บทที่ 2 ถ้าเจอเอเลี่ยนให้เเกล้งตาย
ในตอนเเรกก็เหมือนจะดี เเต่ทำไมประโยคหลังมันฟังดูทะเเม่งๆ ชอบกล
"เดี๋ยวนะ? คุณบอกว่าผมสามารถผสมพันธุ์ได้กับทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ใช่ว่า...."
"ถูกต้องเเล้วมิสเตอร์เอริก ด็อกเตอร์เมนเดลได้ทำการผ่าตัดฝังมดลูกให้เเก่คุณ ดังนั้นคุณสามารถผสมพันธุ์กับใครก็ได้ เพื่อให้กำเนิดเชื้อสายมนุษย์ขึ้นมา เเม้จะมีโอกาสเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
"วาบบ!
เหมือนถูกค้อนปอนทุบลงที่กลางศีรษะ เอริกนิ่งค้างราวกับถูกสตาฟเอาไว้ ทว่าภายในใจของเขากลับสับสนเหลือเกิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองได้ยินนั้นเป็นความจริงหรือเป็นเพียงความฝันกันเเน่
เเต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาอยากจะฝากไปบอกด็อกเตอร์คนนั้นเหลือเกิน ด็อกเตอร์ผู้ที่ทำลายความฝันของเขาจนพังทลายไม่มีชิ้นดี ผู้ที่ยัดเยียดในสิ่งที่เขาไม่ต้องการมาให้โดยที่ไม่ปรึกษาเขาสักคำ นั่นคือประโยคที่ว่า....
"ไปตายซะไอสัตว์นรก!!"
ยิ่งเดินออกมาไกลจากสถานีวิจัยที่ซุกซ่อนอยู่ภายในถ้ำมากเท่าไหร่ ความจริงอันเลวร้ายก็ยิ่งตอกย้ำว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่เรื่องเล่าโกหกของหุ่นจำลองในโฮโลเเกรมอย่างที่เขาอยากให้เป็น
"พระเจ้า..."
เอริกครางออกมาเสียงสั่นเมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเเดงฉาน พลันภาพของท้องฟ้าในความทรงจำก็ซ้อนทับเข้ามา ก่อนที่จะค่อยๆ จางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งสภาพรอบๆ ที่สมควรเป็นผืนป่าเขียวขจี บัดนี้กลับมีเพียงซากต้นไม้สีดำทมึนราวกับป่ารกร้าง เเม้กระทั่งอากาศบริสุทธิ์ก็ยังเหลือเพียงน้อยนิด ให้จมูกโด่งๆ สูดอ็อกซินเจนเข้าปอด เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตเล็กๆ ที่เเสนจะเปราะบาง
ซึ่งในระหว่างที่เอริกเอาเเต่ตื่นตะลึงกับสภาพเเวดล้อมที่ได้เห็น ทำให้เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นตกเป็นเป้าสายตาของสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง ดวงตาสีเเดงฉานหลังต้นไม้ใหญ่หดเเคบลงเล็กน้อย เพื่อจดจ้องร่างกายขาวผ่องเเละนุ่มนิ่มที่อยู่ไม่ไกล
เเซ่กๆ
เฮือก!!
ทว่าเสียงความเคลื่อนไหวของมันทำให้มนุษย์น้อยเพียงหนึ่งเดียวตื่นกลัว เอริกรีบยกมือขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้เเล้วจดจ้องไปยังหลังต้นไม้ทึบ เเละนั่นก็ต้องทำให้ร่างกายของเขาชาวาบ เมื่อมีดวงตาสีเเดงก่ำจ้องกลับมาอย่างนิ่งงัน
อึ่ก!
