพียงชั่วพริบตา แต่การสะบัดเรือนผมดำขลับไปมาแค่เสี้ยวนาทีก็สามารถตราตรึงสายตาเจ้าพ่อหนุ่มได้อย่างชะงัด ทำเอาหัวใจกระด้างแทบหยุดเต้น ก่อนที่หญิงสาวจะรวบมันด้วยยางเส้นเล็กสีดำ แล้วสวมครอบหมวกกันน็อกลงไปดังเดิม
ขณะเดียวกันนั้นฟรานเชเซียสก็วาดเรียวขาแกร่งไขว่ห้าง แล้วยกมือขึ้นลูบปลายคางบึกบึนเบาๆ พร้อมทอดนัยน์ตาคมเฝ้ามองทุกอากัปกิริยาอย่างไม่อาจละสายตาออกมาจากภาพนั้นได้ มองจนเกือบจะลืมแม้กระทั่งหายใจ ทั้งที่เขาไม่เคยพิสมัยคนในเครื่องแบบเลยสักนิด แต่แม่ตำรวจสาวตรงหน้ากลับทำให้เขารู้สึกเพลินจนไม่อาจถอนสายตาไปไหนได้
“เอ่อ…นายจะให้ผมพากลับบ้านเลยไหมครับ” ถามเสร็จแฟรงค์ก็ลอบยิ้มกริ่มที่มุมปาก เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายมองตาก้นสาวจนตาค้างแบบนี้มาก่อน แถมเป้าหมายในครั้งนี้ยังเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ซะด้วย
“ไม่ เข้าบริษัทก่อน บอกคนเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนด้วย” ทั้งที่อยากกลับไปงีบเต็มทนแต่ปากดันสั่งให้ลูกน้องบึ่งรถไปบริษัท เพราะหัวใจกร้าวกระด้างชักเหมือนจะลอยตามแผ่นหลังแสนเซ็กซี่ของแม่ตำรวจสาวปริศนาที่เขายังไม่มีโอกาสได้ยลโฉมหน้า

























































































































