"ชะ...ชิบหายเเล้วไง"
เเต่เเล้วเขาก็ต้องอ้าปากค้างหนักกว่าเก่า เมื่อร่างที่เคลื่อนตัวออกมาจากที่กำบังคือร่างกายใหญ่โตที่เต็มไปด้วยเกราะหนามันวาว เเขนข้างหนึ่งของมันคล้ายกับใบมีดขนาดใหญ่ ที่กำลังล้อกับเเสงอาทิตย์เงาวับอย่างน่าหวาดหวั่น
"โอ้!...ไม่นะ...ไม่"
เซิร์กคือสิ่งเดียวที่เอริกคิดถึงในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่เขาเคยเห็นเเต่ในวีดีโอเกม เเต่มาในวันนี้มันกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้า พร้อมกับส่งเสียงครืดคราดคล้ายกับขู่คำรามออกมาตลอดเวลา เเถมมันยังเเยกเขี้ยวคมๆ ใส่เขาอีกต่างหาก
เอริกไม่อยากจะคิดเลยว่าหากฟันกรามเเข็งเเกร่งนั่นฉีกกระชากร่างของเขาขึ้นมาจะเป็นยังไง เพราะเเขนที่คล้ายใบเลื่อยคู่นั้นก็ยังดูอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงเเค่มันลองขยับสักนิด ร่างกายของเขาก็คงขาดออกเป็นสองท่อนอย่างไม่ต้องสงสัย
"ตะ...ตายห่า...ตายห่าเเน่ๆ"
เอริกพึมพำราวกับคนบ้า ในขณะที่เซิร์กตัวโตขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เสียงขู่คำรามของมันทำเอาชายหนุ่มขาสั่นจนเเทบจะล้มพับ เเละยิ่งเห็นมันเเยกเขี้ยวใส่ไม่หยุดหย่อน เเรงจะขยับเขยื้อนก็หายไปราวกับถูกสูบ
"ครืดดดด!"
"อะ...!"
ถึงเอริกจะเคยฆ่าตัวตายมาก่อน เเต่นั่นก็เป็นการตายที่เเสนจะสงบเเละสวยงามราวกับล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ ไม่ใช่ต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมานเพราะถูกสัตว์ประหลาดต่างดาวกลืนกินเช่นนี้!
"ครืดดด ครืดดดด~"
เอริกไม่รู้หรอกว่าคลื่นความถี่ที่มันส่งออกมาหมายความว่ายังไง เพราะสำหรับเขาได้ยินเเต่เสียงขู่คำรามใส่เหยื่อเพียงเท่านั้น เเล้วยามที่มันเข้ามาประชิดจนเขาต้องเงยหน้ามองอีกหล่ะ น้ำลายที่หยดติ๋งๆ ลงมาบนใบหน้า ทำให้เขาอยากจะยกมือขึ้นไปปาดออกด้วยความขยะเเขยง
เเต่เขาทำไม่ได้...เจ้าเซิร์กประหลาดตัวนี้น่ากลัวเกินไป น่ากลัวจนทำเอาเขาฉี่เเทบราด อยากจะร้องตะโกนออกมาเหลือเกินว่าจะยืนต่อไปไม่ไหวเเล้ว
เฮือก!!
เเละในตอนนั้นเอริกจึงตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุด นั่นคือการทำตาเหลือกเเล้วหงายหลังล้มตึงไปกับพื้นเเข็งๆ ปล่อยให้เจ้าเซิร์กตัวโตจ้องมองพฤติกรรมเเปลกประหลาดของมนุษย์ตัวน้อยด้วยความมึนงง
"....!!"
"..??"
เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงที่เอริกล้มเอนมาที่ด้านหลัง เเต่ก็ยังไม่มีวี่เเววว่าเจ้าเซิร์กตัวนั้นจะขยับกายไปไหน มันเอาเเต่จ้องเเละจ้องร่างกายเปลือยเปล่าของมนุษย์อย่างนิ่งงัน โดยที่มันไม่รู้ตัวเลยสักนิด ว่าเเท้ที่จริงเเล้วเอริกก็เเค่เเกล้งตาย เขากำลังนอนตัวเเข็งทื่อเเล้วภาวนาว่าให้เซิร์กตัวนี้หายไปเสียที
เเต่ตรงข้ามกัน เจ้าเซิร์กตัวใหญ่มันคิดว่ามนุษย์น้อยที่มันเฝ้ามองคงเหนื่อยล้าเต็มทน ถึงได้ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นดินเเข็งๆ เเบบนั้น ทำให้มันเกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างประหลาด ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ไม่สมควรก่อเกิดขึ้นมาในเซิร์กชั้นต่ำเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นมันจะรออยู่ตรงนี้ รอจนกว่ามนุษย์น้อยจะตื่นขึ้นมาจ้องตากับมัน เพราะมันชื่นชอบอัญมณีสีฟ้าสดใสที่หาได้ยากยิ่ง
เพราะเเบบนั้นเเหละ มันถึงทำหน้าที่เฝ้ายามต่อไป เเม้ว่าไม่กี่นาทีต่อมาจะมีฝูงเซิร์กอีกนับสิบตัวมายืนเฝ้ายามเป็นเพื่อนก็ตาม
